หลังฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวสิ้นสุดลง ทุ่งรวงทองที่เคยเหลืองเรืองด้วยรวงข้าว ก็กลายสภาพเป็นทุ่งแล้งโล่งโจ่งโป่ง มองไกลสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าสีครามโปร่งโล่ง เมฆสวยลอยล่องอย่างเสรี...
<p>การได้เที่ยวทุ่งหน้าแล้งตามที่ต่าง ๆ ของปีนี้ ผมพานพบกับฟาง, และกองฟางจำนนวนมาก บางที่กองสุมทับคล้ายเจดีย์เล็ก ๆ อยู่ตามชายทุ่ง บางที่เกลื่อนกระจายไม่เป็นรูปเป็นร่าง บางที่ก็อัดแน่นอยู่ในโรงฟางเล็ก ๆ ใกล้กับเถียงนา หรือโรงนาอันเก่าโทรม</p><p></p><p> </p><p></p><p> สมัยที่ผมยังเป็นนักเรียนชั้นประถม เมื่อครูสั่งให้วาดรูป "วิว" ผมก็ไม่เคยลังเลที่จะวาดทิวทัศน์ที่ประกอบด้วยภูเขาที่มีพระอาทิตย์ยิ้ม, แม่น้ำ, ทุ่งนา, เถียงนา, ต้นมะพร้าว, ชาวนาใส่หมวกอยู่กลางทุ่ง, รวมถึงกองฟาง และฝูงวัวควายยืนเคี้ยวฟางเส้น อย่างเอร็ดอร่อย </p><p></p><p>แต่หากเป็นทิวทัศน์ของเด็กในตัวเมือง หรือแม้แต่ในมหานครกรุงเทพฯ ภาพทิวทัศน์ก็จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เด็กในเมืองใหญ่จะวาดภาพของตึกสูง, ควันพิษ, รถราบนท้องถนน รวมถึงผู้คนที่มีเส้นผมหลากสี อย่างน่าสับสน </p><p> </p><p>ทุกวันนี้สภาพของกองฟางดูจะเปลี่ยนรูปจากอดีตค่อนข้างเยอะ ที่เห็นได้ชัด คือ กองฟางมีขนาดเล็กกว่าอดีต ฟางแต่ละเส้นเล็กและละเอียดป่นปี้ …</p> <p>สิ่งเหล่านี้เป็นผลพวงของการเก็บเกี่ยวของเครื่องจักร.. , เครื่องจักรอันทรงประสิทธิภาพ (แต่ไร้จิตวิญญาณ) จะคำรามลั่นอยู่กลางทุ่งโดยไม่ยำเกรงต่อแดดร้อนและสายลมหนาว พร้อมตั้งหน้าตั้งตาคืบคลานไปตามทุ่งนาอย่างไม่รู้สึกเหนื่อย และภายในชั่วพริบตา ทุ่งที่เคยอัดแน่นด้วยรวงข้าว ก็กลายเป็นทุ่งโปร่งโล่งเตียนอย่างน่าอัศจรรย์</p><p></p><p></p> <p></p><p> </p><p>ฟางที่เป็นผลพวงของนวัตกรรมใหม่แห่งยุคสมัยทุนนิยม จะแตกต่างจากฟางที่เกิดจากแรงงานดั้งเดิมของชาวนาอย่างชัดเจน …</p> <p>ฟางที่เกิดจากแรงงานอันยิ่งใหญ่ของชาวนาจะมีขนาดของเส้นที่ใหญ่ เป็นรูปเป็นร่าง และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นต้นว่า ทำไม้กวาด, ทำแฝกมุงหลังคา (เถียงนา) - กั้นฝาบ้าน, คลุมผิวดินแปลงผักสวนครัว รวมถึงเป็นอาหารชั้นเลิศของสัตว์เลี้ยงคู่บุญของทุ่งนา คือ วัวและควายผู้แสนซื่อ ซึ่งรักและผูกพันกับทุ่งนาอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง</p> <p>ปัจจุบันฟางเส้นเล็กที่ถูกเครื่องจักรบดเคี้ยวจะถูกขายทอดให้กับพ่อค้านายทุนเพื่อนำไปแปรรูปเป็นฟางอัดเส้น </p><p></p><p>ชาวนาหลายคนที่ทำนาด้วยเครื่องจักร และไม่มีวัวควายให้เลี้ยง ก็มักจะขายไปในราคาที่ไม่แพงนัก ฟางเหล่านี้ถูกขนขึ้นท้ายรถ และรถเหล่านั้นก็เคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้านไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงเศษตอข้าวที่นอนแนบกับพื้นดินอย่างพับพ่าย</p><p> </p><p>ฟางที่เป็นผลผลิตจากเครื่องจักรจะมีจำนวนน้อยกว่าฟางที่เกิดจากการนวดข้าวด้วยมือ … ไม่เพียงพอต่อการใช้เลี้ยงสัตว์ในหน้าแล้ง </p><p></p><p>ฟางที่เกิดขึ้นจากเครื่องจักรอันทรงพลังเช่นนี้ ก็ได้กลืนวิถีชีวิตของชาวนาและลูกชาวนาตัวน้อย ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น คืนแห่งการนวดข้าวใต้แสงจันทร์, การลงแขกเกี่ยวข้าวของเพื่อนบ้าน, การนอนนาภายใต้กองฟางที่เป็นเหมือนบ้านอันแสนอุ่น ฯลฯ</p><p></p><p>นี่คือบางห้วงตอนของความรู้สึกของผมที่มีต่อการได้เที่ยวทุ่งในหน้าแล้ง ซึ่งยังพอเห็นกองฟางเล็ก ๆ เกลื่อนกระจายอยู่กลางทุ่งแล้งอันแสนร้อน </p><p> </p><p></p><p>เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีสิ่งใดมีพลังพอที่จะพรากความทรงจำเก่าก่อนเกี่ยวกับกองฟางไปจากผมได้, </p><p></p><p>กองฟางขนาดใหญ่ที่พ่อก่อขึ้นยังตระหง่านอยู่ในหัวใจของผมอย่างโดเด่น และไม่มีวี่แววจะพังทลายไปตามยุคสมัยเลยแม้แต่น้อย </p><p> </p>
ตอนเด็ก ดิฉันชอบวาดรูปภูเขา ทะเล ต้นมะพร้าว อาจเป็นเพราะอยากไปทะเล
ลืมวาดกองฟาง เพราะเราเห็นบ่อยๆ
แต่ตอนนี้กองฟางหายไปไหน
น่าคิดนะคะ
กองฟาง เป็นภูมิปัญญาไทยที่สะท้อนความเป็นสถาปัตยกรรมของชาวนาที่น่ายกย่องและเชิดชู ..ในสมัยเด็ก ๆ ครูเคยให้นิยามความหมายของกองฟาง
ผมไม่รู้จะตอบอะไรดี จึงบอกได้เพียงซื่อว่า "เจดีย์"
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ข้อคิดจากลอมฟาง ! ..น่าคิดจริงๆค่ะ
เครื่องจักรทำลายหลายๆอย่างแม้แต่ห่วงโซ่ในท้องทุ่งนา..เบิร์ดเพิ่งทราบว่าฟางปัจจุบันมีลักษณะที่แตกต่างจากอดีต..พ่อค้าเค้าเอาฟางไปอัดทำอะไรคะ ?
ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อคิดที่ทำให้หยุด - คิดอีกครั้ง
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
ทุกวันนี้เราทำนาด้วยหลายวิธี เป็นพลวัตทางการเกษตรของชาวนา...นาหว่าน ต้นข้าวไม่สูงเหมือนนาปักดำ ครั้นเวลาเก็บเกี่ยวก็ใช้รถเกี่ยว สภาพของฟางจึงละเอียด - เป็นเส้นเล็กเส้นน้อย จะใช้ประโยชน์ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ท้ายที่สุดก็ทิ้งขว้าง หรือไม่ก็ขายให้กับพ่อค้าไปเลยก็มี...
นั่นคือ เหตุผลหนึ่งที่กองฟางมีเหลือให้เห็นน้อยมาก...
ขอบคุณมากครับ
การที่วัวเคี้ยวเอื้อง เห็นภาพที่เราได้ใช้ความคิดบางสิ่งบางอย่าง...
มองเป็นสัจจะปรัชญาเลยหรือเปล่าครับ ...ว่าแต่ บางสิ่งบางอย่างนั้น หมายถึงอะไรบ้าง..ผมชักอยากรู้แล้วสิครับ !
กระบวนการทำนาและเก็บเกี่ยวอันรีบเร่งและผ่านกระบวนการของเครื่องจักร ล้วนเป็นปัจจัยส่งให้ฟางเหลือจำนวนน้อยนิด และกลายมาเป็น "ทรัพย์อันมีค่า" ที่ใครต่างก็ต้องการ ถึงขั้นจับจองตั้งแต่ข้าวยังไม่ถูกเกี่ยว - ลาลาน
นี่คือ ปรากฏการณ์ทางท้องทุ่งที่น่าสนใจและชวนสะท้อนใจไม่น้อยเลย นะครับ อาจารย์ฯ ...
เดี่ยวนี้ ไม่มีกองฟางแล้ว
นานแล้วนะครับที่ไม่พบเด็ก ๆ วาดรูปวิวทิศน์ทัศน์ดังเช่นที่อาจารย์กล่าวถึง ส่วนใหญ่ตอนนี้ชอบวาดการ์ตูนเป็นหลัก
ส่วนฟางตอนนี้ยังนำไปทำปลูกเห็ดฟางได้เหมือนกัน แต่ก็ไม่มีคนนิยมแล้ว ส่วนใหญ่มีกระบวนเพาะเชื้อ หรืออื่น ๆ เข้ามาแทน, (ผมเข้าใจเช่นนั้น, นะครับ)
ขอบคุณครับ ผมลืมไปเลยว่าในความทรงจำยังมี "เห็ดฟาง"
ขอบคุณจริง ๆ ...
สวัสดีครับ
ทุกวันนี้นิยมนำฟางไปอัดเป็นฟางเส้นมัด ๆ ...ลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมอัดแน่น สะดวกจัดเก็บและเก็บได้นาน ซึ่งนำมาขายให้ชาวไร่ชาวนาและชาวนาก็นำไปเลี้ยงวัว เลี้ยงควายอีกรอบ
ชาวนา, ซื้อในสิ่งที่ตนเองเคยเป็นเจ้าของทั้งนั้นแหละครับ
ขอบคุณครับที่คุณเบิร์ดแวะมาให้กำลังใจ
ผมประทับใจในถ้อยคำเหล่านี้มาก ...
ระยะทางจากบ้านมาที่ทำงาน ไม่พบกองฟางเลยสักกอง ทั้งๆที่เป็นชนบทแท้ๆ....
ทุ่งนานั้นยังพอมีให้เห็น...แต่กองฟางหายไปไหนหมด...ชาวนากลับต้องซื้อข้าวสาร...
แต่วันนี้ชาวนา...ซื้อฟาง กันแล้วนะครับ...
ขอบพระคุณครับ.
วิถีบ้านและวิถีทุ่ง เปลี่ยนไปดังที่พี่นงค์กล่าวถึงนั่นแหละครับ คือ
แถวบ้านใช้เครื่องจักรในการเก็บเกี่ยวข้าว ทำให้กองฟางเล็กลง วิถีชีวิตชาวบ้านเริ่มเปลี่ยนไป สังเกตเห็น มีควายเหล็ก (รถไถนา) เกือบทุกหลังคาเรือน ที่ใช้ไถนา
ขอบคุณครับ
มาเยี่ยม...
ชอบใจคำกล่าวนี้ว่า...ฟางที่เป็นผลพวงของนวัตกรรมใหม่แห่งยุคสมัยทุนนิยม จะแตกต่างจากฟางที่เกิดจากแรงงานดั้งเดิมของชาวนาอย่างชัดเจน
บางครั้งคนเราก็เป็นบ้าหอบฟางอยู่ได้นะครับผม...ฮา ๆ เอิก ๆ
ขอบคุณครับ..กับบทรำพึงที่ต้องหยุดคิดอีกครั้ง
ฟาง เป็นร่องรอยของความสำเร็จ...ภายหลังจากรวงข้าว....ถูกสลัดเอาเม็ดข้าวออกมาเลี้ยงคนไทยทั้งผอง
มาเยี่ยมคราวนี้ รำพึงรำพันขนานใหญ่เลยนะครับ..แต่บทรำพึงคะนึงเหล่านั้นก็ชวนให้ผมมีความสุขกับความทรงจำเหล่านั้นไปด้วย
ไม่มีแล้วกองฟางใหญ่ๆ เอาไว้เล่นแอบซ่อน ถึงจะคัน จะระคายเคืองผิวแค่ใหน แต่ก็ไม่เคยระคายจิตใจ
เช่นกันนะครับ...ผมก็ อยากเห็นกองฟางประดับทุ่งนาต่อไป
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ
ขอบพระคุณมากนะครับที่แวะมาเยี่ยม
ตอนนี้ฝนตกมาบ้างแล้ว หลายแห่งเริ่มพลิกดิน เตรียมไถหว่าน ฤดูกาลเพาะปลูกกำลังเริ่มขึ้นอย่างเต็มตัว ... แต่เมื่อวานยังเห็นการไถนาโดยใช้รถไถฯ ซึ่งเชื่อว่าจำนวนกว่าครึ่งกระมังของชาวนาที่เปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรช่วยทำนา...สะดวก รวดเร็ว .. มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ด้วย
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปตามยุคสมัย... แม้แต่บ้านผมก็ใช้เครื่องจักรไถแทนควายเหมือนกัน ...ฮา ๆ เอิก ๆ
โดยแท้ที่จริงแล้วเราสามารถเรียนรู้ชีวิตจากสิ่งรายรอบได้เสมอ ดังที่พี่อัมพรกล่าวไว้
การที่วัวเคี้ยวเอื้อง เห็นภาพที่เราได้ใช้ความคิดบางสิ่งบางอย่าง" พี่จะนึกถึงการบริหารงาน บริหารคน การเลี้ยงลูก วีวิตครอบครัว วัวเคี้ยวเอื้องเป็นจังหวะ ไม่รีบเร่ง ค่อยเป็นค่อยไป
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับ..naree suwan
ผมเพิ่งกลับมาเยี่ยมบันทึกนี้ของตนเอง เพราะกำลังพิจารณาตัดสินใจว่าจะทำเป็นหนังสือทำมือดูสักเล่ม ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความทรงจำในท้องทุ่งของตัวเอง
ขอบคุณที่ติดตามบันทึกผมเสมอมา ..และอุ่นงามในมิตรภาพอย่างไม่รู้จบ
ขอบคุณครับ...ขอบคุณมาก ๆ
ทำไมชีวิตพวกเจ้า กับชีวิตข่อยคือกันเปะ..