APHN Diploma of Palliative Care ๑: หลักสูตร


หลักสูตรเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในภูมิภาค Asia Pacific

ตอนนี้ผมกลับมาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอีกครั้ง ของ Flinders University เมือง Adelaide ออสเตรเลีย ใช้คำนี้มันรู้สึกกระชุ่มกระชวยในใจพิลึก เหมือนเป็นเด็กอีกครั้งยังไงไม่รู้         

หลักสูตรนี้เป็นความร่วมมืิอของ  Flinders University กับ Asia Pacific Hospice Palliative Care Network (APHN) ที่ผมเป็นกรรมการอยู่ จัดขึ้นเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในภูมิภาคนี้         

ผู้เข้าเรียนเป็นหมอ พยาบาลเป็นส่วนใหญ่จากประเทศในแถบนี้ตั้งแต่อินเดียไปจนถึงจีน          

การเรียนเป็นหลักสูตรทางไกล เรียนผ่าน internet ใช้เวลาประมาณ ๑ ปี เพราะสามารถยืดหยุ่นได้ตามผู้เข้าเรียนแต่ละคน ประมาณเมย. ถึงมีค.ปีถัดไปของทุกปี โดยจะมีตารางที่เป็นชั่วโมงสอนกำหนดตายตัวไว้ ๒ ครั้งๆละ ๒ สัปดาห์ ในเดือน พค. และ ตค. เรียกว่า intensive course ทีผู้สอนจากออสเตรเลียบินมาสอนที่สิงคโปร์ โดยนักศึกษาไม่ต้องบินไปถึงออสเตรเลียเอง และปิดท้ายด้วยการดูงานที่เรียกว่า clinical attachment ในสถาบันที่ได้รับการรับรองในประเทศใดก็ได้อีก ๑ เดือน จบแล้วจะได้รับ Certificate จาก Flinder         

ที่ผมบอกว่ายืดหยุ่นได้ประมาณ ๑ ปี เพราะ ช่วงเวลา clinical attachment เป็นช่วงที่นักศึกษากำหนดช่วงเวลา สถานที่ หัวข้อเรื่องที่สนใจได้เอง อาจจะช้าไปบ้าง เพราะส่งการบ้านไม่ทัน หรือขยายเวลาเป็น ๓ เดือนเพื่อจะได้เป็น Diploma  

  ทำไมผมถึงต้องกลับมาเรียนอีก                                                          

ไม่มีใครแก่เกินเรียน ผมยังรู้สึกว่า การเรียนเองจากการดูแลผู้ป่วยของเราแล้วค้นข้อมูลอ่านก็ทำได้ แต่ขาดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยเฉพาะจุดที่ผมยังรู้สึกว่าตัวเองอ่อน คือ การดูแลรักษาอาการต่างๆทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปมากๆ โดยเฉพาะในลักษณะที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ หรือ evidence based และอีกส่วนคือ ทักษะในการสื่อสาร ซึ่งผมมองว่า เรียนจากการอ่านไม่ได้ ต้องเห็นตัวอย่างที่ดี แล้วลงมือปฏิบัติจริง         

ผมหวังว่าโรงพยาบาลสงขลานครินทร์จะเป็นสถานที่ดูงานด้านนี้ในระดับภูมิภาค การจะได้รับการรับรอง ก็ต้องมีบุคลากรที่ผ่านการอบรมหลักสูตรที่เป็นที่ยอมรับ ตอนนี้ก็มีอาจารย์ลักษมี ชาญเวชช์ ภาควิชาวิสัญญีจบมาแล้วหนึ่งคน          

 ผมเลือกเรียนหลักสูตรนี้ เพราะใช้เวลาไม่นาน เหมาะกับพวกสว. สูงวัยอย่างผม เรียนไปทำงานไปก็ได้ แล้วก็ไม่ไกลบ้านจนเกินไป ค่าใช้จ่ายไม่แพง และที่สำคัญ ยืดหยุ่นได้ สามารถเลือกช่วง clinical attachment ไปประเทศที่อยากไปได้ โดยผมตั้งใจจะเลือกไปสัก ๒ ประเทศใน ๓ เดือนสุดท้าย ซึ่งน่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกับเรา ๑ ประเทศ แล้วออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์อีก ๑ ประเทศ เพื่อเปรียบเทียบกัน            

ใครที่ยังไม่ว่างเรียน ก็ลองอ่านประสบการณ์ของผมไปพลางๆ นะครับ

APHN Diploma of Palliative Care ๒: ทักทาย >>

 

ส่วนชีวิตประจำวันในสิงคโปร์ ผมเขียนบันทึกยกต่างหาก ที่นี่ ครับ 

หมายเลขบันทึก: 95135เขียนเมื่อ 9 พฤษภาคม 2007 07:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

โบกธงเชียร์เป็นกำลังใจครับ อีกหน่อยเราจะมี Alumni ของหลักสูตรนี้ที่ ม.อ. สงสัยประธานน่าจะเป็นหน้าคุ้นๆล่ะหนอ

ทิ้งรอยไว้ลึกๆและอ่านง่ายนะครับ จะมีคนเดินย่ำต๊อกตาม

หายไปนานเลยนะครับอาจารย์...คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว..อิอิ

  • คิดถึงข้าวหมกไก่ครับ..
  • ขอแสดงความยินดี
  • ขอเป็นกำลังใจ แต่หนุ่ม(หญ่าย)ไฟแรง
  • สิ่งที่คุณหมอทำก็จะเป็นคุณูปการแด่ชาวไทยเราอย่างมาก
  • ในฐานะผู้ที่อาจจะเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายกับเขาเหมือนกัน(ใครจะไปรู้) ขอให้คุณหมอเรียนจบไวๆ สุขภาพแข็งแรง  และกลับมาเป็นที่พึ่งให้แด่คนเจ็บป่วยในเร็ววันครับ
  • ไชโย ๆ ๆ (รู้สึกยิ่งใหญ่ดีไหมครับ)
จะตามอ่านครับ ถ้าอาจารย์เปิดหลักสูตรในไทยเมื่อไหร่ผมก็อยากเรียนครับ
เห็นด้วยมากๆค่ะ จะติดตามเรียนจากอาจารย์

Dear all!,

I'll try my best to transfer what I've learned here in SIngapore via this blog.

Sorryfor my English, I cannnot use Thai character in this computer.

ส่งกำลังใจและความปรารถนามากมายโบยบินไปเชียร์"นักเรียนสว. หัวใจยังหนุ่ม" คนนี้ เชื่อมั่นค่ะ

 

พิมพ์ตก เดี๋ยวผิดความ

 

ส่งกำลังใจและความปรารถนาดีมากมายโบยบินไปเชียร์"นักเรียนสว. หัวใจยังหนุ่ม" คนนี้ เชื่อมั่นค่ะ

P ครับ

ผมเขียนมาจากสิงคโปร์ได้ ๑๘ ​ตอน จะทยอยลงบันทึกไปเรื่อยๆครับ 

 P ครับ
    ทราบว่าอาจารย์เจ็บหนัก ที่นี่ ถ้าหมอดูแลผู้ป่วยะยะสุดท้ายอย่างผมไปเยี่ยม ก็อย่าตกใจนะครับ 

P ครับ

กลับมาแล้วครับ แต่คงไม่ค่อยมีใครอยากใช้บริการผมเท่าไร 

น้องหมอ P ครับ

  • ดีใจที่มีคุณหมอสนใจเรื่องนี้อีกคน สงสัยอีตาสกล คงไปฝากรอยเอาไว้แถวภาคเหนือรอบนี้แหงเลย
  • ประมาณปลายเดือนตุลาคม เราจะจัด short course ให้กับหมอไทยที่กรุงเทพฯ ครับ ทางจุฬาฯ จะเป็นเจ้าภาพ ติดตามข่าวให้ดีนะครับ 

P ครับ

ขอบคุณมากครับ  

รอยยิ้มของพี่ในรูปใหม่นี่ เขาเรียกว่า  ยิ้ม palliative care เลยครับ

ท่านผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม

ขอบคุณครับ ในแรงปรารถนา..ดี ของท่านครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท