บริหารงานฝึกอบรม:ลดความสูญเสีย


ทั้งนี้ก็มีหลายมุมมองนี่เป็นส่วนราชการเขาดูแลให้คุณเข้าอบรมพัฒนาศักยภาพในการทำงานแล้วยังไม่มา..หากเป็นเอกชนคุณต้องขวนขวายไปหาสิ่งเหล่านี้มาเพิ่มพูนสมรรถนะในการทำงาน..ไม่งั้นก็ถูกเชิญออกจากงานไปหากไม่มีสมรรถนะเพียงพอ

ทุกปลายปีงบประมาณจะมีตัวเลขข้อมูลชุดหนึ่งที่ทำให้หงุดหงิดหัวใจ
ปีละ หนึ่งหมื่น สองหมื่น สามหมื่นมีแนวโน้มไปในทางเพิ่มขึ้น...
ล่าสุดปีงบ 48 วิ่งไปถึง 38,640.- ทุกปลายปีเราก็ได้แต่รายงานเป็นความสูญเสียที่เกิดจากการไม่เข้าฝึกอบรมอาจดูไม่มากหากเราแยกรายงานทีละโครงการปีละ 56โครงการ มีจำนวนคนมาเข้ารับการอบรมในโครงการที่เราจัด3,000กว่าคน...เฉลี่ยแล้วสูญเสียโครงการละ 690.-ต้องมีช่องทางลดความสูญเสียได้ซิ..มีการนำประเด็นนี้เข้าพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องจึงคลอดมาตรการออกมา"เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากหน่วยงานที่ส่งคนเข้าอบรมแล้วไม่มาเข้าอบรม" ใช้มา 13 เดือน ตัวเลขเป็นไปในทางที่ดียอดคนที่ไม่มาเข้าอบรมต่ำลง...แต่ก็ยังคงมีให้เรียกเก็บประปราย 
      
      เราเริ่มมาตรการนี้เมื่อ 5 เมษายน 2549 โดยตัดเงินที่ต้นทาง กองคลังตัดเงินคณะหน่วยงาน..จากนั้นสุดแล้วแต่ว่าคณะจะไปกำหนดว่า...กรณีไหนคณะจ่าย...กรณีไหนเจ้าตัวจ่าย...แต่ทั้งนี้เรามีกติกา...สามารถแจ้งยกเลิกการเข้าร่วมโครงการ โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้า...3 วันก่อนวันจัดกรณีจัดในสถานที่ และ 5 วันก่อนจัดกรณีจัดนอกสถานที่  แจ้งยกเลิกได้ทั้งทางอีเมลหรือโทรศัพท์
แน่หล่ะเราได้รับการตัดพ้อ..การบ่น..ว่าเราบริหารจัดการบนความไม่ยืดหยุ่นไม่ดูแลใจพนักงาน อย่างนี้ใครจะกล้าสมัครมาเข้าอบรมหล่ะเพราะความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ นอกจากเขาต้องทำงานชดเชยเวลาที่มาเข้าอบรมแล้ว หากมีงานด่วนขึ้นมาจัดสรรเวลาไม่ได้ต้องเสียเงินอีก...สู้ไม่ต้องสมัครเข้าร่วมโครงการอะไรเลยจะดีกว่า..."ว่าไม่เห็นใจใครจะห้ามเหตุการณ์สุดวิสัยได้ ติดงานด่วน มีอุบัติเหตุ เจ็บป่วยไม่สบายกระทันหัน ล้วนเป็นเหตุผลที่ฟังกัน...และดูจะฟังขึ้น

...อุ๊ย!ลืมไปสนิทเลย.ขอโทษทีตายหล่ะงานเต็มโต๊ะเลยทำไงดี..ขอยกเลิกแล้วกันนะ...
    
