มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน
ว่าที่ร้อยตรี จิรศักดิ์ กรรเจียกพงษ์

วัยรุ่นยุคสมัยจับคู่ผัวเมีย


นำเสนอข้อเขียนของ แกนนำเยาวชน โครงการเยาวชนรู้เรียน Right to know (RTK) ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการสื่อสารเรื่องเอดส์และเรื่องเพศแก่เยาวชน ดำเนินการโดย มูลนิธิพัฒนาเครือข่ายเอดส์ (เอดส์เน็ท) สำนักงานภาคเหนือ สนับสนุนงบประมาณ

อรพิน

ปัจจุบันนี้ เรามักจะเห็นวัยรุ่นอยู่กันเป็นคู่ ไปไหนมาไหนสองต่อสอง เช่าหอเช่าห้องอยู่ด้วยกัน นั่นเป็นสิ่งปกติในสมัยนี้ ผู้ใหญ่ก็ได้แต่บ่นว่า วัยรุ่นสมัยนี้ชอบทำอะไรไม่เกรงใจผู้ใหญ่ และมองว่าไม่รู้จักอาย นั่นคือทัศนคติที่พวกผู้ใหญ่มอง และเป็นเช่นนั้นจริง ๆ วัยรุ่นทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะวัยรุ่นที่พ่อแม่ส่งไปเรียนในเมือง แล้วเช่าหอพักหรือเช่าบ้านอยู่ตามลำพัง ไกลหูไกลตาพ่อแม่ไม่มีญาติพี่น้องคอยดูแล

หลายคนเอาเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้ เที่ยวเตร่สนุกสนานแจกจ่ายเลี้ยงผู้หญิง เช่นเดียวกับผู้หญิงหลายคนก็เที่ยวเตร่ไปเลี้ยงผู้ชาย จนไม่เป็นอันร่ำอันเรียน กว่าพ่อแม่ที่อยู่ห่างไกลจะรู้ว่าลูกเป็นอย่างไร ลูกก็ออกจากโรงเรียนไปอยู่ด้วยกันแล้ว

และอีกหลายคนจับคู่อยู่ด้วยกันในขณะที่กำลังเรียนอยู่ หลายคนเรียนไม่จบโดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่เกิดท้องขึ้นมาและหาทางออกด้วยการเสี่ยงไปทำแท้ง บางคนก็ได้ลูกที่ไม่มีพ่อเพราะฝ่ายชายไม่รับผิดชอบ ต้องหอบลูกกลับบ้านไปเป็นปัญหาครอบครัวและเป็นปัญหาสังคมต่อไป และมีอีกหลายคนที่เตลิดเปิดเปิงเสียผู้เสียคนไป

รุ่นพี่คนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่า เธอมีเพื่อนเยอะมาก แต่ละคนหัวดื้อและใช้เงินแบบไม่ประหยัด มีเท่าไรก็ใช้หมด เวลาไม่มีก็โทรไปบอกทางบ้านว่า ต้องใช้เงินค่าโน่นค่านี่ พ่อแม่ก็ส่งเงินมาให้ วันหนึ่งต้องการเงินก็บอกแม่ว่า วันนี้ต้องซื้อแลนเซอร์ราคาหนึ่งพันห้าร้อยบาท พูดภาษาอังกฤษพ่อแม่ไม่รู้ว่าคืออะไร คิดว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับการเรียนแบบใหม่ ก็รีบส่งเงินไปให้ลูกทันที

นี่คือเรื่องราวส่วนหนึ่งของวัยรุ่น ที่พ่อแม่ส่งไปเรียนในเมืองห่างไกลบ้าน เป็นเรื่องราวธรรมดาที่เรารู้ ๆ กันอยู่ แต่ต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อวัยรุ่นที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่

ฉะนั้น พ่อแม่ที่มีลูกกำลังโตเป็นหนุ่มเป็นสาว หากว่าส่งลูกไปเรียนไกลบ้าน ต้องดูแลเขาอย่างดี ต้องเข้าใจเขา แต่จะไว้วางใจเขาทั้งหมดไม่ได้ ต้องมีคนที่ไว้ใจได้คอยสอดส่องดูแล แต่ทางที่ดีควรให้ลูกอยู่ใกล้ ๆ พ่อแม่จะดีกว่า ให้เรียนโรงเรียนใกล้บ้านเพื่อความปลอดภัยของลูก

ที่กล่าวมานี้ไม่ได้หมายความว่า วัยรุ่นทั้งหมดที่มาเรียนในเมือง จะทำตัวเช่นที่กล่าวมา เพราะยังมีอีกมากมายที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบโดยไม่ออกนอกลู่นอกทางก็มี

 

อรพินท์ อามอ เข้ามาอยู่กับโครงการเยาวชนรู้เรียนประมาณ 3 ปีมาแล้ว ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ตระเวนออกไปเผยแพร่เรื่องโรคเอดส์กับเพื่อน ๆ เนื่องจากต้องอยู่หอพักประจำ แต่ก็ได้ออกไปอบรมหรือทำกิจกรรมต่างๆ กับพี่ๆ และเพื่อนๆ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งทำให้มีความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์และโรคอันเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น

ที่มา : ประชาไท


 

หมายเลขบันทึก: 95939เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2007 12:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2014 13:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • จริง
  • ขอพูอแค่นี้แหละครับ สลดใจ

ผลพวงหนึ่งจาก New World Order และโลกาภิวัตน์

ทำลายจากภายใน แล้วเราก็จะกลายเป็นทาสอย่างสมบูรณ์

Mr.แอนเดอร์สัน คุณจะช่วยโลกนี้ไว้ได้อย่างไร ในเมื่อเรายึดโลกไว้เกือบหมดแล้ว

 They're crazy.


Look familiar?


It's never too early...

Matrix Reloaded

ยอมเสียเถิด Mr.แอนเดอร์สัน 

พฤติกรรมหมาปัญญายุง  ได้ครองโลกนี้ไว้หมดแล้ว

ยอมเสียเถิด Mr. แอนเดอร์สัน มาเป็นพวกเรา

แล้วเราจะสร้างโลกนี้.............

ให้กลายเป็นนรก

-----------------------------------------------------------------

  • ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องให้ดีนะครับ
  • ขอเป็นกำลังใจให้คนทำงานเพื่อเยาวชนครับ

"เราคือผู้สร้างโลกในอนาคตผ่านการสร้างเด็ก"

ก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ทำงานเพื่อเด็กๆ อนาคตของชาติแหละค่ะ  มันเป็นเรื่องยากและต้องอาศัยแรงกายและแรงใจเป็นอย่างยิ่ง

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท