ขั้นถึงมัชฌิมยามแล้วพระองค์ก็เสด็จดับขันปรินิพพาน ขณะจิตตกภวังค์ที่กุสินารา ในเวลา 05.50 นาฬิกา ของวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 6
ตามที่ได้บันทึกเกี่ยวกับวันวิสาขอัฐมีรำลึกไปแล้วคือ
วิสาขอัฐมีรำลึก : พุทธประวัติ ตอน ประสูติ และ
วิสาขอัฐมีรำลึก : พุทธประวัติ ตอน ตรัสรู้
ตอนนี้คงถึงตอนสุดท้ายคือ ปริพนิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปรินิพพาน
พระพุทธเจ้าเสด็จจาริกประกาศศาสนาตามแคว้นและเมืองต่างๆ เป็นเวลา 44 พรรษา นับตั้งแต่วันตรัสรู้เป็นต้นมา และเป็นเวลาที่พระพุทธเจ้าทรงมีพระชนได้ 80 พรรษา นับตั้งแต่ประสูติเป็นต้นมา ในพรรษาสุดท้าย พระพุทธเจ้าเสด็จประทับอยู่ที่ เวฬุคาม แขวงเมืองเวลาสี ระหว่างพรรษาพระองค์ทรงประชวรเพราะอาพาธหนัก ชาวมัลละและอัครสาวกที่ทรงทราบข่าวก็มาเข้าเฝ้าด้วยอาการเศร้าโศก
ขั้นถึงมัชฌิมยามแล้วพระองค์ก็เสด็จดับขันปรินิพพาน ขณะจิตตกภวังค์ที่กุสินารา ในเวลา 05.50 นาฬิกา ของวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 6 เหล่ามัลลกษัตริย์ ได้อัญเชิญพระบรมศพประทับพระจิตกาธาน อันงามวิจิตร ในวันอัฐมีบูชา 8 ค่ำ เดือน 6 เหล่ามัลลกษัตริย์ถวายพระเพลิงแต่ไม่ติด แต่เมื่อพระมหากัสสปะ กราบพระบรมศพ เปลวเพลิงก็ลุกขึ้นอย่างอัศจรรย์
เรื่องราวจึงขอจบลงด้วยประการเช่นนี้แล สาธุ