3 ตำบลเมื่อเข้มแข็งทั้ง 3 ตำบลแล้วอย่างน้อยก็เชื่อมโยงเครือข่าย 3 ตำบลนี้ก่อนว่าบางจาก ท่าไร่ มะม่วงสองต้นใครบันทึกความรู้ว่าอย่างไรบ้างเอามาแลกเปลี่ยนกัน
ในเรื่องของการจัดการความรู้จะให้มีในทุกกลุ่มของชุมชน ผู้นำชุมชน แกนนำในชุมชนพอมีความรู้เรื่อง KM แล้วจะมีความรู้อยู่กลุ่มเดียวไม่พอต้องให้เจ้าหน้าที่ ระดับตำบลรู้เรื่อง KM ด้วย เพราะการพัฒนาในยุคนี้ เขาเรียกว่าการพัฒนาที่ประชาชนเป็นศูนย์กลางเหมือนกับการจัดการศึกษาคือการจัดการศึกษาที่เด็กเป็นศูนย์กลาง เด็กเป็นศูนย์กลางเขาเรียกว่า Child Center พัฒนาก็คือ People Center คือการพัฒนาที่ประชาชนเป็นศูนย์กลาง คือ ประชาชนเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมเอง คือ คุณกิจ หากเราทำกระบวนการชุมชนเข้มแข็งเราก็คือคุณกิจ เจ้าหน้าที่เป็นเพียงคุณอำนวยที่เข้ามาอำนวยความสะดวก วิทยากรกระบวนการ เจ้าหน้าที่มาทำเองก็จะไม่ยั่งยืน เดี๋ยวย้ายๆปโน่นบ้าง นี้บ้าง
วิทยากรกระบวนการจัดิ่งอำนวยความสะดวกในการมาพบปะกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ หรือเมื่อเขาจัดการความรู้กันแล้วยังขาดเหลือองค์ความรู้ในเรื่องใดบ้างคุณอำนวยก็ต้องดำเนินการหาคุณอำนวยมาสนองตามเป้าประสงค์ของคุณกิจ
คุณกิจ คือ แกนนำในชุมชน (ในระยะแรก)
คุณอำนวยคือ เจ้าหน้าที่
คุณเอื้อ คือ หัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องรับรู้และเอื้อเฟื้อในเรื่องนี้
ผมก็ดูแลหัวหน้าส่วนราชการอีกทีก็เป็นหัวหน้าคุณเอื้อ คือ คอยอำนวยความสะดวกให้หัวหน้าส่วนอีกทีหนึ่ง ผมเป็นหัวหน้าคุณเอื้อผมก็เข้าใจเรื่องนี้และก็พยายามพูดถึงเรื่องนี้ในเกือบทุกเวทีในช่วงหลัง ๆ
เราทำเรื่องนี้เราได้ทั้ง 3 เรื่องเลยตามวิสัยทัศน์ คือ ทั้งได้เรียนรู้ โดยการปฏิบัติจริง ทำให้ชุมชนน่าอยู่ เมื่อน่าอยู่เราก็ให้เยาวชนมาสืบทอด ก็จะทำให้ยั่งยืน เราตั้งผู้นำเยาวชนรุ่นใหม่ขึ้นมาได้ไหม สร้างไม่ได้ก็ไม่ยั่งยืน
ต้องอดทน เป็นสิ่งสำคัญมาก ผมเองก็ต้องอดทน ไปพูดคุณอำนวย คุณกิจ และคุณเอื้อในเวที 2-3 เดือนแล้วก็โดนหัวเราะใส่ก็เยอะเหมือนกันเนื่องจากว่ามันเป็นของใหม่ เราก็ต้องอดทนกันหน่อย เรื่อง KM จะใช้ได้ทุกองค์กร
ครับเล่าสู่กันฟังแค่นี้ก่อนครับ ผมจะพยายามต่อสู้ในปี 49 จะทำให้ได้ สัก 400 หมู่บ้าน และจะทำไปเรื่อย ๆ ในเรื่องของการจัดการความรู้
เจตนารมณ์ คือ เราต้องการให้นครศรีธรรมราช ยั่งยืนด้วยความสามารถของบุคคล บุคคลในครอบครัว และบุคคลที่รวมกลุ่มกัน เราต้องแข็งแกร่งด้วยกระบวนการการจัดการความรู้
ไม่มีความเห็น