เรื่องเล่าจากดงหลวง 71 สถาบันการศึกษาเป็นแหล่งเพาะกล้าอ่อนความรู้


หากชีวิตเอาปัจจัย 4 มาเป็นองค์ประกอบขั้นพื้นฐาน ก็ต้องเอาสถานภาพของแต่ละคนแต่ละครอบครัวมาเป็นตัวตั้งในการกำหนดว่าอะไรที่ครอบครัวเราพอเพียงแล้ว เพราะการตั้งอยู่ของแต่ละคนแต่ละครอบครัวแตกต่างกันมาก

เป็นบุญเหลือล้นเกล้าที่องค์ในหลวงของเราทรงประกาศ ความพอเพียงแห่งชีวิตมาให้ปวงผสกนิกรได้ใตร่ตรองกันครั้งใหญ่  ถกเถียงกันยังไม่จบ และจะยังไม่จบหรอกครับ...

หากชีวิตเอาปัจจัย 4 มาเป็นองค์ประกอบขั้นพื้นฐาน ก็ต้องเอาสถานภาพของแต่ละคนแต่ละครอบครัวมาเป็นตัวตั้งในการกำหนดว่าอะไรที่ครอบครัวเราพอเพียงแล้ว  เพราะการตั้งอยู่ของแต่ละคนแต่ละครอบครัวแตกต่างกันมาก มากกว่า ถึงมากที่สุดด้วย   

ชาวบ้านไทบรู หรือไทโซ่

ไทโซ่หรือบรูจะอยู่ท่ามกลางหุบเขา มีป่าไม้ มีลำธาร มีสรรพธรรมชาติอยู่รอบตัวสามารถ มีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่ต้องไปฉ้อราษฎร์ บังหลวง หรือโกงกินชาติบ้านเมือง  ถ้าหากจะเอาไม้ในป่ามาขายกันละก้อ ไม่กี่ปีหรอกครับพวกเราจะเอาให้เกลี้ยงเลย ไม้ทุกต้น หินทุกก้อนเราสัมผัสมาหมดกับมือแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2500 ที่พวกเราไปท่องป่ากับ พคท.โน้น  เราเพียงเอาเครื่องมือเท่าที่เรามีคือ มีด ขวาน เลื่อยเล็กๆตัดต้นไม้พอเอามาทำบ้านเล็กๆ อยู่กันได้ตามประสาเรา     

ชาวบ้านกับสมุนไพรที่เก็บมาจากป่า 

เราอาศัยภูมิรู้พื้นบ้านที่สั่งสมกันมานับร้อยๆปีถึงสมุนไพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ทุกฤดูกาล พ่อเฒ่าอายุ 70 กว่ายังเดินขึ้นดอยเพื่อเก็บสมุนไพรเฉยเลย  หมอนวด หมอเป่า หมอเหยาเราก็มี เราพึ่งพาอาศัยกัน เสีย ค่าคาย” “ค่าครู ไม่กี่สตางค์ก็อยู่กันได้ตามอัตภาพ แต่ลูกพ่อนั่นพ่อนี่เข้าเมืองทีหมดเป็นร้อยเป็นพัน แล้ว บ้านป่าเมืองปิด อย่างดงหลวงจะไปขุดเอาเงินเอาทองมาจากที่ไหลเล่า  ไอ้มันสำปะหลังปลูกทิ้งๆไว้พอเก็บเอาเงินได้บ้างเหมือนออมสิน ก็ยังไม่ถึงเวลาเก็บเงินสลึงหล่นไปใต้ถุนบ้าน 3 วันมาแล้วยังค้นหากันอยู่เลย เงินมันหายาก พ่อเอ้ย      

 ผ้านุ่งลายผ้าพิม์ที่ซื้อมาใช้

สมัยก่อนเราปลูกฝ้าย ทอผ้าเอง ย้อมครามเอง แม้ว่าเราจะหยุดมากันหลายปี  แต่ก็มีบางบ้านยังทำกันอยู่บ้าน เราซื้อเสื้อผ้ามาใช้แต่ก็เป็นราคาถูกๆที่เทียบไม่ได้กับเดินห้างครั้งเดียวของท่านคนในเมืองหรอกครับ  เราเองก็อยากได้เสื้อผ้าสวยๆอย่างที่ท่านซื้อมาใส่กัน  แต่เราคิดว่าแค่ที่มีใส่ก็พอแล้ว ราคาถูกๆ มันจะขาดบ้างเปื้อนดินเปื้อนสารพัดเปื้อนบ้าง มันก็เป็นแค่หุ้มกายภายนอกหรอก ลองมาคบกันซิครับ  ใจเราไม่เปื้อนหรอกครับ  พวกผมสานกระติ๊บข้าวจำนวนมากมายกว่าจะขายหมด กว่าจะได้เงินมาใช้จ่าย  เวลาน่ะเป็นเพื่อนรักของเรามานานแล้วครับ   

 

เราใช้ศักยภาพของเราผลิตสิ่งเหล่านี้ขาย 

เราคิดว่าในกระบวนการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษาท่านนั้นคง ไม่มีคำว่าไทโซ่ หรือไทบรู บรรจุอยู่ในหลักสูตรไม่มีคำว่าก๊วบ ไม่มีคำว่า เฉลี่ยสมบูรณ์ ไก่ป่า ไก่บ้าน และอีกมากมาย  แต่ทั้งหมดนั้นคือวิถีของเรา ชีวิตเรา ความรู้ ความเชื่อของเรา ฯลฯ  

โปรดวางปริญญาของท่านไว้ที่บ้าน สลัดกรอบความรู้ความคิดเดิมของท่านออกไปก่อน แล้วมาแต่ตัวกับหัวใจและศิลปะการฟัง ฟังเราบ้าง   

มาคลุกคลีกับเราซิครับ แล้วจะเข้าใจเรา

มาคุยกับเราซิครับ แล้วจะเข้าใจเรา 

มากินอยู่หลับนอนที่บ้านของเราซิครับ จะเข้าใจเรา  

ให้เวลากับเราซิครับ แล้วท่านจะเข้าใจเรา 

สถาบันการศึกษาเป็นเพียงแหล่งเพาะกล้าอ่อนของความคิดเท่านั้น    ท่านต้องไปเติบโตโดยการเรียนรู้จากของจริงในสังคม ชุมชน

หมายเลขบันทึก: 90680เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2007 00:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (37)
  • ชอบภาพและบทความนี้มากครับ อ.บางทราย
  • คนเราจะเอาอะไรกันหนักหนา บางทีแค่ปัจจัยสี่นี่ก็เป็นภาระแล้วครับ

ธรรมะสวัสดีครับ

 

  • คุณธรรมวุธครับ
  • มีอีกหลายรูป แต่ upload ไม่ได้ อาจเป็นเพราะทำพร้อมๆกันหลายท่าน เดี๋ยวว่างๆแล้วจะเติมรูปครับ
  • ใช่ครับแค่ปัจจัย 4 ก็พอเพียง สำหรับบางคน แต่อีกบางคนมันไม่เพียงพอครับ
  • ขอบคุณมากครับที่แวะเข้ามา
  • โอ้ นอนดึกเหมือนกันนะครับ อ.บางทราย
  • เรียกผม น้องเทพ ก็ได้ครับ
  • อย่าเรียกคุณเลยครับ ผมกระดากๆ ยังไงไม่รู้ครับ
  • เขียนมาเรื่อยๆ ส่งภาพธรรมชาติๆ ชาวบ้านๆ มาเรื่อยๆ นะครับ ชอบครับ

ธรรมะสวัสดีครับ

  • ตกลงครับน้องเทพฯ
  • ครับน้อง..ปกตินอนดึกครับ มันเคยตัว
  • โอย พี่มีรูปชนบท ชาวบ้านมากมายครับ จะค่อยๆเอาออกมาลงนะครับ
  • เช่นเดียวกัน น้องเทพฯก็นอนดึกเหมือนกันนะครับ
  • สวัสดีครับ
  • พี่ไพศาลคะ...
  • จะเกี่ยวกับเมื่อกี๊หว้าโหลดภาพหรือเปล่าน๊า..
  • ชอบคำนี้มากเลยค่ะ
  • สถาบันการศึกษาเป็นเพียงแหล่งเพาะกล้าอ่อนของความคิดเท่านั้นท่านต้องไปเติบโตโดยการเรียนรู้จากของจริง คือสังคม ชุมชน

  • พี่คะ  ชอบดูรูปบ้างค่ะ  ปกติถ้ามีแต่ตัวหนังสือหว้าจะตาลาย  ยิ่งบันทึกนี้ออกยามดึกด้วยค่ะ 

  • สำหรับเรื่อง"ความพอเพียง" หว้าเริ่มเบื่อหลายๆคนแล้วค่ะ  เถียงมากจนเบื่อ  และพวกที่เถียงกันบางคนก็ไม่ได้รู้ซึ้งถึงคำว่าพอเพียงหรอก

  • อุ๊ย  ขออภัยค่ะพี่ อิอิ... ราตรีสวัสดิ์ดีกว่า

  • น้องลูกหว้าครับ
  • พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ ว่าเรากำลัง Upload รูปพร้อมกันหลายคน
  • ใช่ครับพี่ก็เลยเอารูปมาลงบ้าง
  • เมื่อเราเปิดเป็นสาธารณะก็ต้องยอมรับจ่ะน้องลูกหว้า พี่ก็ตามดูอยู่ห่างๆครับ
  • สวัสดีจ่ะน้องลูกหว้า

P
สวัสดีครับพี่บางทราย
  • สถาบันการศึกษาเป็นเพียงแหล่งเพาะกล้าอ่อนของความคิดเท่านั้นท่าน   ต้องไปเติบโตโดยการเรียนรู้จากของจริง คือสังคม ชุมชน” 
  •  ขอบคุณมากครับพี่ ที่นำภาพดีๆ บรรยากาศดีๆ แล้วได้รสของธรรมชาติที่ดีมากๆ ครับ
  • โดยเฉพาะการจินตนาการความเป็นอยู่ในสิ่งที่พี่เล่ามานะครับ
  • ประโยคข้างบน เรื่องการศึกษาเป็นเพียงแหล่งเพาะกล้าอ่อนของความคิด ทำให้ผมนึกถึงมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาในบ้านเมืองเรา ผมคิดว่าสถาบันการศึกษาต้องช่วยกันหล่อเลี้ยงไปพร้อมๆ กับการเพาะกล้าอ่อนด้วยครับ ให้เค้าเจริญเติบโตได้ก่อนจะถึงวัยอันควรที่จะต้องไปเจอกับแพะ ไม่งั้น ไม่มีทางจะได้มีโอกาสสังเคราะห์แสงได้ครับ
  • ใบใหม่งอกมาเมื่อไหร่ ก็โดนลิ้นแพะเล็มหมดครับ
  • สถาบันการศึกษาก็เช่นกันครับ ต้องเกื้อกูลสังคมแบบวนทำซ้ำด้วยครับ มีการให้และรับกันอย่างสม่ำเสมอครับ ทั้งในเรื่ององค์รู้ ตลอดไปยัง รับข้อเสนอแนะ นำมาสู่การยั่งยืนของชุมชนที่แท้จริงครับ
  • ขอบคุณพี่บางทรายมากๆ นะครับ
  • แนวทางพอเพียง คนเดินต้องเพียงพอ
  • ไทยเองมีข้อดีเพียบครับ อยู่ที่ว่าจะเดินกันอย่างไรให้พอเพียงและเพียงพอครับ
  • ขอให้ชาวบ้านรักษาไว้เถิดครับป่าไม้เหล่านั้น
  • ผมได้มีโอกาสกับพี่คนหนึ่งเมื่อวันสองวันก่อน ทำให้ผมนึกถึงพี่แล้วยกตัวอย่างการเผาป่าเพื่อนำยอดผักหวานมากิน ตัวอย่างตรงกันเปะเลยครับ แต่พื้นที่ทางภาคเหนือนะครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ โชคดีปีใหม่ปีนี้และปีไหนๆ ตลอดไปตลอดกาล ครับผม

 

 

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

  • ตามมาอ่านค่ะ (เกาะติดแบบแฟนพันธ์แท้) กะว่าให้คนอื่นเข้ามาก่อนบ้างค่ะ อิ อิ
  •  คนเราจะพอเพียงได้แค่ไหนอยู่ที่ตนเอง ที่คิดว่าพอแล้ว สมดุลแล้ว อย่าทำให้ใครเดือดร้อนก็พอค่ะ (แอบบอกลูกหว้าด้วยค่ะ) อยู่ที่จิตใต้สำนึกของตนเอง
  • เกือบลืม อย่าทำให้ใครเดือดร้อนด้วย
  • ราณีก็เคยเขียนในบันทึก "จิตใจ พอเพียงหรือยัง" ลองเข้าไปอ่านได้ค่ะ
  • ดูในรูปที่พี่บางทรายนำมาลงดูเขามีความสุขกับชีวิตนะค่ะ  (ทำให้ราณีอดกลัวอย่างที่พี่เคยเขียนในตอนพายุเงินไม่ได้ )
  • ขอบคุณค่ะแล้วราณีจะเข้ามาตอบใหม่ค่ะ
  • ยังไม่นอน หรือพึ่งตื่นค่ะพี่  รออีกสองชั่วโมงก็ตักบาตรได้แล้วค่ะ อิ อิ
  • สวัสดีน้องเม้ง
    P
  • พี่เพิ่มแอบไปบ้านน้องเม้งมา  แต่ไม่ได้ฝากนิ้วหรอกครับ
  • พี่กำลังเรียน Skype เผื่อจะได้มีโอกาศคุยกับน้องเม้งบ้าง
  • พี่คิดอย่างนั้นจริงๆว่า มหาวิทยาลัยเป็นแค่ผลิตกล้าอ่อนของความคิด  เหมือนอย่างนี้น้องเม้ง  พอเราเข้าปี 1 เขาเรียก Freshy  พอโตถึงปี 4 เขาเรียก Senior ใช่ไหม
  • เช่นเดียวกัน เมื่อเรียนจบมาใหม่ๆ เข้าสู่สังคมใหญ่ คุณก็เป็นเพียง Freshy ในสังคมใหญ่ ต้องเรียนรู้ของจริงก่อนแล้วก็ค่อยๆโตขึ้นไป
  • เพียงเด็กนักศึกษารุ่นใหม่ๆที่จบออกมา ไม่ทำตัวเป็น Freshy ที่ต้องเรียนรู้ในสังคมจริงต่อไปนะซี ไม่สนใจเรียนรู้ต่อเนื่อง  นี่คือจุดอ่อนของเด็กรุ่นใหม่ครับ
  • เอาไว้พี่ใช้ Skype เป็นแล้วจะบอกนะครับ
  • ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
  • สวัสดีครับน้องRanee
  • ขอบคุณมากครับที่ติดตาม
  • เห็นน้องลูกหว่าบ่นแล้วเรื่องการแลกเปลี่ยนเรื่องพอเพียง ความจริงก็ดีนะว่าใครคิดอย่างไร แล้วจะเห็นว่าแค่ประเด็นสำคัญนี้ก็มีความหลากหลายที่ดูเหมือนไม่จบ
  • พี่เห็นด้วยกับน้องราณีครับ พี่จะตามไปดูครับ
  • พี่ยังไม่ได้นอน เพราะไม่ง่วงเลย  แต่เดี๋ยวต้องนอนแม้ไม่ง่วง
  • บันทึกนี้พี่เขียนขึ้นตั้งใจจะเน้นที่นักศึกษาใหม่กับการเข้าสู่ชนบทเพื่อเรียนรู้ โดยเอาเรื่องพอเพียงมาเป็นตัวตั้ง  และให้นักศึกษาใหม่เข้าใจตนเองว่า เขายังเป็นแค่เพียงหน่ออ่อนของความรู้เท่านั้นนะ  ต้องไปหาชั่วโมงบินมากขึ้นในสนามจริง
  • ขอบคุณครับน้องราณีครับ

สวัสดีค่ะท่านบางทราย   บางทราย

  • วันนี้ครูอ้อยมาเยี่ยมบ้านท่าน...อื้อฮ้อ ! ต้องยกนิ้วโป้งให้ท่านเลยว่า..ท่านจัดบ้านได้  ได้สวย ได้อย่างมีคึณค่า  อันหมายถึง  บันทึกของท่าน  มีความหมาย  ควรค่าที่จะให้จารึกอยู่ใน  " บันทึกที่ดีในหัวใจครูอ้อย "
  • การเขียนที่ออกมาจากใจนี่  อ่านทีไรก็ประทับใจนะคะ...ครูอ้อยก็อยากเรียน skype บ้าง  อยากเป็นเพื่อร่วมกระบวนการแนวความคิดเดียวกันค่ะ
  • เรียนเชิญอ่านที่นี่ค่ะเพิ่งรู้ว่าตัวเอง...โง่สุดสุด

ขอบคุณค่ะ

ครูอ้อยรีบมากเกินไปพิมพ์ผิดนะคะ  มีคุณค่า

เป็นเพื่อนร่วมกระบวนการค่ะ

เฮ้อ ! ใจร้อนค่ะแย่จริง...แต่ใจรัก...  นี่น่าคบค่ะ

ขอบคุณค่ะ

  • สวัสดีครับ อ.สิริพร กุ่ยกระโทก
  • ไปอ่านมาแล้วค่ะ ยัง งงว่าทำไมถึงกล่าวหาตัวเองว่าโง่เล่าครับ
  • ผมตามไปอ่านมาทั้งหมดแล้วของคุณสะมะนึกะด้วย อดแอบชมไม่ได้ว่า เป็นครอบครัวที่น่ารักมาก และ อ.สิริพร กุ่ยกระโทก เป็นคนทำงานเร็วมากนะครับ  ผลิตงานได้มหาศาลเลย ผมละทึ่งเลยครับ
  • ขอบคุณที่อยู่ในหัวใจครับ ข้าน้อยมิบังอาจ อ่ะ เพราะเป็นหน้าใหม่ ที่ยังเขินๆอยู่เลยครับ
  • เจ้า Skype นั่นผม install ไปแล้วแต่ยังใช้ไม่เป็น  และยังไม่มีเวลานั่งเรียนครับ อีกสักพักคงใช้ได้ อ.เอาคอมใหม่ไปติดตั้งเจ้า Skype ซะวันหลังจะได้คุยกันนะครับ
  • ขอบคุณมากครับที่แวะมาเดี๋ยวจะตามไปอ่านอีกครั้งครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณ P บางทราย

เห็นด้วยเหมือนหลายๆท่านกับประโยค สถาบันการศึกษาเป็นเพียงแหล่งเพาะกล้าอ่อนของความคิดเท่านั้น    ท่านต้องไปเติบโตโดยการเรียนรู้จากของจริงในสังคม ชุมชน”

ในฐานะคนทำงานในสถานศึกษา ดิฉันก็พยายามเพาะกล้าอ่อนให้ดีที่สุดค่ะ พยายามค่ะ เพราะกล้าอ่อนเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจ การบำรุงกล้าด้วยปุ๋ยความรู้จึงค่อนข้างท้าทาย เพราะสอนอย่างไร ก็คงได้ไม่เหมือนกันทุกคน

ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆ ที่นำมาฝากเสมอนะคะ ตามอ่านอยู่เรื่อยๆ ค่ะ

  • สวัสดีครับ อ.ดร.กมลวัลย์ ลือประเสริฐ
  • ผมคิดว่าอาจารย์จำนวนมากมีจิตใจเป็นครูที่แท้จริง ผมเห็นบางท่านติดตามลูกศิษย์มากแม้จบไปแล้วยังให้คำแนะนำการเผชิญชีวิตจริงในสังคมโลกใบนี้ครับ
  • ผมชื่นชมอาจารย์ท่านเหล่านั้นมาก
  • การจัดปัจฉิมนิเทศน์ก็เป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อเตรียมตัวลูก..(ศิษย์)ของเราก้าวไปใช้ชีวิตกับสังคมองค์กรต่างๆ ดังนั้นน่าที่จะมีการเชิญผู้บริหารด้านต่างๆมาเล่าการดำเนินชีวิตในองค์ต่างๆเหล่านั้น เพื่อ warm up ชีวิตเขา เช่นอาจจะมีลูก..บางคนไปเป็นข้าราชการ ก็เชิญผู้บริหารข้าราชการที่พูดดีๆมาบรรยาย ลูก..บางคนไปเป็นพนักงานบริษัท ก็เชิญผู้บริหารองค์กรกลุ่มนั้นๆมาบรรยาย ฯลฯ  (ทางสถาบันอาจจะทำแล้วก็ได้นะครับ..)
  • แม้ว่าตอนเข้าไปในหน่วยงานนั้นๆก็อาจจะมีการอบรมให้พนักงานใหม่  แต่หากทางสถาบันจัดก่อนก็จะเป็นการเตรียมตัว ส่งลูกไปอยู่กับสังคมจริงๆ
  • ขอบคุณมากครับที่มาเยี่ยมและแลกเปลี่ยนกันครับ

สวัสดีคุณ P บางทราย อีกครั้งค่ะ

ดิฉันว่าปัจจุบันหลายๆ สถาบันมีการจัดปัจฉิมนิเทศแล้วนะคะ ที่คณะวิศวฯ สจพ. ก็มีการจัดค่ะ แต่แทบต้องบังคับนักศึกษาเข้าร่วมเหมือนกันค่ะ เวลามีน้อยกระมังคะ สำหรับนักศึกษาบางคน การให้ความสนใจกับปัจฉิมนิเทศของนักศึกษาค่อนข้างต่ำ หรือไม่ก็การสื่อสารประชาสัมพันธ์ไม่ค่อยดี ก็คงต้องปรับปรุงกันต่อไปค่ะ

จากประสบการณ์ที่เคยสอนนักศึกษาทุกชั้นปี ยกเว้นปี ๑ นะคะ จะพบว่านักศึกษามีทัศนคติเปลี่ยนไป โดยมีการเติบโตขึ้นทุกปี จากปี ๒ ไปปี ๔ นี้เปลี่ยนไปมากค่ะ โตขึ้นมาก แต่แน่นอนว่าเขายังไม่เคยทำงาน ทัศนคติและความรู้เกี่ยวกับค่าของเงิน และการ earn โดยหยาดเหงื่อแรงงานยังค่อนข้างน้อยค่ะ

ดิฉันพยายามปลูกฝังให้นักศึกษาเข้าใจเรื่องความไม่ยุติธรรมในสังคม การไม่ได้ตามความคาดหวัง และการมีจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพ รวมถึงไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ฟรี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่พยายามสอนนอกหลักสูตรนะคะ

เขียนไปเขียนมาจะกลายเป็นบันทึกเรื่องอื่นอยู่แล้ว ; ) ขอบคุณที่ให้โอกาส ลปรร ค่ะ

แหะๆ อยู่ในสถาบันการศึกษาค่ะพี่บู๊ท แต่ไม่เก่งเรื่องการเพาะกล้าอ่อนเลยค่ะ  มือหนักเพาะอะไรปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น  อิอิ

  • น้องหนิงครับ
  • ไม่จริงครับพี่ยืนยันว่า...ไม่จริ๊ง....ไม่จริง
  • เพราะว่าโจทย์ของน้องหนิงมันยาก...มั่ก...มั่ก
  • เป็นต้นไม้ก็ประมาณผักหวานป่านะครับ ท่านครูบายังบอกว่าเป็นพืชปราบเซียน  ก็น้องหนิงกำลังเพาะกล้าผักหวานป่าจริงๆ  ยาก  แต่ไม่ใช่ทำไม่ได้
  • พี่ให้กำลังใจเสมอมานะจ๊ะ  และทุกคนก็เห็นว่าน้องหนิงกำลังทำอะไร การทำสิ่งที่ยาก ผู้ทำต้องมีพลังมหาศาล เหนือคนปกติทั่วไปหลายเท่านัก  มีอุปสรรคไปทั้งหน้าทั้งหลัง ทั้งบนทั้งล่าง  และมีอุปสรรคแบบไม่มีทิศทางอีกด้วย
  • ขอบคุณค่ะที่เยี่ยมพี่
  • ขอบคุณมากครับ อ. ดร. กมลวัลย์ ลือประเสริฐ
  • ดีจังเลยที่สถาบันจัดการเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว และท่าน อ.ก็ยังเติมในเรื่องของจริยธรรมอีกด้วย ดีมากครับ
  • เอ ผมมาคิดเพิ่มเติมว่า การจัด ปัจฉิมนิเทศน์เพียงวันเดียวอาจจะไม่เพียงพอ 
  • เป็นไปได้ไหมที่จะจัด "เวทีการเตรียมตัวออกสู่ชีวิตการทำงาน" ในระหว่างที่น้องๆเรียนอยู่ปีที่ 3 หรือ 2 ทั้งนี้เพื่อเตรียมตัวเขาแต่เนิ่นๆ เขาจะได้มีเวลาเตรียมตัวมากหน่อย ว่าจะไปเป็นอย่างนั้นอย่างนี้จะต้องเตรียมอะไรอย่างไร เขาอาจเปลี่ยนใจก็ได้เมื่อมาเรียนรู้ว่า งานด้านนี้เป็นอย่างนี้ ไม่ตรงกับความต้องการของเขา เป็นเวทีเล็กๆก็ได้ อาจใช้รุ่นพี่ที่จบแล้วและไปทำงานแล้วมาเล่าให้น้องๆฟัง  หรือเชิญนักบริหาร มาด้วย และเปลี่ยนกันครับ  เวทีนี้เน้นบทบาทการแลกเปลี่ยนกันมากกว่าที่จะให้มานั่งฟังครับ
  • ขอบคุณมากครับ

สวัสดีค่ะคุณ P บางทราย

สำหรับข้อแนะนำเรื่องการทำเวทีให้นักศึกษาเพื่อเตรียมตัวสู่การทำงานนั้น ลักษณะการจัดเวทีเหล่านี้ในปัจจุบัน ถ้ามีการจัด ค่อนข้างจะเป็นคณะใครคณะมัน คือไม่ค่อยประสานกันค่ะ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ของแต่ละหน่วยงานในสถาบันยังน้อยค่ะ ดิฉันได้มา ลปรร ที่นี่ ยังคิดเลยว่าอยากจะชักชวนอาจารย์หลายๆ ท่านที่สถาบันมา ลปรร ร่วมกัน เพื่อพัฒนาไปด้วยกัน ไม่ต้องทำอะไรผิดพลาดซ้ำๆ

ขอบคุณสำหรับข้อแนะนำดีๆ นะคะ ต้องลองไปเสนอดูค่ะ ไม่รู้ว่าจะได้สักขนาดไหน ยังไงถ้ามีความก้าวหน้าหรือประสบการณ์อะไรเกี่ยวกับอุดมศึกษาก็จะมาเขียนรายงานความก้าวหน้าในบันทึกให้ทราบกันค่ะ

 

  • สวัสดีครับ อ. ดร. กมลวัลย์ ลือประเสริฐ
  • ขออขบคุณที่อาจารย์มาแลกเปลี่ยนครับ  ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ครับว่าเวทีนี้ G2K ผมเรียนรู้มากกว่าที่ให้  ให้ยังน้อยไป
  • และที่สำคัญผมเห็นด้วยกับอาจารย์มาก ที่หากคณะจารย์ในสถาบันออกมา shopping ตลาดนัดความรู้แห่งนี้ ท่านอาจารย์เหล่านั้นอาจจะเก็บประเด็นไปพัฒนากระบวนการเรียนการสอนได้มากมายเลยนะครับ
  • ผมในฐานะที่ทำงานสนามมีบทเรียน ประสบการณ์ที่ต้องการสะท้องขึ้นข้างบน ให้ได้ยินได้เห็นบ้าง  ความจริงก็ทำอยู่แล้วตามระบบ  แต่หลายเรื่องไม่ work ก็เลยมาเอะอะโวยวายในสาธารณะแบบนี้แหละครับ  ต้องกราบขออภัยอาจารย์และทุกท่านด้วย หากสำนวนใดๆไม่เหมาะสมก็โปรดอภัยด้วยครับ (ซึ่งผมพยายามกรองแล้วกรองอีกก่อนปล่อยออกมา)
  • ขอบคุณมากครับ

พี่บู๊ทขา  ชมกันซึ่งหน้าแบบนี้  น้องหน้าบานเลยนะคะเนี่ย... (ปกติก็บานอยู่แล้ว)

ขอบพระคุณค่ะพี่บู๊ทขา  ทำไงได้หละค่ะ  หนิงมีห่วงเยอะ  ทั้งห่วงงาน ห่วงเด็ก ห่วงที่บ้าน  ที่สำคัญห่วงยางค่ะ 

ตอนนี้ทั้งคุณหมอสุธี คุณหมอนนท์ ก็เหล่ๆหนิงแล้วค่ะพี่   แต่  อื้มม...คุณหมอเจเจ  ก็เอาเมนูโปรดมายั่วอีกแล้วสิคะ

ทำไงดี  ทำไงดี  หิวจัง

  • อือ..พี่ก็กำลัง "ตั้งสติก่อนสตาร์ท" กิน กิน กิน...ก็มันชอบ...อ่ะ..
  • คุณหมอท่านเตือนมา  เพื่อนๆที่รักเราเตือนมา ก็ต้องตั้งสติมากขึ้นไปอีก..เอ้าเพื่อตัวเราเองยามเฒ่า ยามแก่ ...เน๊าะ...  จะได้มีแรงมา...เจ๊าะ..แจ๊ะ.. บ่อยๆไงเล่าน้องหนิง ครับ
  • ขออนุญาติเข้าบ้านด้วยคนน่ะค่ะ....ติดตามคนได้รางวัลมา
  • อันดับแรกต้องขอแสดงความยินดีกับรางวัลสุดคนึงก่อน...อิ..อิ...อิ
  • kead  ว่าความพอเพียงนั้นมีคนพูดมากกว่าคนทำ...อยากให้อาจารย์ทำต่อไปค่ะ...โดยเฉพาะเพื่อการบ่มเพาะกล้าอ่อน....
  • ยังไงๆเด็กก็คืออนาคตของชาติค่ะ...

เรื่องเล่ามีสาระและสีสันดีจริงๆ สมกับที่ได้รางวัลนะคะ ขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้งค่ะ

น่าติดตามไปเยี่ยมชมพื้นทีทำงานของพี่บางทราย คงจะมีโอกาส ไปเมื่อไหร่จะหอบกล้วยตาก(ที่กินได้ ไม่ใช่น้องหมานะคะ)ไปฝาก พี่บางทรายอย่าบริโภคฟักทองมากไปนะคะ ตัวจะเหลืองได้

  • แวะมาแสดงความยินดีค่ะพี่ไพศาล
ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ
อิ อิ  แฟนพันธุ์แท้ ตามมาแสดงความยินดีด้วยค่ะ  อย่างนี้เขาเรียกว่าเพชรแท้ ยังไงก็ส่องแสงให้เห็นค่ะ จะติดตามผลงานของพี่ต่อไปค่ะ
ดีใจที่ท่านได้อยู่กับชีวิตพื้นฐานจริงๆ อยู่กับความเป็นจริง มันชัดๆ ชัดๆ จริงๆ คนไม่อยู่รู้ไม่ซึ้งหร๊อก
  • สวัสดีครับคุณ kead
  • ขอขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยมบ้าน
  • ที่ทำงานผมรับนักศึกษามาฝึกงานประจำทุกปีครับ เสียแต่ว่าเขาชั่วเวลาสั้นๆเท่านั้น แต่เราก็พยายามให้เขามากที่สุดครับ
  • ขอขอบคุณอีกครั้งครับ
  • สวัสดีคุณนายคุณนายดอกเตอร์
  • พี่ยินดีต้อนรับอยู่แล้วครับ ดงหลวงคือโจทย์ที่ใหญ่และหนักสำหรับเรา  กำลังทำเรื่องทำโครงการ Stage 2 อยู่น่ะครับ
  • หากได้มาจริงๆคงทำอะไรได้มากขึ้นครับ
  • โครงการจะสิ้นสุดปลายปีนี้ครับ
  • แหม กล้วยตากของชอบ อิอิ.
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับน้องลูกหว้า
  • พี่..เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย ตื่นสาย และทำธุระให้คุณแม่ มีเพื่อนมาเชิญไปงานดำหัวผู้มีพระคุณ กว่าจะรู้ตัวเองก็น้องหนิงโทรไปบอกครับ ยัง งง งง และต้องไปงานผู้มีพระคุณก่อนเข้ามาเปิด G2K จริงๆครับ
  • ขอบคุณน้องลูกหว้ามาก
  • สวัสดีครับน้องใบบุญ
  • พี่เคยเข้าไปเยี่ยมน้องอยู่แต่ไม่ได้ฝากลายมือไว้ครับ
  • ขอบคุณมากครับ
  • สวัสดีครับน้อง Ranee
  • เมื่อคืนเราคุยกันดึกนะ
  • แต่ก็เพลินไปเลย ต้องบังคับตัวเองนอน  เมื่อนอนก็ยาวอีกเช่นกัน
  • น้องหนิงโทรไปบอกครับตอนเย็นมากแล้ว  แต่ต้องไปทำธุระก่อนเข้ามานี่แหละครับ
  • ขอบคุณมากๆครับ
  • สัวสดีครับท่าน ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
  • ผมต้องกราบท่านครูบานะครับ เพราะผมเรียนรู้วิธีการเขียนจากท่านแล้วเอามาปรับปรุงตัวเองให้มัน "มันขึ้น"  โดยเอาสาระจริงใส่เข้าไป
  • ขยี้ทิ้งไปก็หลายแผ่น ไม่ไหลเป็นน้ำก็อกที่เยอรมันของน้องเม้ง เทอร์โบ ดาวเทียม ปลูกต้นไม้ ฯลฯ
  • "สาระเรามี" แต่จะนำเสนออย่างไรให้น่าอ่าน นั่นคือสิ่งที่ผมเรียนรู้จากท่านครูบาครับ
  • ดังนั้น "สุดคะนึง" จึงเป็นของท่านด้วยครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ

การศึกษาในบ้านเราขาดพื้นฐานที่เป็นของเราเองนะครับ... ไปเอาของที่อื่นมา แปลหนังสือฝรั่งมาโดยไม่มาปรับใช้ ทำให้ความรู้ขาดตอน...ขาดหนังสือดีๆ และคนไม่อ่านหนังสือครับ

เรียนรู้จากชีวิตจริงและประสพการณ์เป็นสิ่งที่ดีที่สุด...

โอชกร

  • สวัสดีครับอาจารย์โอชกร - ภาคสุวรรณ
  • "การศึกษาในบ้านเราขาดพื้นฐานที่เป็นของเราเองนะครับ... ไปเอาของที่อื่นมา แปลหนังสือฝรั่งมาโดยไม่มาปรับใช้ ทำให้ความรู้ขาดตอน..."
  • ใช่เลยครับ  คนเขียนตำราใหม่บ้านเราไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่  แต่งานวิจัยล้นห้อง เอามาย่อย เขียนเป็นตำราได้บ้างหรือเปล่าหนอ..
  • "ขาดหนังสือดีๆ และคนไม่อ่านหนังสือครับ"
  • ก็ใช่เช่นกันครับ  โดยเฉพาะนิสัยการอ่านไม่มี เอ ผมคงต้องเขียนเรื่องนี้สักวันหนึ่งแล้วครับ
  • "เรียนรู้จากชีวิตจริงและประสพการณ์เป็นสิ่งที่ดีที่สุด..."
  • สุดยอดเลยตรงนี้...สำคัญที่ออกสนามก็ไม่เรียนรู้ เจ้าสมองส่วนเรียนรู้มันฝ่อไปหมดแล้ว มีแต่สมองรับคำสั่ง ขนาดรับคำสั่งยังทำได้ไม่ครบเลย  พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ??  แล้วจะเอาการสร้างสรรค์มาจากไหน
  • ขอบคุณครับอาจารย์ที่มาเยี่ยมบ้าน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท