ผู้เขียนห่างหายจากบันทึกใน G'Day Mate ไปนาน นั่นเป็นเพราะว่าเริ่มๆ จะชินๆ กับชีวิตในออสเตรเลีย เลยทำให้สิ่งที่ได้พบได้เจอ ไม่ค่อยจะน่าแปลก หรือแตกต่างไปจากที่เคย จนถึงขนาดน่าสนใจแล้วนำมาบันทึกไว้
แต่พอนึกๆ ไป เดี๋ยวสักพักผู้เขียนอาจจะลืมได้ ประกอบกับ คนที่ยังไม่เคยมา ก็จะนึกภาพไม่ออก ดังนั้น เรื่องรถเมล์ธรรมดาๆ (ในความคิดของผู้เขียน) อาจจะเป็นเรื่องน่าสนใจของผู้อ่านก็เป็นได้
ผู้เขียนมาอยู่ในบ้านนอก ของเมืองนอก (ฮ่าฮ่าฮ่า ภูมิใจนะเนี่ย) เป็นเมืองที่มีเขามองเห็นๆ และเดินไปทะเลได้ มีตั้งสองหาดใกล้ๆ กัน เมืองนี้ทำให้เรารู้ว่า บ้านนอกเรากะเมืองนอกอ่ะ มิได้แตกต่างกันเลยเจ้าค่ะ
เพราะเนื่องจากการคมนาคมที่ค่อนข้างลำบาก สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวใช้อย่างผู้เขียน (จริงๆ ซื้อก็ไม่แพง ถ้าเทียบกับเมืองไทย แล้วจบก็ขาย อาจจะได้กำไรด้วยซ้ำ แต่อาศัยใกล้มหาวิทยาลัย เลยยังกลัวๆ ค่าน้ำมัน กับค่าต่อกรรมฯ ที่สำคัญ ค่าซ่อม เพราะส่วนใหญ่เป็นรถ มือห้า มือหกแล้วล่ะ)
รถเมล์ ใน Illawarra Network มีไม่เกิน 30 สาย แต่ที่ใช้นั่งไปโน้นไปนี่ ไม่เกิน 5 สาย เพราะไปไม่กี่ที่ Premier Illawarra คือบริษัทย์รถเมล์ที่ผ่านที่ Wollongong
http://www.premierillawarra.com.au/
แล้วอะไรที่น่าสนใจนะ ก็ราคาน่ะสิ
ปีที่แล้ว มาเรียนใหม่ๆ ค่ารถเมล์จากบ้านไปมหาวิทยาลัย $0.90 หรือ 90 c หรือ ประมาณ 27 บาท (ค่าเงินต้องคูณ 30-32) รับไม่ได้ค่ะ จึงเดินเอา ระยะทางไกลมาก ต้องขึ้นเขา ลงเขา สี่ลูก ใช้เวลาเดิน 30 นาที บ้ามั้ย
ถ้าอยู่เมืองไทย ใครจะไปเดินตั้ง 30 นาที แต่ที่นี่ดีหน่อย เดินได้ไม่มีมลภาวะ แต่ถ้าหน้าร้อน ก็ร้อนมั่กมากเหมือนกัน ยิ่งถ้าวันไหนฝนตกนะ ทำไมชีวิตถึงได้รันทดนักนะเรา เดินไปกลับก็ชั่วโมงนึงแบบนี้มา สามเดือน (ถ้าใครมาเยี่ยมแล้วอยากรู้ว่าผู้เขียนฮึดแค่ไหน จะพาเดินนะคะ แต่ตอนนี้ผู้เขียนเองก็ไม่รู้จะเดินได้มั้ย ย้ายบ้านมาใกล้ขึ้นแล้ว)
ไม่นานค่ารถเมล์ก็ขึ้นไปอีก 10 c เป็น $1 เออ เอาเถอะ พอไหว แต่ก็ทำให้เดินเยอะขึ้นไปอีก เดินไป Figtree (ที่เป็นศูนย์การค้าสำหรับซื้ออาหาร คล้ายๆ BigC, Lotus, หรือ Top บ้านเรา) ใช้เวลา 20-25 นาที อันนี้ต้องเดินข้าม hi-way น่ากลัวนิดๆ แต่จะไม่ต้องขึ้นเขามากเท่าอีกทาง
นักศึกษาเวลาขึ้นรถเมล์จะต้องโชวร์บัตรที่ติดสติกเกอร์รูปรถเมล์เพื่อเป็นส่วนลดรถเมล์ ได้ลดครึ่งราคา หุหุ
พอย้ายบ้านมาใกล้มหาวิทยาลัย รถเมล์ก็ใช้น้อยลง แต่ถ้าจะไปซื้อของกิน ก็ต้องนั่งรถเมล์อยู่ดี ราคาจากหน้ามหาวิทยาลัยไป City Mall คือ $1.6 แต่ถ้าเดินมาขึ้นที่หน้าหอ จะราคา $1.4 (เดินก็ได้ แต่ใช้เวลา 40-45 นาที แต่ถ้าอาทิตย์ไหนรู้สึกไม่ได้ออกกำลังกาย ก็เดินเอา เหอะๆ ชีวิต)
เมื่อรัฐ NSW เค้าไม่มีนโยบายลดราคารถเมล์ให้นักเรียนต่างชาติแล้ว (แงแง้ จะประท้วงไงดีเนี่ย...) คิดราคาเต็มเลยคร้าบบบ เพิ่งเริ่มมาเมื่อต้นเดือนเม.ษ.ที่ผ่านมานี้เอง
เฮ้อ... สงสัยเค้าต้องการเงินไปสร้าง Opera House อีกแห่ง
แต่จากที่ขึ้นรถเมล์ไป City Mall จาก $1.6 เป็น $3.3
และถ้าเดินไปขึ้นที่หอ จาก $1.4 เป็น $2.8 (เอ้า..ลดไป 50 c เยอะนะเนี่ย)
จะไปกล้าคูณค่าเงินมั้ยคะ ตอนนี้ค่าเงินต้องคูณ 27-29 ก็ประมาณ 89-96 บาท หุหุ เดินคร้าบ...เดิน ...คือคำตอบสุดท้าย
เดินไป เป็นการออกกำลังกายตามที่อาจารย์หมอวัลลภแนะนำ ขากลับ ซื้อของเยอะขึ้น (จะได้ไม่ต้องมาบ่อยๆ) ซื้อแบบหิ้วให้ตายไปเลย แล้วพอซื้อครบทุกร้านเสร็จ
ถ้าพอจะหอบสองมือน้อยๆ ของผู้เขียนได้ ก็จะขึ้นรถเมล์ (แต่ทุลักทุเลสุดๆ) ถ้ามาหลายคน ก็นั่ง taxi กลับ หารกันพอไหว แล้วก็ไปซื้อของเพิ่มอีก ฮ่าฮ่า ถ้าตัดสินใจจะขึ้น taxi เพราะไม่ต้องหอบเดินหลังจากลงรถเมล์ (ซื้อของครั้งนึง ประหนึ่งจะไม่ออกมาซื้ออีกเลยเป็นเดือน แต่ซื้อแบบเนี่ยอ่ะนะ ของเสียเร็ว เพราะกินไม่ทันค้า เศร้าใจ)
รถเมล์ที่นี่ ก็มาชั่วโมงละคัน (ต่อสายนะ) วันหยุด ก็สองชั่วโมงคัน ราคาก็แพง แต่อยู่ไปอยู่มาก็คุ้นเคย มันจำเป็นต้องคุ้นเคย
และแล้วก็ดูจะบ่นซะยาว
มารยาทที่ผู้โดยสารทุกคนทำก็คือ เวลาลงจากรถ จะหันไปขอบคุณคนขับรถ ทุกครั้ง ทุกคน ทุกคัน เพราะถือว่าคนขับรถบริการขับรถพาเรามาถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย
ป้ายรถเมล์ (แถมๆ มันน่ารักดี)
ป้ายรถเมล์
บางทีก็เป็นเก้าอี้ มีสีเหลืองทาข้างๆ แล้วเขียนว่า Bus Stop
ฮิฮิ น่ารักมั้ยล่ะ