ผลพวงจากมาตรการนี้ทางงานของเราต้องปรับปรุงกระบวนการผู้รับผิดชอบโครงการจะยุ่งยากกว่าเดิม..ต้องทำงานระบบยิ่งขึ้นมีระบบการตอบรับการเข้าร่วมจะทำแบบหลงๆลืมๆไม่ได้..มีการจัดการความเสี่ยงโดยผู้ดูแลโครงการเอง..เช่นในการสั่งอาหารให้น้อยลง ยึดหลัก..เพิ่มจำนวนหัวจะ..ต่อรองง่ายกว่าลดจำนวน..เรียนรู้ที่จะ...แก้ปัญหา..และอุดรอยรั่ว..และปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดกับบุคลากรต่อรอง อธิบายให้เข้าใจ...เราได้ใช้...gotoknow.orgในการแจ้งตอบรับการเข้าอบรมเดิมวางแผนไว้ว่าหากมีระบบการใช้ภายใน(share.psu.ac.th) จะกำหนดให้ผู้ปฏิบัติในงานทุกคน ใช้ระบบนี้เพื่อเป็นการนำงานประจำใช้ในวงนั้น...

ทั้งนี้มีหลายมุมมองนี่เป็นส่วนราชการเขาดูแลให้คุณพัฒนาศักยภาพในการทำงานฟรีแล้วยังไม่มา..หากเป็นเอกชนที่ต้องขวนขวายไปหาสิ่งเหล่านี้มาเพิ่มพูนสมรรถนะในการทำงาน..ไม่งั้นก็ถูกเชิญออกจากงานไปหากไม่มีสมรรถนะเพียงพอ

หมายเลขบันทึก: 97071เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2007 20:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะ

อืมม์..... เข้าใจความเครียดค่ะ

สวัสดีค่ะน้องจิ๊บที่คิดถึง

  • เก่งจังค่ะน้องของพี่อ้อย
  • อย่าเครียดกับงานมากนะคะ....อะไรมันมีสูตรลงตัวแล้วค่ะน้อง

ครูอ้อยส่งกำลังใจไปช่วยค่ะ

  • ใช่ค่ะ  ขนาดหนิงไม่ใช่หน่วยงานที่ทำหน้าที่ฝึกอบรม  หรือพัฒนาบุคคลากรนะคะ  แต่หนิงก็เคยจัดอบรมแล้ว  ผู้เข้าร่วมมาไม่ครบ  อาหารและเบรคที่สั่งมา  เหลือเยอะมาก   เคยคิดเล่นๆเหมือนกันค่ะ ว่าเราสูญเสียเงินไปมากโขอยู่ 
  • เข้าใจความรู้สึก  ที่ว่า เลยค่ะ
  • แวะมาทักทายครับ
  • เห็นการปรับกระบวนท่าอยู่ตลอดเวลาแล้ว..นับถือๆ ครับ
  • ขอบพระคุณมากครับที่นำมา ลปรร.
ปัญหามีไว้แก้ไข คุณจิ๊บ สู้ๆค่ะ เหมือนจะมาถูกทางแล้วนี่นะคะ
คุณsasinanda สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายกัน
ครูอ้อยคะ ขอบคุณค่ะ คิดถึงเช่นกันค่ะ
 คุณหนิง ขอบคุณค่ะ แวะอ่านกันเสมอ  

คุณจิ๊บคะ

การบริหารบางครั้งก็ยากและทำให้เครียด

แต่เข้าใจในสภาวการณ์ที่เจอ

บันทึกของคุณจิ๊บทำให้คิดถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา (ภายในคณะ)  ได้ข้อคิดนำไปต่อยอด คงต้องเริ่มทำจากคณะฯ ตัวเองก่อน  สร้างวัฒนธรรมใหม่ให้เกิดขึ้น ลดความสูญเสีย เพิ่มความรับผิดชอบ (ส่วนบุคคล) ให้มากขึ้น  เช่น ให้ตอบรับ ถ้าใครไม่ตอบรับไม่จัดอาหารให้ (ฮา..) ถ้าใครตอบรับแล้วไม่มี มีแจ้งเพื่อทราบด้วย ได้เรื่องอย่างไรจะเล่าสู่กันฟังค่ะ (แต่ทั้งหมดต้องเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อตกลงกันค่ะ)

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท