เมื่อวันก่อนเจอเพื่อน ได้รับคำถามจากเพื่อนว่า ทำไมพี่จุดไม่ไปร่วมอบรม หัวข้อการสื่อสารอย่างกรุณาของฝ่ายบริการพยาบาล
พี่จุดได้ตอบเพื่อนไปว่าเพราะจะต้องไปสัมมนา " อาสาสมัครอาคารเย็นศิระ " ที่วังแว่นรีสอร์ท จ.สตูล ในวันที่ 21-22 เมษายน
เพื่อนจึงเล่าให้ฟังว่า มีคนไข้รายหนึ่งซึงถูกตัดขาไปแล้วนอนป่วยใน รพ. เป็นคนไข้ระยะสุดท้ายใกล้จะเสียชีวิตแล้ว อยู่ๆญาติก็ถามพยาบาลว่า
" เมื่อไหร่จะตัดขาปลอมให้คนไข้ใส่ "
พยาบาล งง.....ถามญาติไปว่า "คนไข้ใกล้จะเสียชีวิตแล้ว ยังจะตัดขาปลอมหรือค๊ะ "
ญาติ " อ้าว.....คนไข้ควรจะไปครบ 32 ไม่ใหรือ...???
เพื่อนจึงฝากประเด็นนี้ให้ไปพูดคุยกันในที่ประชุม แต่น้องๆก็ไม่มีความคิดเห็น พี่จุดจึงนำเรื่องนี้มาอภิปรายกันในบล็อค เพื่อขอความคิดเห็นจากทุกท่านค่ะ เพื่อจะได้นำข้อคิดเห็นจากทุกท่านเสนอผู้บริหารพิจารณาค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านด้วยนะคะ
น่าเสียดายที่ไม่ได้คุยกันต่อไปอีกหน่อยนะครับ
ในการสื่อสารนั้น การสื่อสารมาจากคำว่า communication คือ คำ "commun" หรือ common สมาสกับ -ie ซึ่งมีความหมายเดียวกับ -fy แปลว่า "ทำให้เกิด" communication คือ "ทำให้เกิดความหมายร่วมกัน" เป็น end-point ไม่ใช่ กริยา หรือ กระบวนการเท่านั้น
เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น นอกจากการรับรู้แถวๆพื้นผิว คือ มองเห็น ได้กลิ่น ร้อนเย็น ได้ยิน รับรู้รสแล้ว ยังมีการรับรู้ระดับสูงกว่านั้น หรือลึกกว่านั้นได้อีกด้วย คือ "ความเข้าใจ" เมื่อเข้า รพ. ก็จะมี meaning of illness และที่จริงแล้ว meaning of illness นี่เองเป็นเหตุผลที่คนไข้มา/ไม่มา หาแพทย์ที่ รพ. และเป็นความคาดหวังของคนไข้
พฤติกรรมของคนเราทุกอย่างจะมีการ adjusted เข้ากับระบบความคิดเสมอ ถ้าเราคิดไม่ตก ก้จะได้พฤติกรรมคิดไม่ตก ถ้าเราคิดรอบคอบก็จะได้พฤติกรรมอย่างนึง ถ้าเราไม่คิดเลยก็จะทำอีกอย่างนึง ถ้าเราคิดบนบริบทที่ผิด หรือ ถูก ก็จะไดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หรือ เหมาะสม ไปด้วยกัน
ผมรู้สึกว่าโจทย์ข้อนี้ฟังดูตอนนี้อาจจะยาก แต่จะเป็นเพราะยัง คุยกันไม่จบ หรือ ยังไม่ได้ communicate กันไหมครับ พี่จุด?