ส่วนที่พื้น ก็มีนะป้ายเนี่ย
จะเขียนคำว่า Bus Stop ไว้ที่พื้นสีเหลือง เราเรียก Bus Station ไม่ได้นะเนี่ย ฮ่าฮ่า เพราะมันไม่ใหญ่ขนาดนั้น
ป้ายที่พื้นที่ว่าเนี่ย
บางทีก็ไม่มีเก้าอี้เอาไว้ให้เห็นเด่นชัดนะ
ฮิฮิ บางครั้งคนขับรถคนใหม่ๆ หาป้ายไม่เจอเหมือนกันแหละน่า
มันจะมีป้ายแบบอื่นๆ อีกที่เป็นเสาไฟฟ้า แล้วทาสี หรือที่เป็น Bus Zone คือไม่เรียกว่าเป็นป้ายนะ แต่เป็นบริเวณที่รถเมล์จะจอด เอ้า...สร้างความงงงวยเข้าไป
ป้ายง่ายๆ แบบบ้านเราก็มีนะ แต่เค้าคงเป็นคนมีจินตนาการมั้ง หรือไม่ก็ชอบเล่น Rally หา RC ฮิฮิ
^____^
เคยไปเรียนภาษาที่แคนเบอร่า ก็ประมาณนี้ค่ะ จะไปไหนต้องวางแผนอย่างดี รถน้อยมากๆ
ชอบที่ผู้โดยสารขอบคุณคนขับเหมือนกันเลยค่ะ : ) ที่นี่เค้าก็ขอบคุณก่อนลงรถเช่นกัน น่ารักดีนะคะ
ป้ายกับเก้าอี้น่ารักดีครับ ดูสบายๆ
เห็นข้อดีของรถเมล์แล้ว น่าส่งคนแถวๆ นี้ไปดูงานบ้างครับ บ้านเราถ้าผู้โดยสารลงรถโดยไม่ด่าในใจก็ก็ถือว่าดีแล้ว (ด่าให้ได้ยินอาจโดนกระบอกตั๋วฟาดหัวแตก)
ค่าโดยสารแพงขนาดนั้น ถ้าเปลี่ยนจากเดินเป็นขี่จักรยานไม่ทราบว่าจะมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไรครับ เพราะคิดว่าน่าจะสะดวกกว่าเดินครับ
ป้ายรถเมล์น่ารักจริงๆด้วยหละครับ
สงสัยว่าคุณแนนเรากล้ามเนื้อน่อง(ปลีน่อง) คงเป็นมัดๆนะครับ อ้อ...กล้ามเนื้อมือที่ถือของก็คงแข็งแรงขึ้นด้วยครับ
เท่าที่อ่านวินัยของรถเมล์และคนขับน่าเอาเป็นแบบอย่างนะครับ
เดินต่อไปครับ สู้ๆๆ
น่าสงสารน้าแนนจัง
จะเดินก็ไกล
จะนั่งรถ ก็รอนาน
ฝึกใช้รองเท้าสเก็ต มั้ย
..
บัสสาต๊อบ เก๋ดีจัง
..
อยู่ดีมีสุขนะ
สวัสดีตาหยู
เล่นไม่เป็น สเก็ตอ่ะ แต่สเก็ตภาพเป็น อิอิ
อยู่ดีมีสุขเช่นกันค่ะ
^___^
แข็งแร้ง แข็งแรงนะคะ
อ่านม่วน ค่ะ
บันทึกน้องแนนสนุก ตามอ่านแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ
แล้ว พวก subway อะครับ แล้วพวก bus ที่เวลาเราจาเดินทางไปอีก city ต้องทำไง หรือ พวกรถไฟ อะครับ
พอดีมี prasentation about Australia, subject lifestyle มี 4 หัวข้อต้อง พูด ได้มา 2 แล้วจาก คุณ ขอขอบคุณมากครับ แล้วจาหา หัวข้อ clothing and housing ได้ที่ไหน ครับ thx
take care