ในบันทึกที่แล้วตอนที่พูดเรื่องการฟังอย่าง “ใส่ใจ” นั้น คำว่าใส่ใจหมายถึง “Attention” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างไปจากคำว่า “Concentration” เพราะ Concentration เป็นการเพ่ง เป็นการตั้งใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งในเรื่องนี้กฤษณมูรติเคยพูดไว้ว่า
“....เมื่อผู้พูด (หมายถึงตัวกฤษณมูรติ) ใช้คำว่า ความใส่ใจ (attention) คุณ (ผู้ฟัง) ต้องการรู้ว่ามันคืออะไร แล้วผู้พูดก็ต้องอธิบายต่อไป แต่หากจิตใจของคุณตื่นตัว คุณจะรู้ได้ในทันทีว่าความใส่ใจคืออะไร คุณไม่สามารถเก็บเกี่ยวบ่มเพาะ (cultivate) ความใส่ใจได้ แต่คุณสามารถทำเช่นนั้นได้กับการตั้งใจจดจ่อ (concentration) การตั้งใจจดจ่อคือการเพ่งพลังของความคิดไปที่จุดใดจุดหนึ่ง ปิดกั้นสิ่งอื่นๆ ไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามา รักษาจุดสนใจจดจ่อไว้ที่จุดเดียว ตามปรกดิแล้วนี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าการเพ่งจิต คุณมองเห็นความแตกต่างระหว่างการใส่ใจและการเพ่งจิตไหม...” (จากหนังสือ “ความรู้สึกตัวอันไร้ขอบเขต” หน้า 83 จัดพิมพ์โดยมูลนิธิอันวีกษณา)
ท่านมีประสบการณ์เกี่ยวกับคำสองคำนี้อย่างไรบ้าง แชร์มาให้ฟังบ้างนะครับ
โอ้โฮ!!! แจ่มขึ้นมาด้วยเรื่องภาษาอีกแล้ว... นี่ถ้าอาจารย์ไม่อธิบาย 2 คำนี้มาในครั้งนี้นะคะ แหววก็จะเผลอใช้ 2 คำนี้แทนกันได้อย่างสบายใจ เพราะในช่วงที่ผ่านมา เวลาที่แหววพูดถึง"การฟังอย่างตั้งใจ"ของแหววในความหมายก็คือการฟังอย่างใส่ใจ(ด้วยความที่ยังเขลาอยู่ไม่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับภาษา) แต่พอมี 2 คำให้เลือกใช้เข้าจริงๆพร้อมคำอธิบายนิยามแบบนี้ ตอนนี้แหววคิดว่าในกรณีเมื่อวันก่อนที่แหววยกตัวอย่างกรณีการใช้สุนทรียสนทนานั้นเป็นการฟังแบบใส่ใจ มิใช่การฟังแบบเพ่งหรือตั้งใจ ค่ะ โดยถ้าเป็นความคิดเห็นหรือประสบการณ์อันน้อยนิดส่วนตัว การฟังอย่างใส่ใจเป็นเรื่องของการฟังที่ให้เกียรติ ยอมรับนับถือในความเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่าในตัวเองของผู้พูดทุกคน เป็นการฟังที่ใช้ ความรัก ความเมตตา หรือบางครั้งก็อาจผสมผสานด้วยความกรุณา เอื้ออาทร เป็นพื้นฐานในการเข้าถึงผู้พูด การรู้ในอารมณ์หรือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังคำพูด หรือสิ่งที่แสดงออก ก่อน -ระหว่าง -หลัง การพูดซึ่งเป็นภาษากายและภาษาใจ ของเขา (เป็นการฟังด้วยใจ-ถึงใจ)อันเป็นการฟังของกัลยาณมิตร ก่อให้เกิดความไว้วางใจ และศรัทธา เสมือนเป็นการ"รู้เขาจนเหมือนเป็นคนหัวอกอันเดียวกันได้" พอมาถึงตรงนี้ก็อยากให้อาจารย์ได้ให้ความรู้ ความคิดเห็นเพิ่มเติม เผื่อว่าแหววจะเข้าใจอะไรผิดไปอีก และเพื่อที่แหววจะได้เข้าใจด้านภาษาให้ดีขึ้นค่ะ โถ!! ที่แล้วมาเลยชักไม่แน่ใจ ว่าเผลอไปใช้คำใหนที่คนอื่นจะตีความผิดไปจากที่ต้องการจะสื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ ..ต้องขอบพระคุณอาจารย์ประพนธ์อีกครั้งนะคะที่กรุณาให้ความกระจ่างทางปัญญาขึ้นมาอีก 1 เรื่อง ...
เรียน อ.ประพนธ์ที่เคารพ
จากประสบการณ์การถอดความรู้จากผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ทำงานเป็นเลิศ พบว่าการ concentration สำคัญมาก เมื่อนำมาใช้ร่วมกับการคิดเป็นภาพ จะทำให้เกิดพลังของการจับความรู้ได้อย่างมาก ยิ่งถ้ามีความรู้และความเข้าใจที่เป็นพื้นฐานในเรื่องที่ฟัง จะยิ่งสนุกในการถอดความรู้ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ engineer มาเล่าเรื่อง เรื่องที่เล่าเป็น technical มากๆๆๆๆ ทำให้เกือบตกม้าได้ แต่บังเอิญโชคดีที่ผู้เล่าเล่าด้วยภาพ (มี power point) เลยทำให้จับความรู้ได้ แต่ได้เป็นส่วนๆ ไม่ประสานเป็นภาพเดียวกัน วันนั้นเรียนรู้ว่าฐานความรู้เดิมเป็นสิ่งสำคัญมากในการถอดความรู้ค่ะ
"ใส่ใจ" และ "สนใจ" หากผนึกกำลังกัน จะกลายเป็น"ปัญญา"