Thai Buddhist lost in Buddhism


Thai Buddhist lost in Buddhism

Thai Buddhist  lost in Buddhism

ชาวไทยพุทธกลัวการเป็นพุทธ  

ไม่น่าเชื่อใช่ไหมว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในเมืองพุทธ บนผืนแผ่นดินไทยของเรา หรือว่าศาสนาพุทธไกล้ถึงจุดจบและเสื่อมทรามเต็มทีแล้วความเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปทำให้ หลายคนไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงนั้นเลย เช่นเดียวกับสภาวะอากาศ หรือปัญหาโลกร้อนของเรา ในเบื้องต้นการเปลิ่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกจะขึ้นๆลงๆ เสมือนเส้นตรงในแนวทะแยงมุมที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง อุณหภูมิจะเปลื่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ชนิดที่ร้อนจัดจนสามารถทำให้น้ำท่วมโลก และหนาวจัดชนิดที่ทำให้โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็งได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี สัตว์โลกหลายชนิดที่ปรับตัวไม่ทัน จึงต้องสูญพันธ์ไปในที่สุด  สภาวะเช่นนั้นกำลังเกิดขึ้นกับศาสนาพุทธ ที่นี่และบนผืนแผ่นดินนี้!!! 

หลายคนอาจจะบอกว่ามันเป็นวัฏจักร เมื่อมีเจริญก็ย่อมมีเสื่อมถอย แต่ในความเป็นเช่นนั้นเองนั้น บางอย่างถูกจงใจกระทำให้เกิดขึ้น จึงเท่ากับว่า หาใช่ความเป็นเช่นนั้นเองไม่ชาวพุทธกลัวเป็นพุทธ เกิดขึ้นได้อย่างไร?หากย้อนไปช่วงการเปลี่ยนแปลงจากวิกฤตการเมืองการปกครองปลายปี 49 หลายคนคงไม่ทราบว่าได้มีวิกฤติหนึ่งที่เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนา รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวตัดข้อความ"พระมหากษัตริย์ต้องเป็นพุทธมามกะ และพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ"ออก รมว.ศึกษาธิการ เสนอในที่ประชุมให้มีการเปลี่ยนแปลงและยกเลิกโครงการโรงเรียนวิถีพุทธไปเป็นโรงเรียนวิถีธรรมเพื่อรองรับการเรียนการสอนของศาสนาอื่น เรื่องนี้ไม่ทราบได้ว่าเกิดจากความไม่ตั้งใจหรือตั้งใจให้เกิดขึ้นกันแน่ 

เมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเกิดมิจฉาทิฐิ กลัวว่าหากใช้คำว่าพุทธแล้วจะทำให้ไม่เกิดความสมานฉันท์ซึ่งน่าจะเกิดจากสาเหตุอิทธิพลของปัญหาสามจังหวัดชายเดนภาคใต้ ที่สังหารคนเป็นผักปลาและถูกใช้เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในกระดาน คนพุทธเองจึงไม่กล้าบอกว่าเราเป็นชาวพุทธ แล้วจะให้เราไปเป็นอะไร ? ความกลัวกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในระบบการเมืองการศาสนา เช่นเดียวกับเหตุการณ์ 911!!!นอกจากสาเหตุปัญหาสามจังหวัดชายเดนภาคใต้แล้ว เหตุใดจึงเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้ขึ้น?  

1.วัดวัตถุนิยม

วัดแทนที่จะถูกใช้เป็นสถานที่วัดจิตใจเพื่อการขัดเกลา กลับกลายเป็นวัตุนิยม ซุ้มประตูวัดมูลค่าหลายแสนหลายล้านบาท วิหารอาคารสิ่งปลูกสร้าง หลายสิบหลายร้อยล้านผุดขึ้นเช่นเดียวกับกระแสวัตถุนิยม  ความสวยงามของสิ่งปลูกสร้าง ไม่สามารถบ่งบอกได้ถึงความสวยงามของจิตใจคน ชาวบ้านยังยากจนถูกมอมเมาจาก อบายมุข สิ่งเสพติดและการพนัน แทนที่เงินบริจาคจะถูกใช้ในการพัฒนาคนและชุมชน กลับถูกใช้เพื่อการพัฒนาวัตถุ ชนิดที่ไม่พอเพียงไม่พอดี มันถูกต้องแล้วหรือ กิเลสความอยากได้บุญอยากขึ้นสวรรค์ในใจคน ถูกนำมาใช้เพื่อการบริจาค วัดแบบนี้จึงไม่ใช่วัด แต่เป็นวัดวัตถุนิยม กายนิยม

หากเราอ่านในพระบาลี จะพบว่าพระพุทธองค์สั่งสอนว่า ตราบใดที่พระหรือนักปฏิบัติยังมีความยินดีในเสนาสนะป่า พระพุทธศาสนาจะไม่เสื่อมสลายหายจากโลกตราบนั้น ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาจึงไม่ได้อยู่ที่ความใหญ่โตหรือความสวยงามเทียบสวรรค์ชั้นฟ้า ของวัดวาอาราม  การสร้างสิ่งสวยงามที่เป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งดี แต่หากทำด้วยความไม่พอเพียง แข่งกันทำ ทำเหมือนๆกันหมด ความดีนั้นจะกลายเป็นไม่ดี  

 2.เสกพระให้เป็นพราหมณ์ 

พระเสกที่เขล็งไม่ขลังจริง ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ ปัญหานี้ทำให้การปลุกเสกพระจะต้องมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องจึงจะสามารถจัดการปลุกเสกได้ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้บางส่วน แต่ผลเสียของวิธีการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุนี้กลับส่งผลที่ร้ายแรงกว่า  เพราะต่อไปจะมีของขลังที่ไม่ใช่พระถูกปลุกเสกมากขึ้น อย่างที่เป็นข่าว เช่นจตุคาม รามเทพ ยิ่งปลอมยิ่งดัง ยิ่งออกหนังสือพิมพ์ก็ยิ่งได้"กรรมไร"  

หนังสือพิมพ์เจ้ากรรม ก็อยากขายข่าว โปรโมทโฆษณากันเข้าไป "กรรมมาไรๆ"แน่นอน  

 

 3.มารศาสนาไม่เสียค่าปรับ

มารศาสนาที่ปลอมเป็นพระ และพระที่ปลอมเหล่านี้ อย่างมากก็ถูกจับสึก ไม่ต้องเสียค่าปรับหรือถูกยึดทรัพย์แต่ประการใด สึกไปก็กลายเป็นคนรวย หรือมีทรัพย์สินให้พี่น้องได้เสวยสุข กฎหมายเพื่อการปกป้องศาสนาจึงจำเป็นและสมควรต้องมี ไม่แปลกใจเลยที่มีข่าวยิงกันในวัดเพราะขัดผลประโยชน์ 

มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจเกี่ยวกับกรณีนี้ก็คือ ชาวต่างชาติที่ไม่เข้าใจในความเป็นพุทธได้กระทำลบหลู่กับพระพุทธรูป เช่นการขึ้นไปขี่คอพระพุทธรูปแล้วถ่ายรูปเป็นต้น หลังจากเจ้าหน้าที่ชี้แจงให้เข้าใจพร้อมปรับเป็นเงินจำนวนเล็กน้อยตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย ฝรั่งผู้นั้นยอมเสียค่าปรับอีกครั้งเพื่อกลับไปกระทำผิดใหม่ 

    

4.บุญนิยม นิยมทุน

โยมฝึกพระให้เสียนิสัย จากสิ่งที่มาแต่งเติมสร้างเปลือกพอกศาสนาให้หนาขึ้นจนยากที่จะเข้าถึงในภายหลังนี้ บางอย่างก็ทำให้พระเสียนิสัย เช่นไปสวดจะต้องได้ซอง ไม่ต่างอะไรกับทำงานต้องได้ค่าจ้าง หากยังยึดติดกับค่าจ้าง แล้วจะมีจิตใจในการพัฒนาตนพัฒนางานได้อย่างไร บวชพระสมัยนี้จึงรวย สึกออกมาแล้วก็มีเหลือเก็บ เรื่องนี้จึงควรเป็นจิตสำนึกส่วนบุคล(พระ)มากกว่า บางรูปท่านก็บริจาคส่วนนี้เข้าวัดหรือนำไปใช้เพื่อสร้างประโยชน์อย่างอื่น ส่วนโยมก็ไม่เข้าใจว่า การได้บุญมากหรือไม่มากนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนทางกายภาพ แต่เป็นปริมาณแรงใจที่ได้ออกไป(บุญเชิงคุณภาพ) และส่วนใหญ่ก็ทำบุญหวังได้ขึ้นสวรรค์ หวังว่าชาติหน้าจะสบายอยู่ โยมประเภทนี้จึงตกเป็นเหยื่อของพวก "บุญนิยม นิยมทุน"       

 5.ศาสนา บันดาศักดิ์

เปลือกจำเป็นต่อการอยู่รอดและการเจริญของต้นไม้ แต่เปลือกที่ถูกพอกหนาจนเกินไป เต็มไปด้วยกาฝากและเถาวัลย์ จะทำให้ ต้นไม้ต้นนั้นแบกภาระหนัก ใบขาดแสงสว่างเพื่อสังเคราะห์แสง และต้องเหี่ยวเฉาตายไปในที่สุด หากเราสังเกตุดีๆจะพบว่า เปลือก,กะพี้และแกนของไม้บางชนิดจะมีความแข็ง แต่แก่นจะเป็นไส้กรวงที่ว่างเปล่า

พระ มีความหมายว่าผู้เจริญ มีรากศัพท์มาจากคำว่า วระ ซึ่งมีการใช้ตัว แทนตัว ในต้นพุทธศตวรรษที่ 18 วระแปลว่า ผู้ขอ คำว่าพระจึงมีความหมายที่แท้จริงว่า ผู้ขอที่มีจิตใจอันประเสริฐ การที่พระพุทธองค์ทรงเรียกการไปขออาหารเพื่อเลี้ยงชีพนี้ว่า การไปโปรดสัตว์ เนื่องจากเมื่อมีผู้ขออันประเสริฐมาขอทาน  หากชาวบ้านมีจิตเมตตาหรือศรัทธาในคุณงามความดีและจริยวัตรอันงดงามของผู้ขอ การให้ทานโดยบริจาคอาหาร จึงเป็นการลดความคับแคบของจิตใจ เป็นเงื่อนไขให้เกิดบุญเกิดกุศล ในสมัยนั้นผู้ขอก็ไม่ต่างอะไรกับขอทาน การที่วระอุ้มบาตรไปขออาหารเพื่อเลี้ยงชีพ จึงเป็นการขอทาน แต่ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์คือ เมื่อผู้ขออันประเสริฐมาขอทาน ผู้ขอกลับเป็นผู้ให้ทาน คือเป็นผู้จุดประกายของความเมตตาขึ้น การขอจึงเป็นการให้ ส่วนผู้ให้ ยิ่งให้ก็ยิ่งได้รับ เป็นเงื่อนไขที่เกื้อหนุนให้เกิดเมตตาธรรมขึ้นในจิตใจของผู้คน ดังกับคำว่าเมตตาธรรมค้ำจุนโลกดังนั้นในความเป็นจริง พระก็ไม่ได้ต่างอะไรกับขอทาน แต่เป็นผู้ขออันประเสริฐ ดังนั้นไม่ว่าจะได้ยศได้ศักดิ์เป็นอะไร ได้ปกครองสงฆ์มากแค่ไหน ก็ขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า เป็นหัวโขนของหัวหน้าขอทานผู้ประเสริฐนั่นเอง ดังที่พระพยอม ท่านพูดว่า อาตมาเป็นพระ ต้องทำงานให้คุ้มค่าข้าวที่ชาวบ้านใส่บาตรมา ซึ่งน่ายกย่องที่ท่านเป็นพระแท้ พระนักพัฒนา ที่พัฒนาทั้งทางด้านวัตุและด้านจิตใจ ให้กับชาวบ้าน ,วัดและชุมชน

 6.ไม่ดีให้ไปวัด

วัดเปรียบดังส้วมสำหรับการถ่ายของเสีย นิสัยที่ไม่ดีก็ให้ไปขจัดที่วัด ของไม่ดีใช้งานได้ไม่สมบูรณ์ก็บริจาควัด หมาแมวตัวไหนขี้แหร่หรือเลี้ยงไม่ไหวก็ไปปล่อยวัด เด็กคนไหนเกเรหรือไม่มีที่เรียนก็ไปฝากเป็นลูกศิษย์วัด คนสติไม่สมประกอบ คนพิการ หรือแม้กระทั่งคนแก่ก็พาไปปล่อยวัด คนที่เคยติดคุกติดตะราง คนนิสัยไม่ดีรวมทั้งคนว่างงานไม่มีอะไรทำ ก็ให้พาไปบวช ดังนั้นวัดจึงเป็นสถานที่รวมของสิ่งไม่ดี หากพระหัววัด หรือพระเจ้าอาวาส ไม่มีความสามารถในการจัดการ หรือฝึกหัดนิสัยไม่ดีเหล่านี้แล้ว ก็ยากที่จะมีพระดีๆ อยู่ในวัด    

 7.พระเทียมพุทธไม่แท้    

ศาสนาพุทธได้เข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยหลังจากศาสนาพราหมณ์ แต่ด้วยความเป็นพุทธจึงจำเป็นต้องเผยแพร่อย่างสมานฉันท์ พระมหากษัตริย์ไทยในสมัยนั้นจึงยังคงเป็นสมมุติเทพ และไม่ได้ทำลายหรือกวาดล้างความเชื่อของศาสนาพราหมณ์เสียทีเดียว สังเกตุได้จากพิธีกรรมในวันสำคัญทางศาสนายังคงมี พิธีการแบบพราหมณ์อยู่ พื้นฐานความเชื่อของชาวไทย จึงปนอยู่กับพุทธ,พราหมณ์,จีน,เขมร,พม่าและมาลายู ปัจจุบันชาวพุทธไทยส่วนใหญ่จึงยังไม่เป็นพุทธแท้ ยังคงกราบไหว้ศาลพระภูมิ ศาลเจ้า ศาลพระพรหมณ์ นับถือผีสางเทวดาหรือกราบใหว้แม้กระทั่งตอไม้ พืชหรือสัตว์อะไรที่เกิดมาผิดธรรมชาติแปลกประหลาด แม้กระทั่งเรื่องดูหมอดูดวง สเน่ห์ยาแฝดอยู่ แต่ถ้าจะถามว่าสิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริงหรือไม่ ศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ ก็ต้องบอกว่า สิ่งที่มองไม่เห็นมีอยู่จริง แต่ไม่ใช่สิ่งที่ควรเคารพกราบใหว้บูชาอย่างสูงสุด คำถามก็คือ ถ้าผีสางเทวดา เทพชั้นฟ้า ยังคงมีพฤติกรรมเป็น"เทวดาคอรัปชั่น"ด้วยการติดสินบน จนต้องแก้บนกันอยู่ ยังหลงยินดีเมื่อมีคนมาประจบสอพลอกราบใหว้บูชาโดยหวังสิ่งตอบแทนอะไรบางอย่าง เทวดาเหล่านั้นจะมีความน่าเชื่อถือ ให้สมควรปกครองหรือกระทำการใดๆเพื่อหรืออยู่เหนือมนุษย์หรือไม่

ส่วนผีก็ไม่ต่างอะไรกับรุ่นพี่ พอถึงเวลารุ่นน้องอย่างพวกเราทุกคนก็คงได้เลื่อนชั้นเรียน ส่วนจะตกชั้นหรือข้ามชั้นไปเป็นอะไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความดีที่ได้กระทำ      

see 5,000 years of religion in 90 seconds

พระเทียมพุทธไม่แท้ในสมัยนี้จึงมีอยู่มาก แม้กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นชาวพุทธ ยังไม่เข้าใจพุทธศาสนา แกรงกันว่าถ้าจะบอกว่าเราเป็นพุทธแล้วจะทำให้ไม่สมานฉันท์

ในความเป็นจริงแล้วมีข้อมูลทางสถิติมากมายที่บ่งบอกได้ว่า การเป็นพุทธทำให้เกิดความสมานฉันท์ ตัวอย่างที่ทนท้าต่อการพิสูจน์อย่างหนึ่งก็คือ ในประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธไม่เคยเกิดสงครามระหว่างศาสนาหรือแม้กระทั่งสงครามระหว่างลัทธิขึ้น เพราะหากเกิดขึ้น ผู้นั้นกลุ่มชนนั้นจะไม่ใช่พุทธทันที ในมุมกลับกันชาวพุทธทำสงครามอยู่ตลอด เป็น Peace Warrior สงครามที่แท้จริงจึงมิใช่สงครามภายนอก แต่เป็นการทำสงครามกับกิเลสตัณหาในใจตน และสังหารความไม่รู้ให้กับผู้คนต่างหาก

 คำว่าคุณธรรมแม้จะใช้ได้สากลกับทุกศาสนา แต่จากผลการวิจัยพบว่า ประเทศที่ใช้หลักคุณธรรมสากล แทนศีลธรรมจริยธรรมศาสนา จะมีแนวโน้มที่คนในชาติไม่มีศาสนามากขึ้น พร้อมทั้งเกิดลัทธิใหม่ๆ ผุดขึ้นมาอย่างมากมาย ใครอยากจะรวยเร็วก็ให้ก่อตั้งลัทธิใหม่กัน ตัวอย่างเช่นวัดบางวัดที่มีจานบินตั้งอยู่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งการหลุดพ้น ที่ไม่ได้สอนให้ยึดติดในตัวตน แม้ว่าการไม่ยึดติดกับตัวตนจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การมีตัวตนเพื่อก้าวไปสู่การหลุดพ้นนั้นก็สำคัญด้วย

การที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้คำว่าพุทธหรือไม่นั้น สามารถอุปมาให้เข้าใจได้ง่ายๆดังนี้การใส่เสื้อเหลืองของชาวไทย สามารถทำให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป หากใส่เสื้อเหลืองแล้วกินเหล้าเข้าพับร์เข้าบาร์ ก็กะไรอยู่ แม้การบวชเป็นพระ มิได้อยู่ที่การห่มผ้าเหลือง แต่ผ้าเหลืองผืนเดียวยังทำให้คนเคารพกราบใหว้และศรัทธา  ทั้งนี้เนื่องจากบารมีในคุณงามความดีและธรรมานุภาพของพระพุทธเจ้า ผ้าเหลืองจึงมีทั้งพลานุภาพและพุทธานุภาพ การบวชเป็นพระแม้ว่าจะใช้การบวชใจได้ แต่การห่มผ้าเหลืองก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน เช่นเดียวกันกับการใช้คำว่าพุทธ

การเรียนการสอนวิถีพุทธ จึงสำคัญ หากใช้คำว่าพุทธแล้วไม่ปฎิบัติแบบพุทธ ก็ไร้ความหมาย ซ้ำร้ายอาจจะก่อให้เกิดผลเสีย เช่นเดียวกับการที่พระไม่เป็นพระ และชาวพุทธไม่เป็นพุทธแท้นั่นเอง 

 

~ตื่นเถิดชาวไทย อย่าหลับไหลลุ่มหลง ชาติ,ศาสนาจะพินาศลงก็เพราะเราทั้งหลาย~

 

ถ้าไม่ตื่นจะรู้ว่าหลับได้อย่างไร ถ้าไม่ตื่นจะรู้ว่าฝันได้อย่างไร?

 ข้อมูลอ้างอิง

ศูนย์ข่าวพระพุทธศาสนาพระไทยดอทเนต

An Inconvenient Truth trailers 

Global warming 

กระบี่อยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่กระบี่

ใช้กระบี่โดยไร้ใจ คือการสังหารตนเอง

หลอมกระบี่เป็นหนึ่งเดียวกับใจ ซามูไรตาบอด

แม้ไร้ซึ่งกระบี่ หลื่นลี้ร้อยปี สามารถสังหาร

สุดยอดซามูไร คือทิ้งใจทิ้งกระบี่              :ศิษย์โง่อยากเรียนเซ็น 

 

หมายเลขบันทึก: 90550เขียนเมื่อ 16 เมษายน 2007 07:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (66)

 เนื่องจากกำลังสนทนากับอาจารย์มัท อย่างได้อรรถรสและสาระประโยชน์ จึงต้องมาเขียนเรื่องนี้ใหม่

จุดประสงค์หลักของการเขียนบทความนี้ 

  • ต้องการติเพื่อก่อ
  • อยากให้ทุกวัดใช้ความพอเพียงเกี่ยวกับการสร้างวัตถุ
  • การโลภในบุญ  เช่นกรณีจตุคาม และแข่งกันสร้างวัตถุใหญ่ๆ คือบาปที่ละเอียดขึ้น
  • อยากให้ใช้เงินทำบุญของผู้ศรัทธา สร้างคนพัฒนาคนมากกว่าพัฒนาวัตถุ 

เรื่องที่กำลังสนทนา

  • การใช้คุณธรรมสากล เกี่ยวกับเรื่อง ความรัก  และ  Peace
  • ความหมายของเรื่อง oneness

 

มาแว้วววววว แต่พี่ไม่ได้ save comment ไว้หน่ะสิ -_-'

เสียดายจัง 

ครับผม น่าเสียดายครับ.... เพราะเรากำลังติเพื่อก่อ ถกกันเพื่อการออกกำลังสมอง ^^

จำได้ว่าประเด็นสำคัญที่เรากำลังถกกันอยู่ อยู่ที่

  • การใช้คุณธรรมสากล เกี่ยวกับเรื่อง ความรัก  และ  Peace
  • การใช้คำว่าพุทธ ระดับนโยบายหรือในรัฐธรรมนูญ

มีการวกกันออกนอกเรื่องบ้างพอประปราย หยิกแกมหยอกกันเล็กน้อย ^^ เข้าประเด็นกันดีกว่าครับ

1.เนื้อหาเขียนสนับสนุนการใช้คำว่าพุทธในรัฐธรรมนูญ และผลการวิจัยบอกว่า

ประเทศที่ใช้หลักคุณธรรมสากล แทนศีลธรรมจริยธรรมศาสนา จะมีแนวโน้มที่คนในชาติไม่มีศาสนามากขึ้น พร้อมทั้งเกิดลัทธิใหม่ๆ

แต่ตัวผมเองกลับบอกว่า

Real Love Are not for Love Somebody,It for Everybody & Nobody.

และ  Real Battles Are Within ซึ่ง Love และ Peace ต่างก็เป็นคุณธรรมสากล จึงเป็นอะไรที่ขัดแย้งในตัวเอง

มหาตมะ คานธี
  • Peace = Love & Light 
  • มหาตมะ คานธี เกิดในครอบครัวฮินดู ต่อสู้กับความอยุติธรรมด้วยอหิงสาธรรม กว่า 100 กระแส Peace จึงกระจายไปทุกมุมโลก ตามประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกข้อหนึ่งก็คือ มุสลิมที่แยกไปจากอินเดีย ก็คือปากีสถาน....

คุณธรรมข้อหนึ่งที่คานธีใช้ก็คือขันติ คุณธรรมนั้นจึงเป็นสากลจริง Peace และ Love ในศาสนาอื่นก็มีเช่นกัน แต่ไม่ใช่คุณธรรมสากลจริงไม่เพราะถ้าสากลจริงจะต้องไม่มีสงครามศาสนาเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์

ธรรมะของพระพุทธเจ้าเปรียบดังเกลือ จะหยิบเม็ดไหนขึ้นมาชิมก็เค็ม จึงเป็นคุณธรรมที่สากลจริง

คุณธรรมสากลที่ไม่สากลจริง เปรียบดังน้ำทะแล น้ำทะแลที่มองไม่เห็น หาเค็มจริงไม่ น้ำกร่อยริมชายฝั่งก็ไม่เค็ม เมื่อไม่เค็มจริง หรือเค็มไม่ทั่วถึง ปลาจึงเน่า(สงครามศาสนา)

Real Love Are not for Love Somebody,It for Everybody & Nobody.

Real love ในที่นี้คือรักของพระพุทธเจ้า ที่ทรงเมตตาต่อสัตว์โลกที่ทนทุกข์ ดังกับคำที่ว่า เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

2.การใช้คำว่าพุทธ ระดับนโยบายหรือในรัฐธรรมนูญ

คำว่าพุทธ คืออัตลักษณ์ของเราที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อการก้าวเข้าสู่การไร้ตัวตน เราต้องมีหลักให้ยึดก่อนทิ้งหลัก

การว่างโดยไม่ใช่ความว่างจริง

  • มันจะต่างอะไรกับคนเสียสติ ที่หลงคิดไปว่าตนมีสติดีอยู่
  • มันจะต่างอะไรกับคนเมา ที่หลงคิดไปว่าตนยังไม่เมา

คำว่าพุทธคืออัตลักษณ์ของเรา เปรียบดังแถบสีขาวในธงชาติไทย คำถามก็คือหากมีใครสักคนจะลบแถบสีขาวในธงชาติของเราออก เราจะยอมไหม ?

เขารู้ว่า การเผาวัดฉีกพระคัมภีร์ทำไม่ได้แน่นอน แต่สิ่งที่อาจจะทำได้ก็คือ หากสามขาล้มเสียสักขา แผนการต่อไปที่จะล้มขาที่เหลือก็จะล้มได้ง่ายขึ้น

ถ้าเราที่เป็นเมืองพุทธสูญเสียความเป็นพุทธ แล้วจะให้ประเทศไหนลุกขึ้นมาสู้แทนเรา ความเป็นพุทธไม่ใช่เพียงสันติภาพของประเทศเท่านั้น ยังเป็นสันติของโลกใบนี้อีกด้วย

We Fight For Protector,  With Peace For Peace 

  • พี่เขียน comment กลับไปตอนนั้นว่า เราควรหวง "ความเป็นไทย" หรือ "ความเป็นพุทธ"
  • สำหรับพี่  "ความเป็นพุทธ" เป็น subset ของ อัตลักษณ์"ความเป็นไทย"เท่านั้น
  • พี่จำได้ว่าพี่ถามไปว่า เราต้องการโลกที่สงบสุข โลกที่ไม่ถูกทำร้ายโดยมนุษย์ โลกที่จะมีให้ลูกหลานเหลนโหลนเราอยู่ หรือ เราต้องการ พุทธแท้?
  • พี่ต้องการส่วนแรก ถึงแม้พี่จะเชื่อเต็มใจว่าพุทธรรมจะช่วยชาวโลกได
  • พี่เห็นด้วยกับน้องทุกอย่างเรื่องพุทธเทียม การเน้นวัตถุ ว่าไม่ควรสนับสนุน
  • แต่พี่ไม่เห็นด้วยว่าเราจะเปลี่ยนให้ทุกคนในโลกมานับถือศาสนาพุทธได้
  • การที่เราหวงอัตลักษณ์ความเป็นพุทธในนโยบายที่เป็นตัวอักษรนั้น อาจมีโทษมากกว่าประโยชน์ ถึงแม้เราจะหวังดี
  • คนไทยไม่ได้มีแค่ ชาวพุทธ  ไม่ได้มีแค่ชาติพันธุ์ไทด้วย 
  • พี่ไม่อยากให้ใครเอาสีขาวของธงชาติเราไ แต่พี่อยากให้ "นิยาม" ของธงสีขาวมันกว้างขึ้น  อยากให้มันแปลว่า "เกลือ" นั่นคือ คุณธรรมแท้ ที่เข้าถึงได้จากหลายศาสนา ถ้าเข้าถึง "แกน" ของแต่ละศาสนาได้
  • พี่จำได้ว่าตอนก่อนblogเก่าโดนลบ พี่สรุปว่า เราพูดถึง คุณธรรมสากล กันคนละเรื่องเดียวกัน
  • คุณธรรมสากล ของพี่ ก็คือ เกลือนี่แหละ แต่เข้าถึงได้จากหลายวิธี
  • เช่น ไม่ต้องมีศาสนาก็ได้ แต่รักธรรมชาติให้มาก อย่างพวก ecologist หลายๆคน ที่เห็น ความเกี่ยวข้องกันของสรรพสิ่ง เข้าใจความรัก ความเมตตา ต้องมีสติอยู่กับปัจจุบัน
  • การที่ศาสนาอื่นมีสงครามนั้น เป็นเพราะเค้าเชื่อศาสนาไง เชื่อคัมภีร์ เชื่อคนที่เขียนมันขึ้น ไม่ได้เชื่อ "เกลือ"
  • ถ้าเราเน้นให้เข้าใจ เกลือ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหนก็น่าจะดี
  • ตอนนี้มีคนช่วยกันทำแบบนั้นเพิ่มขึ้นแล้ว
  • high tolerence รับคนอื่นได้มากขึ้น
  • แปลคัมภีร์กว้างๆ ไม่แปลตรงตามอักษร
  • มองให้เห็นความเหมือน มากกว่าความต่าง
  • มีกลุ่ม inter-faith  มีกลุ่ม pantheist มีกลุ่ม secular  ที่เข้าใจว่า "เกลือ" คืออะไร
  • และที่น่าชมชาวพุทธคือ ผู้นำชาวพุทธ เช่น ท่าน ติช นัท ฮัน ท่านดาไล ลามะ ท่านอ.พระฝรั่งสายวัดป่า หลายๆท่าน ก็ไปร่วมเทศน์กับผู้นำศาสนาอื่นบ่อยๆ
  • รักกัน รักกันแบบนี้ พี่ชอบ : )

ปล. คำว่าสากลในที่คือ "universal" ไม่ใช่ "international" นั่นเองค่ะ

 

 

  • ในส่วนตัวแล้วผมหวงความเป็นพุทธมากกว่าความเป็นไทย
  • เช่นเดียวกับที่ วิทยาศาสตร์ เป็นเพียง subset ของธรรมะ (สภาวะความจริงของธรรมชาติ) 
  • ความเป็นไทย ในมุมมองของผม จึงเป็น subset ของ ความเป็นพุทธด้วย
  • เหมือนกับที่ ทิเบต เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน subset ใหญ่ ของ set
  •  ลูกหลานของเราจะยังคงอยู่ เพราะเรากระจายไปทั่วโลกแฉกเช่นชาวจีน แม้ใครจะต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธ์เราก็ตาม (เช่นชาวยิว) ยกเว้นแต่เราจะฆ่ากันเองเกือบหมดโลกเช่นสงครามนิวเคลียร์ เป็นต้น  ความเป็นพุทธจึงไม่ใช่เป็นเพียงสันติภาพของประเทศเท่านั้น ยังเป็นสันติของโลกใบนี้อีกด้วย 
  • ถูกต้องเลยทีเดียวที่เราไม่สามารถเปลี่ยนใครให้มานับถือพุทธได้หมด ความคงอยู่ของพุทธจึงสำคัญ ด้วยเหตุผลนั้น

พุทธในนโยบายที่เป็นตัวอักษรนั้น อาจมีโทษมากกว่าประโยชน์  ตรงนี้ขอความเห็นเพิ่มเติมจากอาจารย์มัทด้วยครับ

ลัทธิชาตินิยมก็มีข้อเสียที่เข้าขั้นอันตรายเลยเช่นกัน (มาจากข้อเขียนเรื่อง ลัทธิชาตินิยม ซึ่งต้องใช้เวลาค้นแหล่งที่มาของงานเขียน มาให้พิจารณาครับ)

  • ถูกต้องเลยทีเดียวคนไทยไม่ได้มีแค่ ชาวพุทธ  ไม่ได้มีแค่ชาติพันธุ์ไทด้วย นั่นก็คือเหตุผลที่สำคัญ ที่เราต้องคงความเป็นพุทธ ไม่งั้นเราจะถูกแยกดินแดนเหมือนที่เกิดขึ้นกับประเทศอินเดีย (ปากีสถาน) หรือหลายๆประเทศที่เขาแยกตัวออกไป และมีแนวโน้มที่ภาคใต้ของเราจะเป็นเช่นนั้นด้วย

เช่น ไม่ต้องมีศาสนาก็ได้ แต่รักธรรมชาติให้มาก อย่างพวก ecologist หลายๆคน ที่เห็น ความเกี่ยวข้องกันของสรรพสิ่ง เข้าใจความรัก ความเมตตา ต้องมีสติอยู่กับปัจจุบัน

  • ไม่ต้องมีศาสนา นั่นถือเป็นศาสนาหนึ่ง เช่นเดียวกับการที่เราคิดว่า อวกาศ คือความว่าง แต่มันหาใช่ความว่างไม่ เพราะมันมี อวกาศ นั่นเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ต้องมีศาสนา การไม่มีแบบนั้น คือรูปแบบของการมีรูปแบบหนึ่ง  ยกเว้นนิพานของศาสนาพุทธ ที่หากใครเข้าถึงก็ไม่อาจอธิบายหรือบอกได้ว่ามันเป็นเช่นไร ยกเว้นแต่เราจะเข้าถึงด้วยตนเองเท่านั้น
  • เกลือ universal ^^
  • สงสัยต้องมี การใส่เกลือวิธีใหม่ เช่นหม้ออัดแรงดันในการช่วยให้เกลือซึมเข้าถึงตัวปลาอย่างทั่วถึงเสียซะแล้วไม่งั้น ปลาเน่าหนอนยั้วเยี้ยกลิ่นเหม็นโฉ่แน่นอน
  • มาคิดหาวิธีใส่เกลือ universal กันเถอะครับ ^^  

ธรรมชาติคนเรา จะรักกันมากขึ้นถ้ามีศัตรูร่วมกัน น่าเศร้าแต่จริง

หรือเราต้องรอให้เอเลี่ยนบุก คนทั้งโลกถึงจะมองออกว่าเรามันก็ชาวโลกเหมือนกัน มีบ้านเดียวกัน บ้านที่พวกเราเองกำลังทำลายลงวันละนิดวันละหน่อย

------------------------------------------------------- 

แมนเขียนว่า

  • ในส่วนตัวแล้วผมหวงความเป็นพุทธมากกว่าความเป็นไทย
  • เช่นเดียวกับที่ วิทยาศาสตร์ เป็นเพียง subset ของธรรมะ (สภาวะความจริงของธรรมชาติ) 
  • ความเป็นไทย ในมุมมองของผม จึงเป็น subset ของ ความเป็นพุทธด้วย

พี่มาคิดดู แมนว่าพี่คิดถูกรึเปล่าว่า พี่มองว่า จริงๆแล้วแมนหวง "ความเข้าใจในธรรมะ" และแมนเชื่อว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาเดียวที่ ี่ทำให้้คนเข้าถึงสภาวะความจริงของธรรมชาติได้

ในประเด็นนี้พี่เห็นด้วยมากๆกับความต้องการที่จะให้คนเราเข้าถึงเกลือ แต่พี่เชื่อว่า มีหลายวิธี ที่เข้าถึงธรรมะได้้ เราสอนหลักพุทธรรมได้โดยที่ไม่ต้องให้คนเปลี่ยนมานับถือ หรือปฏิบัติตามประเพณีพุทธ

-------------------------------------------------------

พี่เข้าใจว่าแมนมีความคิดสูงขึ้นไปอีก แมนห่วงทั้งโลกมากกว่าแค่ความคงอยู่ของคนเชื้อชาติ

(แมนเขียนว่า ลูกหลานของเราจะยังคงอยู่ เพราะเรากระจายไปทั่วโลกแฉกเช่นชาวจีน)

พี่เห็นด้วยมากๆที่เราควรมองว่า ไอ้เราทั้งโลกมันก็พี่น้องกันหมด บรรพบุรุษก็คนเดียวกัน มาจากแอฟริกาเหมือนกัน

เพียงแต่ว่า ถ้าเราไปแบ่งชัดทางนโยบายระดับชาติว่า เมืองไทยคือเมืองพุทธ

คนที่รักเมืองไทย มองว่าตนเองคือคนไทย แต่เค้าเป็น กระเหรี่ยง ม้ง มอญ  จีน แขก หรือแม้แต่ฝรั่ง หล่ะ 

เค้าไม่ใช่คนไท แต่เค้าก็เป็นคนไทย ประเทศไทยคือประเทศที่แสนจะดี ยอมรับให้คนนับถือศาสนาอะไรก็ได้ มีในหลวงที่ทรงงานเพื่อประชาชน มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์

------------------------------------------------------- 

พี่อยากให้เมืองไทยเป็นประเทศตัวอย่างไปเลยด้วยซ้ำ ว่านี่และตัวอย่างของ คำว่า torerance

ไหนๆคนไทยก็ชอบพูดว่า "อะไรก็ได้" "หยวนๆ" "ก็มันเรื่องของเค้า" "ไม่เป็นไร" "ปล่อยไป" หรือมีอะไรก็ยิ้มสู้ คิดอะไรไม่ออกก็ยิ้มไว้ก่อน หัวเราะได้กับความผิดพลาด 

ถึงแนวความคิดแบบนี้จะมีโทษในบางครั้ง แต่มันก็เป็นนิสัยคนไทยจริงๆ ที่เราควรมาช่วยกันทำให้ถูกใช้ไปในทางที่ดีมีประโยชน์ 

(เคยคิดว่าเราเป็นกันแบบนั้น เพราะศาสนาพุทธนี่แหละ แล้วที่ผ่านมาบ้านเมืองก็ค่อนข้างสงบ ผู้คนไม่ต้องลำบากมากมาย) 

แต่วันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว  การหวงศาสนาใดศาสนาหนึ่งว่าเป็นอัตลักษณ์ของประเทศ อาจเป็นโทษให้เกิดความแตกแยกได้

------------------------------------------------------- 

กรณี อินเดีย และ ปากีสถานนั้น เค้าก็อยู่กันมาได้ จนกระทั่ง อังกฤษมา colonize แล้วก็มาแบ่งผลประโยชน์ต่างกัน ประจวบกับผู้นำทางการเมืองเคร่งศาสนา นำศาสนามารวมกับการเมือง เรื่องก็ยิ่งแรงขึ้น

อย่างอเมริกาสมัยบุชที่พยายามเอาศาสนาศริสต์กับ การเมืองมารวมกันนั้น (church-state) พี่ว่ามันแย่มากๆ

-------------------------------------------------------

พี่คิดว่าเราควรสนับสนุนให้ใครนับถือศาสนาอะไรก็ได้ โดยที่ไม่มีปัจจัยจากทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง รัฐบาลควรอยู่ตรงกลาง

ส่วนหน้าที่ที่จะส่งเสริมการเข้าถึง สภาวะความจริงของธรรมชาติผ่านพุทธศาสนานั้น ควรเป็นหน้าที่ี่ของคนอื่น ใครก็ได้ที่ไม่ใช่รัฐบาล 

สิ่งที่รัฐทำได้ให้ส่วนขาวของธงชาติยังอยู่คือ การขยายความของธงชาติ =  เสรีภาพในการนับถือศาสนา ในขณะเดียวกันก็ ็ส่งเสริมให้แต่ละศาสนาเข้าถึง เกลือ ของแต่ละศาสนามากกว่าที่จะบอกว่า พุทธเท่านั้น พุทธดีที่สุด หาวิธีใส่เกลือ (คุณธรรมสากล= universal moral principle) แบบที่น้องแมนว่านั่นแหละ - เอ...แปลว่าน้องก็เห็นด้วยกับพี่ระดับหนึ่ง!

ถ้าประเทศไทยทำได้ ประเทศอื่นก็จะเห็นเป็นตัวอย่าง

-------------------------------------------------------

ปัญหาทางใต้นั้น ซับซ้อนเกินกว่าที่พี่จะปกธงยืนยันว่าพี่เข้าใจได้ แต่พี่คิดว่า มันไม่ใช่แค่คนไทยด้วยกันที่เคยอยู่ร่วมกันได้มาทะเลาะ กันเองแค่นั้น มันมีอะไรมากว่านั้นที่พี่ก็ไม่รู้ว่าจะแก้กันอย่างไร

พี่ทำได้แค่ยอมรับความแตกต่าง ไม่โกรธ หรือ พยายามล้างแค้น 

-------------------------------------------------------

พี่เชื่อว่าศาสนาพุทธไม่หมดไปจากเมืองไทยหรอก แต่มันอาจจะแปรรูปไปเป็นศาสนาเกลือซักวัน ศาสนาเกลือที่ท่านพุทธทาสเคยกล่าวถึงเป็น ปณิธาน ฝากไว้กับคนรุ้นหลังว่า

  1. ให้เข้าถึงหัวใจของศาสนาของตน ซึ่งนำไปสู่ความไม่เห็นแก่ตัวทุกระดับ ซึ่งเป็นจุดหมายของทุกศาสนา
  2. ให้ทำความเข้าใจระหว่างศาสนา โลกเรายังต้องมีหลายศาสนา ต้องทำความเข้าใจเพื่อร่วมมือกัน ทำการช่วยมนุษยชาติ อย่าเปรียบเทียบเพื่อหาความแตกแยก ถึงยุคหนึ่งจะมีเพียงศาสนาเดียว
  3. ให้ออกมาเสียจากอำนาจวัตถุนิยม วัตถุนิยมเป็นความรู้ที่ขาดสติปัญญา เป็นทาสหูจมูกลิ้นกาย ให้วัตถุเพียงแต่รับใช้จิต ให้จิตอยู่เหนืออำนาจสิ่งใดๆ ความสุขที่แท้จริงอยู่เหนือวัตถุ

สำเร็จเมื่อใด โลกก็เป็นนครอมตมหานิพพาน

[อ้างอิงจาก: พุทธทาส ลิขิตข้อธรรม "บันทึก นึกได้เอง" ว่าด้วย ชีวิต สังคม การเมือง สันติภาพ และ หลักคิดสำคัญๆ ISBN 974-92189-0-6] 

------------------------------------------------------- 

จบแล้ว โอ้วเหนื่อย

มา เรามาหาวิธีทำให้ปณิธานท่านพุทธทาสกลายเป็นความจริงกัน ไม่ได้หมด แต่เอาเป็นจุดมุ่งหมายในอุดมคติก็ยังดี 

 

   

 

 

 

เมื่อมีกระจกอยู่ตรงหน้า
ใครส่องดูก็ย่อมเห็นเป็นคนนั้น
ถ้าไม่แยกแยะให้ชัดเจนแต่แรก
ก็มักเกิดอคติได้เสมอ

เมื่อไม่มีกระจกแล้ว  ท่านก็ไม่สามารถมองเห็นตัวท่านเองหรือ

story 13


Play

ใช้สยามแทน ไทย เปลี่ยนชุดใหม่ให้ดูดี

เนื้อตัวเหม็น คาวโลกี เปลี่ยนกี่ทีก็ยังเหม็น

ขวดเก่าแต่ เหล้าใหม่ ช่างปะไรเมาช่างมัน

แขกฝรั่งคงขำขัน คงงงกัน มันเป็นอะไรดี

 

ไม่มีพุทธบนกระดาษ ไม่มีธงชาติแถบสีขาว

ไม่สมานฉันท์ เรื่องมันยาว จะเป็นขาวหรือดำดี

ภาพเสรีเท่าเทียมกัน กระดาษนั้น น่าฉงน

90ที่ปะปน มันชอบกล สิบคนเปลี่ยน

 

สิ่งที่เราน่าจะหวงคือ "ความเป็นไทย" หรือ "ความเป็นพุทธ" แต่ทำไมยังอยากเปลี่ยนเป็นสยาม เขาต้องการให้คนมีความรักชาติไม่แบ่งแยกความเป็นไท หรือกำลังทำให้ความเป็นไทยที่มีกว่าช่วงอายุคน 2482-ปัจจุบัน สูญหายกันแน่ ที่มีอยู่แล้วไม่ดีและร้ายแรงจนทำให้แตกแยก ฆ่าล้างเผ่าพันธ์กันหรือ?

ถ้าเปลี่ยนเป็นสยามแล้วจะรักกันจนเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหรือ?  โจรใต้จะหยุดก่อความไม่สงบหรือ?  

  • ถ้าเราไปแบ่งชัดทางนโยบายระดับชาติว่า เมืองไทยคือเมืองพุทธ คนที่รักเมืองไทย มองว่าตนเองคือคนไทย แต่เค้าเป็น กระเหรี่ยง ม้ง มอญ  จีน แขก หรือแม้แต่ฝรั่งหล่ะ เราเคยไปดูถูกหรือเหยียดหยามเขา เนื่องจากเราเป็นพุทธหรือ?  ลัทธิชาตินิยมและการเหยียดเชื้อชาติหรือสีผิว รวมถึงฐานะ ของคนต่างหาก (เหมือนที่เจ้านายตบตีคนใช้ในละครน้ำเน่าไม่มีผิด) เราเคยเห็นพระหรือคนที่มีความเป็นพุทธในจิตวิญญาณไปกระทำเยี่ยงนั้นหรือ
  • กรณี อินเดีย และ ปากีสถานนั้น เค้าก็อยู่กันมาได้ จนกระทั่ง อังกฤษมา colonize แล้วก็มาแบ่งผลประโยชน์ต่างกัน ประจวบกับผู้นำทางการเมืองเคร่งศาสนา นำศาสนามารวมกับการเมือง เรื่องก็ยิ่งแรงขึ้น คลั่งศาสนาอะไร? ถ้าคลั่งพุทธมันจะไม่ยิ่งทำให้สันติหรือ

  • ติช นัท ฮัน ท่านดาไล ลามะ เป็นพุทธ ทั้งจิตวิญญาณ แล้วดีไหม? 

  • ผู้นำประเทศ นักการเมืองอวุโสที่เป็นพุทธทั้งกายใจ ในประอดีตมีท่านไหนไม่ดีหรือ

  • แต่วันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ในเมื่อเราเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย หากเราไม่เขียนคำว่าพุทธไว้ในกระดาษแผ่นนั้น แล้วจะให้เราไปเขียนไว้ข้างฝาบ้านหรือ?

  • หากอ้างประชาธิปไตยสิทธเสรีภาพความเท่าเทียมกัน ทำไมไม่ถามคนไทย ไม่ถามพระ ไม่ถามเจ้าของประเทศละ เท่าเทียมหรือมีเสรีภาพจริงหรือ

  • แปลกใจไหม ที่นักการเมืองสมัยนี้จึงหาคนที่จะคลั่งพุทธ หรือเป็นพุทธทั้งจิตวิญาณนั้นหายากเต็มที  ถ้าเขียนคำว่าพุทธไว้ในใจทุกคนได้ก็คงจะดี

  •  อย่างอเมริกาสมัยบุชที่พยายามเอาศาสนาศริสต์กับ การเมืองมารวมกันนั้น (church-state) พี่ว่ามันแย่มากๆ  ฆ่าคนได้โดยไม่บาปมันจะไม่แย่ได้อย่างไร และพุทธคงจะไม่ไป convert ใครหรือทำให้เป็นประเทศพุทธ100% แน่นอน

  • การหวงศาสนาใดศาสนาหนึ่งว่าเป็นอัตลักษณ์ของประเทศ  อาจเป็นโทษให้เกิดความแตกแยกได้ มันจะร้ายแรงถึงขนาดฆ่าล้างเผ่าพันธ์เพราะเป็นพุทธหรือ หรือว่าความเป็นพุทธก่อให้เกิดปัญหาภาคใต้งั้นหรือ ยกตัวอย่างให้เห็นได้ไหม ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ่าง ทั้งๆที่ตลอดระยะเวลา ที่มีคำว่าพุทธในรัฐธรรมนูญนั้นก่อให้เกิดความแตกแยกร้ายแรงขึ้นไหม

  • การไม่เขียนไว้ในนโยบายแล้วจะทำให้เข้าถึงเกลือกันทุกคนงั้นหรือ สิ่งที่รัฐทำได้ให้ส่วนขาวของธงชาติยังอยู่คือ การขยายความของธงชาติ =  เสรีภาพในการนับถือศาสนา ปัจจุบันเราไม่มีเสรีภาพงั้นหรือ?  แล้วศาสนาพุทธไม่ดีที่สุดงั้นหรือ สันติที่ยาวนานถึง2550ปีของศาสนาพุทธมิได้พิสูจน์ว่าดีที่สุดหรือ เมื่อความจริงเป็นเช่นนั้น เราจึงไม่ต้องเขียนในกระดาษว่าดีที่สุด เราเพียงเขียนว่าเป็นศาสนาประจำชาติ เพื่อความคงอยู่ของสิ่งที่ดีที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องอวดอ้างแต่อย่างใด ดีมันพิสูจน์ตัวของมันเอง

  • ความสงบสุขสันติ ที่ผ่านมาก่อนการก่อความไม่สงบ ไม่ได้พิสูจน์ให้ประเทศอื่นเห็นหรือ?

  •  คุณธรรมสากล ที่ ท่าน ติช นัท ฮัน ท่านดาไล ลามะ  นำเกลือสีเหลือง,เกลือสินเธาไปให้ มันไม่ได้พิสูจน์ว่าเค็มจริงหรือ ?

  • พี่เชื่อว่าศาสนาพุทธไม่หมดไปจากเมืองไทยหรอก แต่มันอาจจะแปรรูปไปเป็นศาสนาเกลือซักวัน ศาสนาเกลือที่ท่านพุทธทาสเคยกล่าวถึง เกลือไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นเกลือ แค่ปรับวิธีการใส่เกลือต่างหาก

  • กระบี่อยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่กระบี่

    ใช้กระบี่โดยไร้ใจ คือการสังหารตนเอง

    หลอมกระบี่เป็นหนึ่งเดียวกับใจ ซามูไรตาบอด

    แม้ไร้ซึ่งกระบี่ หลื่นลี้ร้อยปี สามารถสังหาร

    สุดยอดซามูไร คือทิ้งใจทิ้งกระบี่ 

  • ทิ้งกระบี่ หรือปล่อยให้กระบี่สนิมเขรอะ ก่อนการหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับใจ มันจะไปสังหารมารที่ไหนได้ สังหารตนเองเสียมากกว่า 

  • การไม่มีอักษรระบุบนกระดาษ เป็นสัญญาณของสนิมบาดทะยัก ที่นับวันจะกินจนไร้คมเข้าไปทุกที    

 Siam not Thailand

มา เรามาหาวิธีทำให้ปณิธานท่านพุทธทาสกลายเป็นความจริงกัน ไม่ได้หมด แต่เอาเป็นจุดมุ่งหมายในอุดมคติก็ยังดี 

แม้ท้ายที่สุด ด้วยกำลังอันน้อยนิดของเรา ผลจะออกมาเช่นไร จะหยุดหรือยับยั้งสนิมบาดทะยักได้หรือไม่ แต่อย่างน้อย นักดาบฝึกหัดขี้โรคขอเอากระบี่สนิมเขรอะออกไปฟันอากาศสักฉับ สองฉับ

วิธีการใส่เกลือที่ซึมเข้าตัวปลาได้ดีสุดนั้น  นอกจากเกลือ universal moral principle แล้ว ยังมี Zen อีกด้วย อย่างเช่นภาพยนต์ the matrix ที่ผสมผสานzen พุทธปรัชญาและความเชื่อแบบคริสต์  วิทยาศาสตร์ QuantumPhysic, Zionism และเทคโนโลยี ฯลฯ.ได้อย่างลงตัว

the matix ได้ก่อให้เกิดกระแส weak up ได้เป็นวงกว้าง อย่างน้อยสุดก็เป็นภาพยนต์ที่คนดูแล้วไม่เข้าใจ ที่ทำรายได้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง และสะกิดใจคนให้คิดมากขึ้นได้บ้าง   

ZenZaa catoon Story 21


Play

 All book same as black & white

ZenZaa catoon story 36


Play
มีดวงตาอยู่รอบทิศแต่มองไม่เห็น
มีหูอยู่รอบตัวแต่ฟังไม่ถนัด
มีปากอยู่รอบกายแต่พูดไม่ชัด
มีใจอยู่มากมายแต่ไม่อาจแยกแยะ
  • คิดเหมือนกันเลยเรื่องเอเลี่ยนบุกโลก ^^
  • ถ้ามีอะไรหรือสิ่งใด มีศักยภาพการคิดเทียบเท่ากับมนุษย์ คงจะขยะเขยงมนุษย์น่าดู ที่เป็นเหมือนหนอนคอยพ่นควันพิษใส่โลก
  • ถ้ามีอะไรหรือสิ่งใด มีศักยภาพเหนือมนุษย์ คงจะมองดูด้วยความเวทนา คงจะตัดสินใจว่าควรกำจัดหนอนเน่าๆของโลกให้สิ้นซาก หรือฉุดให้พ้นสภาพของหนอนน่ารังเกียจดี
  • แล้วเราจะหาวิธีใส่เกลืออย่างไรดีละ ในเมื่ออำนาจสื่อที่มีพลังไปตกอยู่ในมือของแมลงวัน 

มาร่วมแจมแม้ไม่ได้วาดหวัง...มากเท่าคุณ Man In Flame หรืออาจารย์มัทที่คุยกันในระดับ universal "โลกเปี่ยมด้วยความรัก ความเมตตาแห่งธรรมในพุทธดำรัส" แต่สิ่งหนึ่งที่กะปุ๋มทำและไม่หยุดทำ "ด้วยกำลังอันน้อยนิดของเรา " (สำนวนคุณMan - Devil) คือ การได้มีโอกาสช่วยให้ทุกคนพบและรู้จัก "ความทุกข์" และหนทางแห่งการพ้นทุกข์ โดยที่บุคคลนั้นไม่จำเป็นต้องมาเรียนรู้ศาสนามาก แต่ให้เห็นหนทางดั่งเช่นที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านชี้ทางให้แก่พวกเรา เมื่อคนเราเห็นหนทางนั้นแล้ว ก็จะเดินเข้ามาสู่ร่มกาสาวพักตร์นี้ตาม "จิต" ที่เกิดความละเอียดแปรเปลี่ยนมองเห็น "ธรรมะ" มากขึ้น

ขอบคุณทั้งอาจารย์มัทและคุณMan In Flame นะคะ...

(^___^)

กะปุ๋ม

  1. เปลี่ยนชื่อไทยเป็นสยามหรือไม่ ไม่สำคัญสำหรับพี่ ผลที่ตามมาไม่มีอะไรร้ายแรง (คนโดยทั่วไปแทบไม่รู้ว่า ที่เปลี่ยนจาก สยามเป็นไทยนั้นเปลี่ยนเพราะอะไร) ความเป็นไทยของแต่ละคนที่มีอยู่ในใจอยู่แล้วนั้น  พี่เชื่อเองว่าไม่ต่างจากคำว่าสยามที่เค้าเสนอให้ใช้กัน(อีกรอบ)

------------------------------------------------------

     2. แต่ในสถานการณ์ที่คล้ายๆกัน ถ้าเราระบุในรัฐธรรมนูญว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ผลที่ตามมาอาจร้ายแรง อาจมีคนเอาไปอ้างเพื่อทำให้คนแตกแยกได้

"ความเป็นพุทธก่อให้เกิดปัญหาภาคใต้งั้นหรือ"

-  เหตุการณ์ไม่ได้เริ่มที่ปัญหาทางศาสนา  แต่ถ้าเราไม่ละเอียดอ่อนกับสถานการณ์แล้วหล่ะก็ คนที่ไม่หวังดีจะเอามาเป็น"ข้ออ้าง"ได้

"ยกตัวอย่างให้เห็นได้ไหม ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งๆที่ตลอดระยะเวลา ที่มีคำว่าพุทธในรัฐธรรมนูญนั้นก่อให้เกิดความแตกแยกร้ายแรงขึ้นไหม"

- อย่าลืมว่าไม่มีอะไรยั่งยืน ทุกอย่างเปลี่ยนไปตลอด เราจะมาใช้วิธีเดิมๆ เมื่อมีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาไม่ได้เสมอไป

"เราเพียงเขียนว่าเป็นศาสนาประจำชาติ เพื่อความคงอยู่ของสิ่งที่ดีที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องอวดอ้างแต่อย่างใด ดีมันพิสูจน์ตัวของมันเอง"

- ใช่แล้ว พี่เห็นว่าของดีมันพิสูจน์ตัวเอง ไม่เขียนว่าเป็นศาสนาประจำชาติมันก็ยังอยู่ ไม่ใช่หรือ? 

------------------------------------------------------ 

      3. พี่เห็นด้วยกับ ดร.ไสว ที่เขียนไว้ในบันทึกคุณ  จารุวัจน์ นะว่าเราต้องคิดดีๆว่า 

"ใส่เข้าไปทำไม?  อะไรจะตามมา?"

ผมเองมีความคิดว่า  "รัฐธรรมนูญ" เป็นกฎหมาย  กำหนด "การกระทำ"ของคนในชาติ ถ้า"ไม่กระทำ"ตามนั้นก็จะมีบทลงโทษ  ในขณะเดียวกันมันก็ยังมีถานะเป็น "ปทัสถาน" หรือ Norm ของการกระทำของคนในชาติด้วย

ส่วนศาสนานั้นมีเป้าหมายเพื่อ "ให้คนพ้นทุกข์  และไปพบความสุข"  เป็นสำคัญ  ทุกศาสนาครับ  มีข้อกำหนดให้กระทำหรือปฏิบัติมากมาย  แต่ละข้อล้วนแต่ต้องการให้"พ้นทุกข์ไปสู่สุข" ทั้งสิ้น ใครไม่ทำตามก็ไม่ถูกจับขังคุก ------------------------------------------------------ 

สรุป:

  • น้องเห็นว่าใส่ไปในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พุทธคงอยู่ ไม่โดนกลืน  ถึงใส่ไปศาสนาอื่นก็ยังคงมีเสรีภาพอยู่ ไม่ได้บังคับให้นับถือพุทธ แต่ถ้าไม่ใส่ พุทธอาจโดนกลืน?
  • พี่เห็นว่า พี่ต้องการความสมานฉันท์มากกว่า เพราะสถานการณ์ตอนนี้อาจมีคนจ้องเอามาอ้างให้แตกแยก ถ้าใส่ไปให้ชัดเลยว่าให้ประชาชนมีสิทธ์ตัดสินใจเอง (ตัวอย่าง: แคนาดาไม่มี official religion แต่ในรัฐธรรมนูญกล่าวถึงศาสนาไว้ในส่วนของ สิทธิและเสรีภาพพื้นฐาน) พี่เชื่อว่าศาสนาพุทธยังอยู่แน่นอน ถ้ามันจะหายไป เสื่อมไปก็เพราะชาวพุทธด้วยกันเองที่เลื่อมใส่วัตถุมากกว่า (ซึ่งตรงนี้ เราเห็นตรงกัน)
  • สรุปอีกที เราไม่ต้องเห็นตรงกันไปซะหมดนะ สรุปตรงนี้แล้ว ว่า เรา agree to disagree ในประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญ : ) ตกลงไม๊?
  • เดี๋ยวมีอีกประเด็นแยกไปที่ต้องสรุป รอแป๊บ เดี๋ยวมา

1.ในสภาวะที่ล่อแหลม คนส่วนใหญ่ในยุคข้อมูลข่าวสารจะรู้ว่าเปลี่ยนทำไม ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยก็จะวุ่นวาย หรืออีกนัยหนึ่งรัฐต้องสื่อสารออกไปให้มวลชนทราบว่ามีเหตุอันใดที่สมควร (ควบคุมมวลชน)  และต้องถามคนไทส่วนใหญ่ว่าเห็นด้วยหรือไม่

2.เรากลัวข้ออ้าง ที่ไม่จริงไปทำไม ขึ้นว่า"ข้ออ้าง" ความหมายก็เป็นไปในมุมข้างๆคูๆอยู่แล้ว เราต้องกลัวสิ่งเท็จด้วยหรือ เราต้องกลัวอำนาจมืดด้วยหรือ  หน้าที่ของเราไม่ใช่การต่อสู้กับความมืดหรือ ไม่ต่อสู้เราก็จะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของความมืดนั้น การเอาข้ออ้าง ของผู้ไม่หวังดีมาอ้างเพื่อทำตามสิ่งที่ตนต้องการไม่ใช่ทางแก้ปัญหา

อย่าลืมว่าไม่มีอะไรยั่งยืน ทุกอย่างเปลี่ยนไปตลอด มันเกิดจากการตั้งใจให้เกิด ตามธรรมชาติข้อหนึ่งของน้ำที่ไหลลงที่ต่ำ การเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เลวร้ายลงเป็นสิ่งที่เราต้องการหรือ ตัวอย่างเช่นแฟชั่นนุ่งสั้น สายเดี่ยว นั้นเปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือ มันเปลี่ยนจนปัจุบันเราเห็นเป็นปกติ ต้องไม่ปกติชนิดที่ไม่ใส่ชุดชั้นในไปงานสังคมจนต้องลงหน้าหนังสือพิมพ์ใช่ไหม เราจึงสะดุ้งขึ้นมาสักครั้งแล้วจึงได้สติพอที่จะเรียกมันว่าผิดปกติ    

พี่เห็นว่าของดีมันพิสูจน์ตัวเอง ไม่เขียนว่าเป็นศาสนาประจำชาติมันก็ยังอยู่ ไม่ใช่หรือ? ไม่เขียนในกระดาษดีมันก็พิสูจน์ตัวมันเอง แต่ไม่ดีก็จะพิสูจน์ตัวมันเองเช่นกัน  เนื่องจากไม่ดีมีอำนาจ มีเงิน มีพรรคพวก คุณธรรมศีลธรรมมันต่ำลงจน ไม่ดีนั้นพิสูจน์ด้วยการไปอยู่ในการโกงกินคอรัปชั่นระดับบ้านเมืองอย่างเด่นชัดกว่า แล้วคิดว่าดีจะมีกำลังพิสูจน์ตัวมันเองมากพอหรือถ้าไปเขียน"ดี"อยู่ที่ข้างฝาบ้าน  ดีมันจะอยู่ยาก

3.เป็นคำถามที่ต้องช่วยกันคิด ใส่เข้าไปทำไม ใสหรือไม่ใส่แล้วอะไรจะตามมา

ศาสนาไม่ได้จับใครเข้าคุกเมื่อกระทำผิด เราจึงเห็นสังคมกระทำผิดได้เด่นชัดในปัญหาบ้านเมือง และนักการเมือง ถ้าไม่ใช้"ปทัสถาน" หรือ Norm ของการกระทำของคนในชาติด้วย แล้วศาสนาอย่างเดียวจะเอาไม่อยู่ ขนาดมีอยู่ใน Norm แล้วยังเอาไม่อยู่เลย (เห็นๆสิ่งที่เกิดขึ้นกันอยู่) นี่จะตัด Norm ที่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าดีที่สุดออก(ดีโดยไม่ต้องอวด) แล้วมันจะไม่มีอะไรตามมาหรือ?  

สรุป

  • ใส่ตัวตน เพื่อการคงอยู่ การกลืนนั้นมันเกิดขึ้นทุกเวลาจากการเสื่อมคุณธรรมศีลธรรมและวัตถุนิยม   มิได้กลืนด้วยลัทธิศาสนา เราก็โดนกลืนโดยไม่รู้ตัวอยู่แล้ว น้ำมันค่อยๆร้อนจนกบไม่รู้ตัว ถ้ามีการกลืนด้วยลัทธิศาสนาสิ เราจะได้สะดุ้งร้อนกัน(การกลืนแบบนั้นมันเกิดมาตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามเวียดนามแล้ว ซึ่งปัจจุบันมันกลืนไม่ได้) จึงต้องกลืนด้วยวิธีอื่นเช่น New World order เป็นต้น กลืนไม่ให้เห็น กลืนไม่ให้รู้สึก หากรู้สึกจะโดนต่อต้าน 
  • ชาวพุทธส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะไม่ระบุ แต่ให้ระบุพร้อมสิทธิของศาสนาอื่นให้ชัดเจนลงไปด้วย (จากโพลสำรวจ) 

ท่านเห็นอย่างไรกับการให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
สมควรต้องระบุในรัฐธรรมนูญอย่างยิ่งในขณะเดียวกันก็ต้องมีส่วนที่บัญญัติเพื่อให้ความเป็นธรรมกับศาสนาอื่นๆ [ 108 ]  [63.16%]
ไม่จำเป็นต้องระบุก็ได้แต่ต้องแก้พระราชบัญญัติสงฆ์เพื่อให้ในหลวงมีพระราชอำนาจแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช [ 15 ]  [8.77%]
ไม่ควรระบุอะไรเลยที่เกี่ยวศาสนาเพื่อให้รัฐกับศาสนาแยกออกจากกัน คงไว้แต่ในหลวงทรงเป็นพุทธมามกะก็พอ [ 25 ]  [14.62%]
ยังไงก็ได้เพราะศาสนาเสื่อมหรือไม่อยู่ที่การนำหลักธรรมไปปฏิบัติ รัฐธรรมนูญเป็นอนิจจังเดี๋ยวก็โดนฉีกอีก [ 21 ]  [12.28%]
ควรระบุ แต่ต้องระบุแบบอ้อมๆ แบบว่าเกรงใจศาสนาอื่นๆ [ 2 ]  [1.17%]
โหวตทั้งหมด: 171
ที่มา larndham


“มหากาฬ พาลยักษ์ รักมิตร สินทธรรม จำแขนขาด ราษฎร์จน ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาววิไล”

เราจะเห็น ถิ่นกาขาว จะชัดเจนขึ้น

 

เหมือนเคยหาบันทึกนี้ค่ะ แสดงว่าน้องลบไปใช่ไหมค่ะ  แต่ไม่เป็นไรค่ะ คนเราควรเลือกจำค่ะ โดยเฉพาะแต่สิ่งที่ดี ๆ ของคนอื่น ขอบคุณที่นำบันทึกนี้กลับมาค่ะ
 การปรับกลยุทธ์ทำลายพระพุทธศาสนาแบบใหม่

ประเทศมหาอำนาจ เมื่อพ่ายแพ้สงครามเวียตนาม ได้มีการวิเคราะห์บทบาทความผิดพลาดในยุทธศาสตร์การรบใหม่ได้ผลสรุปว่า "การยึดครองที่ถาวรต้องยึดครองพื้นที่ ทาง สมองให้ได้" จึงได้ทุ่มทุนค้นคว้าหาวิธีการ ซึ่งเป็นโครงการลับเฉพาะ อันจะทำให้ประเทศอเมริกาเป็นมหาอำนาจเพียงชาติเดียว และหนึ่งในนั้นก็คือ โครงการ "เปลี่ยนสภาพสังคม มนุษย์ใหม"่(Change Human Mankind Project).

อันเป็นต้นแบบที่มาของนโยบาย ONE WORLD ORDER นั่นเอง โครงการนี้เน้นหนักในการสื่อสารระหว่างมนุษย์ทุกชนิดที่ มีผลต่อการสั่งการของสมอง โดยเฉพาะเรื่อง "สมาธิจิต" และคลื่นความถี่ในระดับต่างๆ ที่สามารถสั่งการหรือควบคุมมนุษย์ได้ทั้งโดยการดู ฟัง หรือการสร้างภาพให้เกิดจินตนาการตามคลื่นที่สั่งนั้น โครงการดังกล่าว ได้ถูกใช้อย่างได้ผล ในประเทศอาเจนติน่า บราซิล โคลัมเบีย และประเทศในแถบแอฟริกา การขยายผล และยึดครอง จึงกระจายไปทั่วโลก และในที่สุด ก็ถูกนำมาใช้ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มที่ ประเทศไทยเป็นหลักในปี พ.ศ.๒๕๒๕

อนึ่ง จากการวิเคราะห์สถานการณ์บทเรียนในเวียตนาม ทำให้ได้ทราบเป็นอย่างดีว่า ไม่สามารถล้มล้างสถาบันพระพุทธศาสนาได้ง่าย หากพุทธศาสนิกชน ยังมีความศรัทธาใน พระสงฆ์ และองค์กรคณะสงฆ์ยังรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นงานหลักจะต้องทำลายศรัทธาของประชาชนที่นับถือพระพุทธศาสนา โดยสร้างความเชื่อใหม่ สลายศรัทธาเดิม เพื่อยึดครองพื้นที่ทางสมองให้ได้ เพื่อให้เกิดความขัดแย้งในแนวคำสอน ตามพระธรรมวินัยในพระไตรปิฎกของพุทธศาสนาเอง โดยการสร้างคำสอนขึ้นมาใหม่ 

และในเวลาเดียวกัน ต้องสร้างความแตกแยกและทำลายองค์กรปกครองคณะสงฆ์ไทยซึ่งมี ๒ นิกายไม่ให้มีการรวมตัวได้ รวมไปถึงการทำลายแนวต่อต้านคริสต์ศาสนา โรมัน คาทอลิค ส่วนเครื่องมือในการดำเนินการ ต้องอาศัย สื่อสารมวลชนเป็นหลัก ใช้อำนาจทางการเมือง ยึดครองแบบเบ็ดเสร็จให้ได้ ซึ่งการปฏิบัติการ ทั้งทางด้านการเมืองและศาสนา ดังกล่าว ไม่อาจใช้อาวุธเป็นเครื่องมือได้อีกต่อไป แต่ต้องใช้แผนการกลืนแบบช้าๆ

ที่มา

คัดลอกจาก หนังสือ "อนันตริยกรรมในเวียดนาม"

please read new world order.  

หนังสือเล่มนี้เขียนนานแล้ว กลยุทธ์ต่างๆ จึงซับซ้อนยิ่งขึ้น มองเห็นยากขึ้น

-------------------------------------------------------------------

the matrix ที่ผสมผสานzen พุทธปรัชญาและความเชื่อแบบคริสต์  วิทยาศาสตร์ QuantumPhysic, Zionism และเทคโนโลยี ฯลฯ.ได้อย่างลงตัว เป็นการปลุกให้ตื่น ซึ่งสวนทางกับการกลืนแบบไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน

weak up

เรามาปลุกให้ตื่นแบบไม่รู้ตัวกัน ต่อต้านการกลืนกันเถอะ

เซน…..คืออะไร  

  •  ไม่พึ่งพิงตัวอักษร ชี้ตรงไปยังจิต หากเห็นธรรมชาติของจิตเดิมแท้ จะบรรลุเป็นพุทธะ
  • ไม่มีคำบรรยาย แต่มีความนัยอยู่ในความไม่มีนั้น
  • เป็นลำแสงสว่างแห่งชีวิต เป็นบุปผาแห่งมวลชน
  • ทุกแห่งหนในโลกมีเครื่องฝึกสติ  ไม่มีธรรมชาติสักอย่างที่เซนไม่นำมาฝึกสติ
  • เหมือนเป็นแสงอาทิตย์อันรุ่งโรจน์ที่สาดส่องมายังโลกมนุษย์
  • คือปัญญา คือความจริงใจ คือโฉมหน้าที่แท้จริงของตัวเรา
  • ทำให้เรารู้จักตัวเอง เกิดแสงสว่างแห่งปัญญา รู้แจ้งเห็นจริง
  • ทำให้สถานะการณ์ที่ขัดแย้งคลี่คลายกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน 
  • จากความคิดที่แตกต่างหล่อหลอมมากลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
  • คือการดำรงชีวิตอย่างหนึ่ง คือขอบเขตที่สวยงามหมดจด
  • ไม่เน้นการเป็นพุทธะ แต่เน้นการรู้แจ้ง
  • เป็นความก้าวล้ำ เป็นความมีเกียรติ
  • อดีตที่ผ่านมาล้วนว่างเปล่า เป็นแค่ฉากหนึ่งของธรรมชาติ  
  • ไม่มีความสั้นยาวของกาลเวลา ไม่มีช่องว่างใกล้ไกล
  • ยามหลงมองเห็นความแปลกแยกแตกต่าง
  • ยามรู้ไม่มีความแปลกแยกแตกต่าง
  • บาตรหนึ่งข้าวพันบ้าน ชาวเซนท่องหมื่นลี้
  • คือความเป็นอยู่ของชีวิต

ที่มา        นิตยสาร  FUN
แปลโดย   แสงดาว

นอกจาก universal moral principle แล้ว นี่คือเกลือที่เราตามหา

ขอบคุณครับอาจารย์

P
  • ไม่ได้ลบครับแต่ถูกลบ เนื่องจากเขียนล้ำเส้นไปครับ+วาจาหาใช่สุภาพชน
  • เขียนแบบ ironic และมีการติ ก็อย่างนี้ละครับ ทัศนคติในแง่ลบมากกว่าบวก
  • เมื่อทัศนคติลบ ทุกอย่างก็ลบหมด

 

 

 

  • อะไรบีบคั้นจนต้องมีภาพเช่นนี้หรือ

Peace Warior 

We Fight With Peace For Peace .

  • พี่รับทราบและยอมรับความคิดของน้อง
  • พี่ค่อนข้าง liberal และ เห็นต่างไปในประเด็นรัฐธรรมนูญ  แต่พี่ไม่ได้รู้สึกว่าพี่ต้องเปลี่ยนความคิดของน้อง
  • ในโลกเราต้องมีคนที่คิดไม่เหมือนกัน หลากหลาย เป็นธรรมชาติ
  • มีอีกประเด็นที่น้องถามว่า "ศาสนาพุทธดีที่สุดไม่ใช่เหรอ"
  • ต้องตอบว่า มันดีที่สุดสำหรับพี่ สำหรับน้อง แต่เราไม่สามารถไปตอบแทนคนอื่นได้
  • ภูเขามีหลายด้าน ด้านไหนแดดส่อง คนปีนก็ใส่เสื้อกล้าม อีกด้านไม่มีแดด คนปีนก็ต้องใส่เสื้อหนาว ใครแรงน้อยก็ต้องใช้ไม้ค้ำช่วย  มาเถียงกันว่าวิธีไหน แต่งตัวแบบไหนดีที่สุด ไม่มีประโยชน์
  • พระติช นัท ฮัน กับ แดเนียล เบอร์ริกัน เขียนหนังสือไว้ร่วมกัน เรื่อง The Raft Is Not The Shore
  • ศาสนาคือเรือแพ ไม่ใช่ฝั่ง แม้กระทั่งศาสนาพุทธก็เถอะ
  • หมายเหตุ ศาสนาพุทธ (เรือ) ไม่เท่ากับ โลกุตรธรรม (ฝั่ง) นะสำหรับพี่ ศาสนาพุทธเองก็มีเปลือกไม่น้อย มีหลายนิกายด้วย การปฏิบัติตนของแต่ละนิกายก็ต่างกัน
  • พี่เชื่อว่าทุกศาสนามีแกนของมันที่ไม่ว่าคุณ จะนับถือศาสนาพุทธหรือไม่คุณสามารถไปถึงฝั่ง หรือ ยอดเขาได้ สามารถสู้กับ new world order ได้ สู้กับกิเลสได้ ทั้งสิ้น
  • มีคนที่นับถือศาสนาอื่นแต่คุยภาษาเดียวกัน กับพระพุทธเข้าใจมากมาย เพราะคนเหล่านั้นเข้าใจว่า เกลือ คืออะไร
  • สูญญตา, ความดับไม่มีเหลือ, การเข้าถึงพระเป็นเจ้า (ภาวะจากความรอดจาก อันตรายของวิญญาณอันสิ้นเชิง),  ภาวะ oneness (ความรู้สึกที่ไม่มีขอบเขตมาขวางกั้น ทุกสรรพสิ่งเชื่อมต่อกันหมด ในทุกมิติ รวมทั้งสิ่งที่เราเคยยึดว่าเป็นตัวตนของเรา): ประสบการณ์เหล่านี้ พี่เชื่อว่ามันคือสิ่งเดียวกัน สามารถเข้าถึงได้จากหลายศาสนา หรือ แม้แต่ไม่มีศาสนาแต่มีประเพณีที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ เช่น ชาวอินเดียนแดง
  • และการมองเห็นสิ่งเหล่านี้แหละทำให้คนเราไม่เห็นแก่ตัว
  • เมื่อไม่เห็นแก่ตัว เราก็สู้กับวัตถุนิยมได้
  • ถ้าคิดแบบสุดโต่งว่าวันหนึ่งศาสนาพุทธจะหมดไปจริงๆ แต่มีศาสนาใหม่ศาสนาเดียวทั้งโลกที่ท่านพุทธทาสกล่าวถึง พี่ก็ยอมให้รูปแบบมันเปลี่ยนไป ตราบใดที่หน้าที่ของมันเหมือนเดิม เพราะพี่เชื่อว่าใน เรือลำใหม่นั้น แกนของคำสอนของพระพุทธเจ้าจะรวมอยู่ในนั้นด้วยแน่นอน
  • แต่วันนั้นคงมาถึงยาก ถ้าเรายังมองไม่เห็นความเหมือนของหน้าที่ของเรือแต่ละลำ มัวแต่มาคิดว่า ของข้าดีที่สุด ใช้ไม้แข็งที่สุดปลอดภัย นั่งสบายที่สุด ใบพัดแข็งแรงพาไปถึงฝั่งได้เร็วที่สุด
  • peace จ้า (ชู 2 นิ้ว)
  • นี่ก็เป็นเพียงความคิดส่วนตัวของพี่เท่านั้นเอง น้องเห็นต่างไปก็ โอเค ไม่ว่ากัน  น้องก็เป็นคนที่สนใจพุทธรรมที่น่านับถืออีกคนหนึ่ง อายุ 20 กว่าๆเอง แบบนี้ ไปได้ไกล : )
  • ปล. แนะนำหนังสือ The Raft is not the Shore นะ เพราะท่านติช นัท ฮัน กล่าวถึงสงครามเวียดนามในนั้นได้น่าสนใจมาก ไหนๆ ก็ใช้รูป Man In Flameแล้ว
  • หน้า 88 ของหนังสือ มีประวัติว่า ในเวียดนาม มีการก่อตั้ง พรรคการเมืองแนวพุทธ ด้วยซ้ำ แต่ประสบการณ์ทำให้ activist อย่างท่านติช นัท ฮัน เรียนรู้ที่จะสู้แบบ non-political religious movement ไม่เอากลุ่มศาสนามาสนับสนุนกับรัฐบาลหรือ พรรคการเมืองไหนทั้งสิ้น แม้แต่พรรคแนวพุทธ

"เรากลัวข้ออ้าง ที่ไม่จริงไปทำไม"

  • เพราะ ข้ออ้าง ที่ไม่จริง ถูกอำนาจจัดการข้อมูลข่าวสารให้คนเชื่อว่า มันอาจจะจริงได้
  • ดู บุช อ้างเข้าสิ อ้างมาจนจะครบสมัยแล้ว!
  • ท่านติช นัท ฮัน หรือแม้แต่องค์ดาไลลามะ ก็ยังมีสีเหลืองกับสีรากไม้ติดตัวไปไหนต่อไหนได้อย่างสง่าผ่าเผย นั้นคือคุณของพระพุทธเจ้า ความสำคัญของคำว่าพุทธและสีเหลืองเป็นพุทธานุภาพ ลองท่าน non-political religious movement โดยไม่ห่มผ้าเหลืองสิ น่าคิดนะ
  • ศาสนาคือแพก็จริง ยังไม่ถึงฝั่งคิดจะทำลายแพแล้วหรือ จะหาใครแข็งแรงพอกระโดดน้ำลงไปว่าย โดยไม่จมน้ำเชี่ยว หรือโดนสัตว์ร้ายกัด นั้นยากเต็มที  เราไม่ควรจะหวงแพไว้ให้ลูกหลานเราหรือ?
  •  เรือลำไหม่จะดีกว่านั้นหรือ เปลี่ยนเป็นเรือแล้วจะทุกคนได้เยอะขึ้นหรือ ถ้าเรือลำนั้นดีจริง ทำไมผู้พายหรือผู้บังคับหางเสือแพหางแมว จึงไม่เห็นด้วย หรือแท้จริงแล้วเรือลำนั้นเป็นขอนผุๆ และนั่งกันได้ไม่กี่คน
  • ทุกคนรู้ว่าเกลือคืออะไร แต่ทำไมไม่เค็มจริง ขนาดเราเองอยู่ในนาเกลือ เรายังไม่เค็มจริงกันเลย ประเด็นจึงน่าจะอยู่ที่ยืนอยู่ในนาเกลือให้นาน และหาวิธีใส่เกลือกันใหม่     

"เรากลัวข้ออ้าง ที่ไม่จริงไปทำไม"

  • เพราะ ข้ออ้าง ที่ไม่จริง ถูกอำนาจจัดการข้อมูลข่าวสารให้คนเชื่อว่า มันอาจจะจริงได้
  • ดู บุช อ้างเข้าสิ อ้างมาจนจะครบสมัยแล้ว!

ถูกใจ สามบันทัดนี้จัง :)  รู้อยู่แก่ใจว่าอ้าง แต่ทำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหม ช่างเสรีอยุติธรรมกันจริงๆ

  • โต้เถียงกันเช่นนั้นเอง ช่วยกันพายอะไรก็ได้ที่สมมุตินั่งกันดีกว่า  อย่าปล่อยให้เป็นเพียงหน้าที่ของผู้บังคับหางเสือหางแมวเลย
  • เถียงไปพายไป ก็ไม่เหงาดี ^^

 ต่อไปนี้คงไม่มีโอกาศสนทนาด้วยแล้วครับ ภาระกิจที่ไม่มีโอกาศออนไลน์มาถึงแล้ว

 

 

อ้าว....ครูอ้อยกำลังชอบอ่าน ...ก็จะเลิกเขียนซะแล้ว ...อดเลย

งั้นมาปิดท้ายค่ะ 

  • เห็นด้วยค่ะ ว่าศาสนาพุทธสำคัญแค่พี่ไม่เชื่อว่ามันจะหายไป ถ้าเราไม่ใส่คำว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ในรัฐธรรมนูญเท่านั้นเอง
  • พี่เห็นว่าเราควรมาส่งเสริมพุทธรรมโดยที่ ไม่ต้องไปยุ่งกับกฎหมายหรือการเมือง ควรส่งเสริมจาก bottom-up ไม่ใช่ top-down ลงมาจากรัฐบาล เราเห็นต่างกันแค่ตรงนี้ : )
  • .....
  • อีกทั้งควรส่งเสริมไปพร้อมกับความเข้าใจในแกนของศาสนาทุกศาสนาด้วย ไม่ใช่แค่พุทธ ให้แต่ละศาสนารวมทั้งพุทธพยายามเข้าใจความหมาย ของศาสนาตัวเองที่ลึกซึ้ง ไปกว่าตัวอักษรในพระคัมภีร์
  • โลกเราจะได้ รักกันๆให้มากๆ
  • : )
  • พี่ไม่เข้าใจคำถาม: 

"เรือลำไหม่จะดีกว่านั้นหรือ เปลี่ยนเป็นเรือแล้วจะทุกคนได้เยอะขึ้นหรือ ถ้าเรือลำนั้นดีจริง ทำไมผู้พายหรือผู้บังคับหางเสือแพหางแมว จึงไม่เห็นด้วย"

เรือลำใหม่คืออะไร ใครคือผู้บังคับหางเสือค่ะ? ไว้ว่างๆมาคุยกันต่อละกันนะคะ

 

พอดีกำลังจะออกเดินทางเช้านี้ครับ เป็นสถานที่ห่างไกลสายโทรศัพท์ครับ

 allwc8

miniature earth google video

The Miniature Earth 

หากใครได้ชมวีดีโอนี้ เราจะพบว่าชาวพุทธมีอยู่เพียง 6 คนสุดท้าย และภายใน 6 คนสุดท้ายนั้น ในประเทศไทยมีพระเพียง 300,000รูป หรือเท่ากับ  0.005% ของคนทั้งประเทศ siam นี่ละ ไซออน เราคิดว่าเกลือมันมีทั้งทะเลหรือ?

มีพระนักพัฒนาที่ทำงานเพื่อสังคม ท่านพูดว่าอย่าไปหวังอะไรกับการช่วยเหลือของรัฐบาลเลย ขอเพียงไม่แกล้งเราก็พอแล้ว

พระพยอมบอกว่า โปรดเลือกพระพยอมเบอร์ 1เป็นนายก พรรคพระพุทธเจ้า

ชีวิตนี้ไร้แก่นสาร จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรถ้าไม่ได้ทำความดี 

โชคดีครับ

---------------------------------

เห็นด้วยกับบทความจากประชาไทที่คุณวีร์เอามาฝาก ดังนี้ค่ะ

การที่พระหรือชาวพุทธจำนวนหนึ่ง ไปเรียกร้องความเชื่อมั่นความเป็นชาวพุทธ โดยให้มีการบรรจุพระพุทธศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ มันก็คือการนับถอยหลัง ในแง่ที่ว่า พุทธศาสนาเป็น สถาบันซึ่งแตกต่างกับพุทธศาสนาในแง่ของวัฒนธรรม วิถีชีวิต ของชาวบ้านทั่วไปที่ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าการเข้าวัด ทำบุญตักบาตร ซึ่งอยู่ในวิถีชีวิตอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าไม่ค่อยตอบสนองความเป็น ศาสนาในความเป็นสถาบัน องค์กรศาสนาเท่านั้น

ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ตกอยู่ในความกลัว...ความกลัวเหล่านี้ถือว่าเป็นอคติ พอกลัวแล้ว ก็มองความจริงกันไม่ออก ซึ่งแท้จริงแล้ว พุทธศาสนานั้นอยู่ด้วยปัญญา และจะต้องทำความเข้าใจกับปรากฎการณ์ต่างๆ ให้ชัดเจน ให้ถูกตรงกับความเป็นจริง และวางท่าทีให้เหมาะสม

หันกลับมาทำการบ้าน มาดูว่าปัญหาของพระพุทธศาสนาที่แท้จริงมันอยู่ตรงไหน

---------------------------------

โชคดีค่ะ 

ต่างคนต่างจิตต่างใจ

ความเชื่อเป็นของเรา ความคิดเป็นของเรา

สิ่งที่เราเห็นว่าดี หากเราไม่ทำ แล้วใครจะทำ

หากเราทำแล้ว จะให้ใครอีกเล่าทำ

 

เกลือ เม็ดไหนก็เค็ม จะบอกว่าหวานก็หวาน

แต่เกลือก็ยังเป็นในสิ่งที่มันเป็นไม่เปลี่ยนแปลง

ขอเดาว่าหนังสือที่อาจารย์-พี่มัท แนะนำ หน้า 88 ของหนังสือThe Raft is not the Shore ที่ระบุว่ามีการก่อตั้ง พรรคการเมืองแนวพุทธ นั้นเกิดขึ้นหลังการแซกแซงทางศาสนาและการเมืองของสหรัฐอเมริกาจนก่อให้เกิดสงครามเวียดนามขึ้น ถ้าจะพูดว่าทำสงครามโดยอ้างศาสนาก็คงไม่ผิดนัก

"ไม่มีสงครามศาสนาในโลก มีแต่สงครามอ้างศาสนา"   burning buddha

ถ้าตั้งพรรคการเมืองแนวพุทธในไทยสิ น่าจะดีนะ นักการเมืองถือศีลห้า ไม่โกงกิน และไม่โกหกกันหมด โอ้..ลองคิดดูสิครับว่าประเทศชาติจะพัฒนาขนาดไหน :)     สิ่งที่เราเห็นๆ รู้ๆกันอยู่น่าจะเรียกว่า"นักกามเมือง"ต่างหาก

                     story 14


                        Play

ศึกษาธรรมะเป็นการปกบ้านป้องเมือง
ภูมิปัญญาทำให้รอดพ้นจากโจรภัย
เหมือนมีแม่ทัพนายกองคอยเฝ้าบัญชาการ
สร้างสันติสุขได้โดยไม่ต้องใช้กำลังอาวุธ

 

มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง......

ในขณะที่มีการเสนอให้เปลิ่ยนชื่อจากโรงเรียนวิถีพุทธเป็นโรงเรียนวิถีธรรม ผู้หนึ่งที่คัดค้านและบอกว่าต้องใช้คำว่าพุทธก็คือผู้ว่า อภิรักษ์ โกษะโยธิน ซึ่งเป็นการคัดค้านที่น่ายกย่อง เพราะทั้งๆที่ท่านเป็นมุสลิม แต่ท่านเข้าใจในสิ่งที่ชาวพุทธบางคนไม่เข้าใจ และที่สำคัญท่านเป็นคนไท โดยจิตวิญญาณ เป็นคนที่มีความเป็นมนุษย์ ที่ต้องมีพื้นฐานของความกตัญญู สำนึกรัก รู้จักทดแทนคุณ คุณแผ่นดิน(Earth) และคุณศาสนา คุณธรรมข้อหนึ่งที่ไม่มีในรากศัพท์ภาษาอังกฤษก็คือ "กตัญญู" ....... เรื่องเล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง แต่ก็ใช่จะกล่าวว่าผู้ที่มีความคิดต่างไม่ใช่คน  

  • "ความต่าง"ต่างหากที่ทำให้เราเป็น"คน"

ขอบคุณสำหรับบทความ บทความจากประชาไท และความปราถนาดีของผู้เขียนบทความ มุมที่แตกต่างในความคิดของผมก็คือ

  • หากศาสนาไม่ใช่ "สถาบัน" พระพุทธเจ้าท่านจะทรงเมตตาเผยแพร่พระสัจธรรม และประกาศศาสนาไปทำไม? วิถีชีวิตแบบนั้นกำลังค่อยๆหายไปจากสังคมของเราใช่ไหม?
  • กลัวเพราะไม่รู้ ถ้า"รู้"จะไม่"กลัว"  แม้ว่าจะไม่ถึงกับรู้ เพียงอาศัยแค่ความเชื่อและศรัทธา ก็เพียงพอที่จะให้เกิดความกล้าที่จะต่อสู้กับความกลัวและความมืดต่างหาก คำถามก็คือพระหรือชาวพุทธกลุ่มนั้น "รู้" หรือ "กลัว" กันแน่ ? 

                     story 32


                        Play

 สิ่งที่ธรรมดาที่สุดคือสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุด
ถ้าพูดออกมาลอยๆก็ไม่เข้าใจ
คนศึกษาธรรมะช่างน่าขัน
ยังลังเลใจว่าใช่หรือไม่ใช่

เราคงจะคิดในแง่ถูกหรือผิดไม่ได้ เราควรคิดในแง่ประโยชน์สุขที่แท้จริงของคนในสังคมเราและสังคมโลก(Earth)ต่างหาก ในเมื่อรู้ว่าดี เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือไม่ดีกว่าหรือ?

"สิ่งใดเกิดสิ่งนั้นดีเสมอ"

 

มีคนเขียนบันทึกประเด็นนี้มากมายใน gotoknow

ที่อ่านเจอมีทั้งชาวพุทธ ชาวอิสลาม

พี่ขอไม่เขียนต่อแล้วนะ เพราะได้แจกแจงไปหมดแล้วอ่ะจะ

พี่เชื่อในเจตนาที่ดีของแมน เรามีเจตนาเดียวกัน เพียงแต่เราไม่เห็นด้วยใน วิธีการ เท่านั้นเอง   : )

 

พรรคแนวพุทธ โปรดเลือกพระพยอมเป็นนายก

พี่-อาจารย์มัท ไม่เขียนต่อ ผมก็หงาวแย่สิคับ ^^

ไม่มีเพื่อนออกกำลังสมอง :) 

  • สงสัยต้องคุยประเด็นใหม่ที่เป็นสาระและมีขนาดพอเหมาะพอที่จะให้คนตัวเล็กๆอย่างเราลงมือ"ก่อการD" ได้ครับ

(^------------^)

พี่-อาจารย์มัท หยุดแล้วแต่ ผมยังไม่หยุด ^^

 '(^----------------^)'

ข้อดีของการบัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
     ๑. ได้ยืนยันความจริงทางประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีมายาวนาน
     ๒. ได้รักษาสถาบันทั้งสามอย่างเท่าเทียมกันโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ
     ๓.  ได้ให้ความสำคัญกับศรัทธาของประชาชนคนในชาติที่มั่นคงอยู่ในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
     ๔.  ได้แสดงออกซึ่งการยอมรับความจริงแบบประชาธิปไตยว่าเสียงของคนส่วนมากยอมรับ สถาบันชาติ  พระพุทธศาสนา  พระมหากษัตริย์ เท่าเทียมกัน
     ๕.  ได้ยืนยันความเป็นคนไทยที่นิยมอิสระ เสรีภาพ  โดยมีหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเป็นแกนกลางสร้างความสามัคคี
     ๖.  ได้สร้างและยอมรับความสอดคล้องกับมติของประชาคมโลกที่ให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาและประเทศไทย
     ๗.  ได้ส่งเสริมความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นระหว่างประชาชนคนในชาติ
     ๘.  ได้ยืนยันภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นดินแดนพระพุทธศาสนา ที่คนทุกคนในประเทศนี้มีเสรีภาพในการนับถือศาสนาที่ตนศรัทธาได้โดยไม่ขัด แย้งกัน
     ๙.  ได้แสดงออกซึ่งความที่พระพุทธศาสนาเป็นนวัตกรรมทางความคิดของพระสัมมา สัมพุทธเจ้าที่อยู่คู่กับคนไทย  ชาติไทย  พระมหากษัตริย์ไทย ในสุวรรณภูมินี้มานานมากกว่าสองพันปี
     ๑๐.  ได้ยกย่องพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่พระมหากษัตริย์ไทยทุกราชวงศ์ตั้งแต่ เริ่มต้นเผ่าไทยมาถึงปัจจุบัน  และประชาชนคนไทยปัจจุบันเกินกว่า  ๙๔ %   ยอม รับนับถือ เพราะมั่นใจว่าพระพุทธศาสนามีคุณูปการต่อชนชาติไทย
     ๑๑.  ได้ส่งเสริมสนับสนุนมติชาวโลกที่ยกย่องให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาของโลก
     ๑๒.  ได้หลักประกันทางกฎหมายว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยโดยถูกต้องชอบ ธรรมและชอบด้วยกฎหมายบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ  อันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
     ๑๓.  ได้เครื่องมือปลูกจิตสำนึกร่วมกันของคนในชาติที่จะร่วมใจกันยกย่องสถาบันสูงสุดเป็นเอกลักษณ์ของชาติ
     ๑๔.  ได้เครื่องมือส่งเสริมการประพฤติปฏิบัติธรรมนำสู่หลักแห่งประชาธิปไตยที่ ยึดความถูกต้อง  ชอบธรรม  มีภราดรภาพ  มิตรภาพตามหลักธรรมคำสั่งสอนที่มีมาในพระพุทธศาสนา
     ๑๕.  ได้หลักในการอบรมสั่งสอนลูกหลานไทยได้เกิดความภาคภูมิใจว่าตนมีศาสนาประจำ ชาติ   ที่จะต้องตระหนักในการนำศาสนาสู่การปฏิบัติมากยิ่งขึ้น
     ๑๖.  ได้หลักการกลางในการสร้างความสามัคคีระหว่างคน  ในชาติ  เพราะเมื่อพระพุทธศาสนาแข็งแกร่ง  คนในชาติซึ่งนับถือศาสนาต่างกันก็จะอยู่อย่างสงบสุขทั่วถึงกัน   เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่พุทธศาสนิกชนจะไปรังแกคนที่นับถือศาสนาอื่นจากที่ ตนนับถือ  ไม่เคยมีมาในอดีต  ยังไม่มีในปัจจุบัน  และ จักไม่มีในอนาคต  ที่พุทธศาสนิกชนจะไปรังแก  รบราฆ่าฟัน  ขับไล่ไสส่งศาสนิกอื่น  มีแต่ชาวพุทธเท่านั้นที่ถูกรังแกถูกทำลายมาตลอดทุกยุคที่ผ่านมา
     ๑๗.  การบัญญัติข้อความข้างต้นนั้นไว้ในรัฐธรรมนูญ  จะเป็นกุญแจสำคัญให้พระพุทธศาสนายิ่งมั่นคงขึ้น  คือเป็นประเด็นให้ได้ออกกฎหมายคุ้มครอง ส่งเสริมให้เหมาะสมได้ในโอกาสต่อไป
     ๑๘.  ประชาชนคนไทยในยุคต่อไปจะได้ตระหนักยิ่งขึ้นว่า  ชาติ  พระพุทธ- ศาสนา  พระมหากษัตริย์  เป็นสถาบันสำคัญของชนชาติไทยที่จะต้องเทิดทูนไว้เหนือความขัดแย้งใด ๆและเหนือชีวิต
     ๑๙.  การมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ  มิได้หมายความว่า  คนไทยที่นับถือศาสนาอื่นจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้  เช่นเดียวกับการบัญญัติว่าที่นี่ประเทศไทย  แต่คนจากประเทศไหน ๆ ก็สามารถมาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างปกติสุข  ภายใต้กฎหมายไทยที่ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาอยู่แล้ว
     ๒๐.  การบัญญัติข้อความข้างต้นนั้นไว้ในรัฐธรรมนูญ  จะได้รัฐธรรมนูญที่ถูกต้องที่สุดในบริบทสังคมไทย  จะไม่เป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดจากความชอบ  ความชัง  ความหลง  ความกลัว  คือจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ปราศจากอคติหรือความลำเอียงทั้งสี่ประการ  เป็นบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่คนไทยเกินกว่า  ๙๐ %  ยอมรับแน่นอน

 

รุ่นป้า รุ่นยาย....ยอดนักสู้จริงๆ

  • เรื่องศาสนาประจำชาติกลายเป็นเรื่องประหลาด
  • ประเทศที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติบ้าง เช่น อินเดีย ศรีลังกา เนปาล บังคลาเทศ เค้าเขียนอย่างภาคภูมิใจว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
  • จำเป็นต้องอาศัยหลักนิติศาสตร์ พฤตินัย หลักตรรกศาสตร์ เข้าไปแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่เช่นนั้นคงไม่ทันยุคสมัยวัตถุเจริญ
  •  กรรมาธิการร่าง รัฐธรรมนูญเพียงแค่นำเอาข้อเท็จจริงที่มีในประวัติความเป็นมาของไทยมาบันทึกเป็น ลายลักษณ์อักษรเท่านั้น มิได้บัญญัติอะไรใหม่เลย !!!
  • ถ้าไม่บัญญัติไว้ในกฎหมายแม่บทอย่างรัฐธรรมนูญ ก็จะออกกฎหมายลูกเพื่อปกป้องและรักษา พัฒนาศาสนา คำสอน ศาสนสถานไม่ได้ (มารศาสนาไม่เสียค่าปรับ)
  • คือศาสนาอื่นน่ะ เขาใช้กฎหมายต่อรองเอาสิทธิ เอางบประมาณไปเรื่อยๆ ในเวียดนาม และเกาหลีใต้ ศาสนาพุทธสูญสิ้นด้วยการโดนศาสนาอื่นที่มีปริมาณน้อยกว่ามาก
    เข้าทางการเมือง บัญญัติให้ศาสนาอื่นเป็นประจำชาติ เมื่อเขาเป็นแล้ว เขาก็ออกกฎหมายห้ามสงฆ์ทำกิจกรรมทางศาสนา เช่น ห้ามสวดมนต์ ห้ามมีพิธีวันสำคัญ ห้ามทอดกฐิน
    ถ้าจะทำต้องขออนญาตรัฐก่อน และเมื่อขอแล้วก็ไม่อนุญาติ
  • เกาหลีนั้น เคยเป็นพุทธร่วม 80-90% ตอนหลังเหลือประมาณ 5 %
  • ประเทศ ศรีลังกา เขมร ลาว มีกระทรวงพระพุทธศาสนา แต่กลับไม่ยอมให้ไทยมี กระทรวงพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทย กลับเอาพวกบริษัทเหล้าเบียร์มาส่งเสริมวัฒนธรรม และอ้างความรักชาติ
  • เคยมีนักการเมืองที่คิดจะแตะต้องพระพุทธศาสนาโดยการคิดจะขับไล่พระออกจากป่า  ไม่อนุญาติให้พระเข้าไปปฏิบัติธรรมกรรมฐานอยู่ในป่า  ซึ่งถ้าพวกเขาสามารถออกกฏหมายมาบังคับได้เช่นนั้นจริง  ก็ไม่มีใครขัดขวางได้ 
  • มันมีผลเรื่องงบประมาณ และการกำหนดเนื้อหาวิชาการ ตัวอย่างเช่น ที่บุญสม มาร์ติน ชาวคริสต์ ตัดวิชาศีลธรรมพุทธออกจากการเรียนการสอน ผลก็คือ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เรามีสวดมนต์ใหญ่ทุกศุกร์ ตอนนี้เด็กวัยรุ่นสวดกันไม่เป็นแล้ว รวมทั้งผู้เขียนด้วย สวดมนต์ไม่เป็น !!!

ต้นไม้ต้องมีทั้งเปลือก ทั้งแก่น ทั้งกะพี้

  •  ถ้าไม่ให้โอกาสต้นไม้มีเปลือก แก่นก็จะไม่เหลือ
  • ถ้าเปลือกหนาก็จะไม่เข้าถึงแก่น

 

ภัยแห่งพระพุทธศาสนาในประเทศไทย .pdf  (ป.อ.ปยุตฺโต)

จิตสำนึกของสังคมไทย  (ป.อ.ปยุตฺโต)

  • อเมริกาเขาแยกรัฐกับศาสนาเพราะมีปัญหาเรื่องแยกนิกายในศาสนาเดียวกัน คำว่าแยกรัฐกับศาสนา จึงมีความหมายเพื่อป้องกันการแตกแยกสามัคคี แค่ต่างนิกายกันก็ฆ่ากันแล้ว ผลที่สุดจึงต้องแยก church และ state หากเราแค่ไปดูเขาแล้วก็ตามอย่างเขามา มันก็จะใช้ไม่ได้กับประเทศเรา นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่บรรดาพวกจบด็อกจากต่างประเทศต้องทำความเข้าใจ ไม่งั้นเราจะตามฝรั่งแบบ"เข้าเมืองตาหลิ่วไปทิ่มตาบอด"

พูดเรื่องเดียวกันแต่เถียงคนละเรื่อง ในความหมายของ"ศาสนาประจำชาติ"

  • ฝ่ายที่สนับสนุนก็จะมองตามแนวทางของ ประเพณีวัฒนธรรม บ้างก็ว่าไหนๆก็มีชื่อในทางพฤตินัยอยู่แล้ว ขอมีในทางนิตินัยด้วย บ้างก็ว่ารัฐและสังคมจะได้เอาจริงเอาจังเรื่องการบำรุงศาสนา แต่ก็ยังมองว่า พระสงฆ์ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมือง อณาจักรมีหน้าที่บำรุงอุปถัมภ์ พุทธจักรก็มีหน้าที่สั่งสอน  
  • ฝ่ายที่คัดค้านซึ่งโดยมากจะเป็นคนที่เรียกว่าสมัยใหม่ จบการศึกษาจากเมืองฝรั่ง ก็จะมองความหมายของ"ศาสนาประจำชาติ" ในมุมที่ว่าศาสนาจะมีอำนาจหรืออิทธิพลของรัฐอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าจะมีขอบเขตแค่ไหน รวมทั้งไม่เข้าใจศาสนาอื่นและสังคมอื่นด้วย

สังคมอื่นศาสนาอื่น กิจการศาสนาเขาจะรวมทั้งกิจการบ้านเมือง การปกครอง การทหาร ตลอดจนการจัดการเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นเรื่องโดยตรงของศาสนา

คำว่า"ศาสนาประจำชาติ" ในความหมายของชาวพุทธก็คือ มองแค่เป็นความยอมรับสนับสนุนและสัมพันธ์กันเชิงสั่งสอนแนะนำและอุปถมภ์บำรุง อย่างที่เรารู้สึกและจำจนติดใจกันสืบมาว่า พระเป็นผู้สละบ้านเรือนไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง

กฏหมายของชาวพุทธอย่างมากก็แค่ส่งเสริมศาสนาอย่างเอาจริงเอาจังโดยพระคงไม่ต้องมาวุ่นวายกับกิจการบ้านเมือง คงไม่เหมือนตะวันตกที่ศาสนจักรมีอำนาจออกกฎหมายบังคับ กิดกัน หรือข่มแหงศาสนาอื่น

ในมุมกลับกันพระจะถูกบีบให้ออกมาร่วมยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหากถูกอำนาจรัฐกีดกัน เช่นเดียวกับประเทศต่างๆที่ถูกตะวันตกยึดครอง ที่อาจจะถึงขั้นพระสมัครเป็นสส. ตัวอย่างเช่นศรีลังกาและเมียนมาร์ เป็นต้น 

 

ขอคารวะท่านผู้รู้ man in flame

                ผมเห็นด้วยกับคุณในบางเรื่องนะเช่นการนำจิตใจออกห่างจากวัตถุ 

                แต่ในประเด็นเรื่องศาสนาพุทธนั้นผมเห็นด้วยกับอาจารย์มัทนะ

                แต่ใช่ว่าหลักการเช่นที่คุณแมนคิดจะเกิดไม่ได้   มีโอกาสสูงสำหรับรัฐไทย รัฐพุทธ เช่นเดียวกับรัฐอิสลาม  กฎหมายอิสลามก็เกิดขึ้นได้ และอิสลามก็เป็นรัฐใหญ่รวมประชากรมากที่สุดในโลก หากพูดกันเรื่องสงครามอ้างศาสนา  ชาวฮินดูทั้งเคร่งและไม่เคร่งจะทำสงครามศักดิ์สิทธิ์   (แต่โดยเนื้อแท้ตลอดมาในโลกเป็นสงครามแย่งชิงทรัพยากรทั้งนั้น   หากเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต มหาอำนาจอเมริกาคงจะทำสงครามแย่งน้ำมันแน่นอน )

                แต่ก็นั่น  หากศาสนากลายเป็นตัวนำแห่งรัฐแล้ว  การบังคับด้วยศีลธรรมผนวกกฎหมายก็อาจเป็นสังคมอุดมคติได้  เฉกเช่นการเชื่อในหลักของมาร์กและเลนิน   ที่เชื่อว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดของสังคมมนุษย์จะอยู่ด้วยกันอย่างเท่าเทียม ถึงเวลานั้นกฎหมายเองก็ไม่จำเป็นต้องมีในสังคมด้วยซ้ำไป

                  แต่สำหรับพุทธศาสนาแล้วสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ยังเป็นสากลและใช้ได้อยู่เสมอและในเวลานี้หาใช่ตัวธรรมที่ท่านสอนไว้แปลเปลี่ยนแต่บุคคลต่างหากที่ถูกเงินและความมั่งคั่งฉุดดึงให้ความเข้าใจธรรมนั้นค่อย ๆ เลือนจากจิต

                  ผมจำบทเทศนาของภิกษุองค์หนึ่งท่านกล่าวถึง พระอานนท์ที่ทูลถามพระพุทธเจ้าในเวลาใกล้เสด็จปรินิพพาน  พระอานนท์ทูลถามว่าหากไม่มีพระองค์แล้ว ผู้ใดจะเป็นตัวแทนของพระองค์ พระพุทธเจ้าตรัสว่า  ธรรมทั้งหลายจะเป็นตัวแทนแห่งเรา

น้ำพระทัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

อันตัวพ่อ               ชื่อว่าพระยาตาก
ทนทุกข์ยาก          กู้ชาติพระศาสนา
ถวายแผ่นดิน         ให้เป็นพุทธบูชา
แด่พระศาสนา       สมณะพระพุทธโคคม
ให้ยืนยง                คงถ้วนห้าพันปี
สมณะพราหมณ์ชี   ปฏิบัติให้พอสม
ถวายบังคม            รอยบาทพระศาสดา
คิดถึงพ่อ               พ่ออยู่คู่กับเจ้า
ชาติของเรา           คงอยู่คู่พระศาสนา
พุทธศาสนา          อยู่ยงคู่องค์กษัตรา
พระศาสดา           ฝากไว้ให้คู่กัน

 

(จารึกในศาลพระเจ้าตากสินมหาราช)

พระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

"ตั้งใจจะอุปภัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา จะป้องกันขอบขัณฑสีมา รักษาประชาชนและมนตรี" 

(พระราชนิพนธ์นิราศท่าดินแดง)

ศาสนาประจำชาติไทย
เหตุผลที่ต้องบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไทยว่า

“ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็น
อัครศาสนูปถัมภก บุคคลใดหรือนิติบุคคลใด
จะล่วงละเมิดชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ มิได้”

ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย

เมื่อเราหาสิ่งใด เราจะได้สิ่งนั้น

เมื่อเรามองสิ่งใด เราก็จะเห็นสิ่งนั้น

ขอคาระวะในธรรมครับ คุณ
P

ความจริงคือผมไม่รู้ ขนาดสวดมนต์ยังสวดไม่เป็นเลยครับ - - "  เพียงแต่ผมมีไฟอย่างที่คุณมี ถ้าคิดว่าร้อนมันก็ร้อน ถ้าคิดว่ามันสว่างก็สว่าง ศาสนาและความเชื่อ มีพลังของจิตใต้สำนึกที่ส่วนใหญ่จะถูกใช้เพื่อตอบสนองการดำรงอยู่ของตัวตน

ขอบคุณคุณไม่มีอะไรที่แวะมาเยือนครับ บางทีไม่หากลับพบ ไม่มองกลับเห็นขอรับ ^^

 การตอบข้อสงสัยสาธารณะเรื่อง
บัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ

Tank: So what do you need? Besides a miracle.
Neo: Guns. Lots of guns.

At first, you is a guns ...... by teache your self.
Second, Let your friends know than you know.
At last.... your Goodmedia are one type of this gun..................

need a lot a lot of gun
Please Iron Curtain our world peace.
Keeping Buddhism Alive 

นอกจากปาฎิหาริย์แล้ว......เราต้องการปืน...ปืนจำนวนมาก  

ติดอาวุธให้ธรรมะ เอาชนะด้วยคมธรรม
พิฆาตกรรม กระสุนธรรม ทะลวงใจ
รุกฆาตไป โดยระเบิดธรรม(ระบำเถิด)
ทำหมันการเกิด ดับความไม่รู้
เป็นยอดนักสู้ พลีชีพมาร ในหัวใจ.....กันเถอะนะ 

'(^------------^)' 

ผมเข้าใจวิธีการของคุณนะครับ

บางทีผมก็อยากแปลงร่างเป็นมนุษย์เหล็กไหล ปราบคนพาล อภิบาลคนดี 

ไม่แน่บางที  บุคคลที่ถูกเลือกจะนำความหวังมาสู่การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีได้  อาจเป็นความรุนแรงแบบสงครามหรือไม่ก็  การขบแตกทางความคิดของเหล่าบุคคลที่ถูกเลือก  เขาเหล่านั้นใช้ความแยบยล  ถอดสลักปรมณูที่ระอุ     ท่ามกลางความกดดันและสับสนเขาเหล่านั้นฝ่าไปได้

         ตื่นเช้าดวงอาทิตย์คงส่องแสงทางทิศตะวันออก เด็ก ๆ วิ่งเล่น นกกาเริงร่าบนท้องฟ้า

         โลกเรายังสงบ  ไม่มีใครรู้นอกจากเขาผู้ผ่านคืนวันและความหนักล้าของการเปลี่ยนผ่าน

บุรุษที่สังหารมารมากที่สุดคือพระพุทธเจ้า แม้แต่โจรที่ฆ่าคนมามากมาย ก็ยังเป็นเพียงผู้หนึ่งที่หลงผิด และเป็นผู้ไม่รู้

และสมควรยิ่งแล้วที่พระท่านจะเรียกการขออาหาร(ขอทาน)ว่าการโปรดสัตว์ เพราะขอคือให้ ให้เมตตาบังเกิดขึ้นในจิตใจของสรรพสัตว์เหล่านั้น(พวกเรา)  

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่มีผู้ถูกเลือก มีแต่ผู้ทำความเพียรและตั้งใจทำความดีเท่านั้น ที่จะกุมชะตาของตนได้ คำว่า "เมตตาธรรมค้ำจุนโลก" ไม่ผิดไปจากความจริงเลย

สติ สงบ สว่าง สะอาด สันติ สันติ สันติสุข    

Where we go from there, is a choice I leave to you...

น่าเศร้า  แต่เป็นเรื่องจริงค่ะ  เห็นมากับตาว่าวัดที่ได้รางวัลวัดพัฒนายอดเยี่ยมคือวัดที่มีโบสถ์ มีวิหารสวยงาม  การที่วัดเป็นป่าคงดูไม่ทันสมัยสำหรับญาติโยมสมัยนี้กระมัง

The real Dhamma will never die! 

ทุกสิ่ง..เป็นเพียง DUST in UNIVERSE ..

Because you have been down there, Neo. You know that road. You know exactly where it ends. And I know that's not where you want to be.

เวลาที่เพื่อนดี ชวนไปเข้าโบสถ์ ไปทำบุญ ไปชำระกิเลส เรามักจะมองเพื่อนเหล่านั้นเป็นเหมือนศัตรู ที่เอาปืนจ่อหัวเราและขู่บังคับให้เราไป

เรามักจะเห็นนรกดีกว่าสวรรค์เสมอ ถ้าเพื่อนเลวชวนไปพับบ์ ไปบาร์ละก็....(^......^)
เมาเป็นอย่างไรก็รู้ดีอยู่ แต่ยังอยากจะไป

ถ้ามองในมุมการเวียนว่ายตายเกิดแบบชาวพุทธ เราก็เคยเกิดมาแล้วหลายครั้ง รู้รสชาติของมันดีว่าทุกข์เป็นอย่างไร และมันทำให้ พราหมณ์ไม่อยากตายพุทธไม่อยากเกิด คริสต์กับอิสลามอยากไปอยู่กับพระเจ้า

 

อาจไม่มีแม้ Dust  และแม้แต่ Universe ก็เป็นได้

ถ้ามองในมุมการเวียนว่ายตายเกิดแบบชาวพุทธ เราก็เคยเกิดมาแล้วหลายครั้ง รู้รสชาติของมันดีว่าทุกข์เป็นอย่างไร และมันทำให้ พราหมณ์ไม่อยากตายพุทธไม่อยากเกิด คริสต์กับอิสลามอยากไปอยู่กับพระเจ้า

เรามักจะเห็นนรกดีกว่าสวรรค์เสมอ ถ้าเพื่อนเลวชวนไปพับบ์ ไปบาร์ละก็....(^......^)
เมาเป็นอย่างไรก็รู้ดีอยู่ แต่ยังอยากจะไป

 มีคนเกือบครึ่งค้นหาความสงบภายใน

มีคนเกือบครึ่งค้นหาความอึกทึกจากภายนอก

มีคนเกือบครึ่งรู้ว่าทุกข์เป็นอย่างไรและต้องการดับทุกข์

มีคนเกือบครึ่งไม่รู้ว่าสุขเป็นอย่างไรแล้วมุ่งค้นหาความสุข

           ขอบคุณครับ

คนบางคนรู้แต่ไม่ทำ บางคนทำ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้
  • มันส์ ดีแต้เจ้า
  • เสียดายจัง อยากอ่านความคิดของ อ.มัทน์ อีกครับ :-) แต่ท่านไปซะแล้ว
  • ผมเป็นคนหนึ่งครับที่เข้ามาอ่านบล๊อกนี้...............................ขอบคุณคราบผม :-)
  • ไปตามอ่านจากที่คุณแมนแนะนำ ได้ประโยคนี้มาครับ
  • บางทีคนที่มุ่งร้ายอาจจะมาลอบวางเพลิงเผาบ้านก็ได้ หรือแม้แต่คนไม่ดีมาเผาป่าข้างนอก ไฟอาจลามมาไหม้บ้านเรา ก็ต้องระวังป้องกันด้วย แต่ร้ายกว่านั้น บางทีคนนอกปลอมแปลง หรือแอบแฝงเข้ามาอยู่ข้างใน แล้วรอจังหวะทำลาย หรือค่อยๆ ทำลายระยะยาว หรือยิ่งกว่านั้น คนในสมคบกับคนนอกทำลายไม่ให้รู้ตัวก็มี

  • ยิ่งกว่านั้น ขณะที่ไฟกำลังไหม้บ้านอยู่ ใครจะบอกว่า คุณอยู่ในบ้านมีหน้าที่ทำครัว ก็ทำกับข้าวต่อไป หรือเธอมีหน้าที่ทำความสะอาด ก็กวาดบ้านถูบ้านไป ไม่ต้องดูแลของ ไม่ต้องดับไฟ อย่างนี้ไม่ถูกแน่ แม้แต่แผ่นกระดานก็จะไม่มีให้เช็ดถู

  • ผมเข้าใจว่า พระเดชพระคุณท่านมีความเป็นกลาง

thank kubb.....คุณ P

ผมก็ว่ามันส์ดีครับ แต่ไม่ใช่มันส์เพราะการถกเถียงหรือวิวาทะกัน แต่มันส์เพราะยิ่งได้ศึกษายิ่งได้ออกกำลังสมอง gotoknow เป็นสนามออกกำลังสมองที่ดีมากๆเลยครับ (^--------^)

ใครรู้สึกอย่างผมบ้างครับ ที่ยิ่งศึกษาพระพุทธศาสนา ยิ่งสนุก บางทีก็นั่งยิ้มคนเดียว.....(เหมือนคนอะไรน้า......)

ยิ่งศึกษา ยิ่งรู้สึกว่าไฟในตัวมันลุกโชน ซึ่งอาจเป็นทั้งการโดนแผดเผาและให้ความสว่างไปในตัว

"ให้ระวังไฟไกล้ตัว" หลวงปู่เคยเตือนไว้แบบนั้นครับ ไฟจะไหม้บ้าน หากช่วยกันเอาน้ำมันมาดับ ก็ให้มันรู้ไป........  

 

ทั้งหมดนี้อาจเป็นข้อดีของ ประเด็นการร่างรัฐธรรมนูญ  ซึ่งอย่างน้อยสุดก็ได้ปลุกกระแสความรักชาติ ศาสนาให้ลุกโชนขึ้นในจิตใจชาวไทย

ซึ่งดีกว่าการรักชาติของคนไทยแบบการโฆษณาของบริษัทเหล้าเบียร์  หรือการรักชาติแบบชั่วครั้งชั่วคราว ทุกครั้งที่ชมภาพยนต์การต่อสู้ของบรรพบุรุษไทยในอดีตแน่นอน

แล้วไฟในตัวคุณละ ลุกโชนอยู่แค่ไหน     

ไม่หยุดจริงๆเว้ย : )

อ่ะ มาต่อแบบหยอดๆละกัน

ขอถาม 2 ข้อ

1. สมมตินะถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านจริง (เพราะนอกจากประเด็นศาสนาประจำชาติแล้วยังมีอีกหลายประเด็นมากที่อาจไม่ผ่าน) แล้วต่อไปนี้ทางลายลักษณ์อักษรเขียนไว้ว่า ประเทศไทยมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ

แล้วแผนทางปฏิบัติจะทำอย่างไรกันต่อไปให้เกิดผลจริงๆ

ตอบก่อนอ่านคำถามข้อ 2 นะ

................................

................................

.................................

2. แผนที่คิดมาเนี่ยะ เราสามารถทำได้ไม๊ ถ้าไม่มีลายลักษณ์อักษรว่า ประเทศไทยมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ

: ) เพราะอย่างที่บอกคือพี่สนับสนุนเต็มที่ พวกโครงการดีๆต่างๆ ไม่เถียง พี่คนนึงหล่ะที่เชื่อเต็มใจว่าโครงการใดก็ตามที่เกิดมาจากชุมชนเอง คิดเอง ทำเอง เพียงแต่รัฐช่วยทางด้านทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือคน โครงการนั้นจะตรงกับบริบทแต่ละพื้นที่ (คือเป็นโครงการ bottom-up) จะทำสำเร็จ มากกว่า โครงการที่รัฐสั่งมา (top-down) เพราะรัฐบาลก็เปลี่ยนเรื่อยๆ

------------------------------------------------------------

เรามาถกกันในวงคนพุทธเถียงกันแบบมีเหตุผลว่าคนพุทธใจกว้่าง ถ้ามีการบัญญัติแล้ว ศาสนาอื่นก็ไม่ต้องกังวล ท่านมีสิทธิ์เหมือนเดิม แต่ถามจริงเถอะ ถ้าเราเป็นเค้าเราจะรู้สึกอย่างไร ถ้ามีคนมาบอกว่า "เชื่อเราเหอะเราขอแค่เนี่ยะ รับรองไม่มีผลกับนาย"

คำถามต่างๆที่เพื่อนร่วมประเทศที่ไม่ได้นับถือพุทธเค้าถามหน่ะ เราตอบเค้าด้วยเหตุผลอื่นที่ฟังขั้นกว่านี้ได้ไม๊ "รอดูไปสิ จริงๆนะ เชื่อเรา ถึงบัญญัติไว้หน่ะดีกับพวกนายซะอีก จริงๆนะ"

พี่ไปอ่าน blog ของสมาชิก gotoknow ชาวมุสลิมบางท่านแล้วพี่เห็นใจเค้านะ ไปอ่าน comment ตามหนังสือพิมพ์ online แล้วเห็นคนคริสต์โดนรุม พี่เศร้าใจอ่ะ เค้าก็รักประเทศไทยไม่น้อยไปกว่าเราเลย 

จากที่เคยอยู่กันสงบๆกลายเป็นมาทะเลาะกันเพราะ คนพุทธขอให้มีลายลักษณ์อักษรไว้ให้อุ่นใจ นี่แค่stepขอเองนะ

พร่ามมานาน....สรุปว่าอยากให้ลองคิดดูว่า

ศัตรูที่แท้จริงคืออะไร 

คือ นิวรณ์ ๕? (สิ่งที่ี่กั้นจิตไม่ให้บรรลุคุณความดี, อกุศลธรรม)

๑. ความต้องการทางร่างกาย วัตถุนิยม (ข้อนี้พี่รู้ว่าน้องเห็นด้วย)

๒. ความขัดเคืองแค้นใจ ความโกรธ

๓. ความหดหู่และเซื่องซึม

๔. ความฟุ้งซ่านและร้อนใจ

๕. ความลังเลสงสัย ไม่เชื่อใจกัน

หรือ

มัจฉริยะ ๕  (ความตระหนี่, ความหวง, ความคิดกีดกันไม่ให้ผู้อื่นได้ดี หรือมีส่วนร่วม)

๑. หวงที่อาศัย 

๒. ตระหนี่ตระกูล, หวงสกุล 

๓. ตระหนี่ลาภ, หวงผลประโยชน์ 

๔. ตระหนี่วรรณะ ไม่พอใจให้ผู้อื่นสวยงาม ก็ดี ไม่อยากให้ใครมีคุณความดีมาแข่งตน หรือไม่พอใจได้ยินคำสรรเสริญคุณความดีของผู้อื่น ก็ดี 

๕. ตระหนี่ธรรม, หวงวิชาความรู้ และคุณพิเศษที่ได้บรรลุ ไม่ยอมสอนไม่ยอมบอกผู้อื่น กลัวเขาจะรู้เทียมเท่าหรือเกินตน

หรือเอาง่ายๆ โลภ โกรธ หลง

แล้วเราเป็นกันซะเองรึเปล่า?

ทางแก้อกุศลกรรมพวกนี้มีหลายวิธี พี่ยินดีที่จะช่วยใครก็ได้ ทั้งพุทธและไม่พุทธ (รวมทั้งช่วยตัวเอง) ให้หลุดจากอกุศลกรรมพวกนี้

สิ่งแรกที่เริ่มได้คือ เป็นห่วงและมีเมตตากับทุกสรรพสิ่งแม้จะเห็นว่าสิ่งที่เค้าทำนั้นผิดคุณธรรม ไม่ใช่ไม่โต้ตอบแต่มาตั้งสติมองให้เห็นปัญหาจริงๆให้แจ้ง ว่าอะไรคืออะไรก่อน แล้วแก้เหตุปัจจัยเป็นข้อๆไป

คนเราชอบหาทางออกที่ง่ายๆ งานนี้ไม่ง่ายหรอก

------------------------------------------------------------ 

พูดจริงๆนะ จะบัญญัติไปพี่ก็ไม่ว่า ตราบใดที่ี่คนไทยที่นับถือศาสนาอื่นเห็นด้วย

แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิ 

พี่แค่รู้สึกว่ามันฟังไม่ขึ้นที่เอาความรักชาติมาอ้าง (รักพุทธหน่ะไม่เถึยง)  

ประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ใช่แค่การฟังเสียงส่วนมาก แต่คือการให้เสียงส่วนน้อยได้มีโอกาสพูดและคนส่วนมากได้ฟัง และให้ความสำคัญกับเสียงเล็กเหล่านั้น คือการอยู่ร่วมกันได้ของคนที่หลากหลายแตกต่าง

------------------------------------------------------------ 

อ.ฝรั่งของพี่คนนึงหล่ะที่เคยชมประเทศไทยมากๆว่าคิดกันได้ไง ว่าให้คนในชาตินับถือศาสนาอะไรก็ได้มาแต่อดีตกาล ให้รัฐกับศาสนาแยกกัน เป็นการตัดสินใจที่ถูกจริงๆ (อ.ชมไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว พี่ก็ปลื้มมาก)

เมื่ออาทิตย์ก่อนพี่นั่งคุยกับอาจารย์กับเพื่อนคนอิหร่านแหละบราซิล  คุยกันเรื่องที่ตุรกีจะบัญญัติให้อิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ   แล้วพี่ก็บอกว่าประเทศไทยก็เหมือนกัน ทั้งอ.ทั้งเพื่อนพี่ถามพร้อมกันด้วยหน้าตาที่ผิิดหวังว่า ""WHY??#$@#!!" "ทำมายยยยยยยยย???"

------------------------------------------------------------

แมนเขียนไว้ว่า ... 

"คือศาสนาอื่นน่ะ เขาใช้กฎหมายต่อรองเอาสิทธิ เอางบประมาณไปเรื่อยๆ ในเวียดนาม และเกาหลีใต้ ศาสนาพุทธสูญสิ้นด้วยการโดนศาสนาอื่นที่มีปริมาณน้อยกว่ามาก
เข้าทางการเมือง บัญญัติให้ศาสนาอื่นเป็นประจำชาติ เมื่อเขาเป็นแล้ว เขาก็ออกกฎหมายห้ามสงฆ์ทำกิจกรรมทางศาสนา"

ถ้ามันเกิดในไทยพี่คนหนึ้งหล่ะที่จะลุกมาประท้วงอย่างสร้างสรรค์

พี่ยืนหยัดว่า ไม่ว่าศาสนาใดก็ตาม ไม่ควรถูกบรรจุเข้าเป็นศาสนาประจำชาติ ควรเป็นสิทธิพื้นฐานส่วนบุคคล

ในขณะเดียวกันคนที่นับถือพุทธควรส่งเสริมพุทธศาสนาในระดับครอบครัว โรงเรียน หมู่บ้าน ที่ทำงาน  ก็ว่ากันไป

คนที่นับถือศาสนาอื่นก็ควรศึกษาศาสนาตนเองให้ลึกซึ้ง

และที่สำคัญทุกคนไม่ว่าศาสนาใดควรใจกว้่างปรับตัวเข้าหากันให้อยู่ร่วมกันได้

พี่แปลหนังสือให้อ่านกันเพราะจะให้เห็นที่มาที่ไปว่าแกนของแต่ละศาสนาคืออะไร แล้วเรามาแบ่งศาสนากันเพราะอะไร

นี่แหละสิ่งที่พี่ตัดสินในทำเพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่ ที่ทำได้โดยไม่ต้องรอรัฐมาตีกรอบให้ 

จบดีกว่า นี่ไม่คิดจะเขียนยาวเลยนะเนี่ยะ -_-' 

คราวนี้คิดว่าเคลียร์ละ : ) จบแล้วจริงๆ แต่จะมาตามอ่านและจะมาต่อในการช่วยกันคิด action plan ว่าจะทำอย่างไรต่อไปให้คนไทยลดวัตถุนิยม แต่จะไม่ต่อเรื่องรัฐธรรมนูญแล้วนะ ok? : ) พี่ว่ามันสำคัญกว่า 

------------------------------------------------------------

ปล. โรงเรียนที่พี่เรียนมาทั้งนั่งสมาธิทั้งสวดมนต์นะ เรื่องพวกนี้เลิกรอรัฐสั่งได้แล้ว มันไม่ได้ใช้งบอะไรมากมายเลย นอกจากเรียนมุมมองพุธแล้ว ที่ทำงานพี่ ที่มธ. มีการเชิญวิทยากรจาก 3 ศาสนาหลักมานั่งคุยกันเรื่องจิตวิญญาณด้วยนะ เพราะ ความหมายของสุขภาพของ World Health Org. รวมจิตวิญญาณไว้ด้วย spiritual ไม่เหมือน religious นะ : )

  • อิอิ ดูท่าบันทึกนี้จะร้อน
  • ขอฝากรอยไว้ก่อน
  • อ่านเสร็จแล้วค่อยมาช่วยเพิ่มความร้อน(หรือความเย็น) ครับ

'(^-------------^)'  Djai ที่พี่-อาจารย์มัทกลับมา พร้อมกับไฟในตัว

คือศาสนาอื่นน่ะ เขาใช้กฎหมายต่อรองเอาสิทธิ เอางบประมาณไปเรื่อยๆ ในเวียดนาม และเกาหลีใต้ ศาสนาพุทธสูญสิ้นด้วยการโดนศาสนาอื่นที่มีปริมาณน้อยกว่ามาก
เข้าทางการเมือง บัญญัติให้ศาสนาอื่นเป็นประจำชาติ เมื่อเขาเป็นแล้ว เขาก็ออกกฎหมายห้ามสงฆ์ทำกิจกรรมทางศาสนา"

บทเรียนในอดีต ซึ่งอาจต่างสถานะและสิ่งแวดล้อมกับประเทศเรา แต่การประท้วงแบบสร้างสรรค์แบบที่เคยเป็นตอนสมัยขับไล่อดีตนายก มันไม่โชคดีแบบนั้นเสมอไป เหตุการณ์ไม่คาดคิดจากมือที่สาม อาจจะทำให้การประท้วงแบบสร้างสรรค์กลายเป็นจุดประทุของสิ่งที่ไม่สรางสรรค์  นั่นคือเรื่องใหญ่

คนในชาตินับถือศาสนาอะไรก็ได้มาแต่อดีตกาล สิ่งนั้นก็ยังคงอยู่ไม่ว่าจะเขียนอะไรลงในกระดาษหรือไม่...

นอกจากปาฎิหาริย์แล้ว......เราต้องการปืน...ปืนจำนวนมาก  

สิ่งที่พี่-อาจารย์มัทถามคือปืนที่เราค้นหา gun of peace

แม้จะไม่ใช่ปืนใหญ่ แต่ถ้าเจอจ่อๆแบบนี้ ต่อให้mr.สมิธก็หลบไม่พ้น  (^ ----- ^)

ขนทุกอย่าง เค้นทุกสิ่งที่เรามี สรรค์สร้างเป็นอาวุธที่จะนำเราเดินไปสู่เป้าหมาย  เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กดังนั้นเราต้องใช้ปืนทุกกระบอกที่มีอยู่และรวมถึงปืนใหญ่ด้วย

wow a big gun...

Buddhism Today: Many people today say that they especially like Buddhism because of its emphasis on peace. They understand it as expressed by teachers like Dalai Lama or Thich Nhat Hanh. Does a Buddhist teacher have to be a pacifist?

Lama Ole Nydahl: No, although the feeling of anger must definitely be out. At least to a Great Way Buddhist, there are causes worth protecting and fighting for. It is a question of emotional economy and common sense. Thomas Jefferson put it somewhat like this, "I learned the art of war so my children can farm and their children can study philosophy." Of course I share the above mentioned great teachers' wish to see a world where mildness is appropriate anywhere. In all honesty, however, I think they are wrong and that preaching a harmony, which only exists at religious meetings is misleading. I see great dangers in and around our soft and spoiled democratic countries. Islam and over-population often hand in hand, move ever closer, and if there is no willingness and foresight to protect our values, we will fall like earlier high cultures. This would be a vast step backward for humanity and is also unnecessary if decisive steps are taken now. By the way, if the Tibetan army had functioned, the Dalai Lama would certainly not have yielded to the Chinese aggressors. The weak parties are always for peace, at least until they can arm or re-arm. But peace without freedom is a jail for a German and a morgue for a Dane. For Americans it was often the reason to get on a ship or a covered wagon. There were never more posters for peace than earlier behind the Iron Curtain, with fat pigeons everywhere in the uniform gray-blue color of socialism.
— Keeping Buddhism Alive

เรื่องที่ใหญ่เกินตัวแต่ไม่ใหญ่เกินใจ ปล่อยให้คนตัวใหญ่จัดการกันเถอะครับ เราแค่เฝ้าดูอย่างไกล้ชิดก็พอ(อาจจะ)

เห็นด้วยกับพี่-อาจารย์มัทครับ เรามาช่วยกันสร้าง concept idear ก่อนร่วมกันคิด action plan กันเถอะครับ  

เราคงต้องดำเนินการเชิงรุก หากมัวรอแต่การขีดกรอบ รอแต่เจ้าหน้าที่รัฐออกนโยบายคงจะไม่รอไม่ไหวครับ

เราก็ต่างรักพุทธศาสนา ซึ่งก็แสดงว่าเป็นคนที่มีพระในใจ พระยุคใหม่ต้องเผยแพร่ศาสนาให้เหมือนตอน2550ปีที่แล้ว ตอนเริ่มก่อตั้งศาสนาครับ ^^

  • พระยุคใหม่พร้อมไฟในตัว

 

 

Trinity: Neo, no one has ever done anything like this.
Neo: That's why it's going to work.

หาน้อยนักที่จะมีธุรกิจที่กำเนิดเพื่อสังคม มีแต่ธุรกิจที่ทำเพื่อสังคมแบบบังหน้า หรือสร้างภาพ

หากสามารถรวมกลุ่มหรือก่อตั้งเป็นสมาคมจะเป็นการรวมพลังที่เป็นกลุ่มก้อนที่ยิ่งใหญ่ได้ ถ้ายังไงช่วยยำใหญ่ไอเดียให้ได้รสเด็ดแบบเล็กพริกขี้หนูด้วยนะครับ ท่านไหนมีไอเดียอะไรดีๆช่วยกันคิดช่วยกันแสดงความเห็นนะครับ

ทำอย่างไรให้เงินภาษีจากเหล้าบุหรี่ และหวยถูกใช้เพื่อการหยุดเหล้าหยุดบุหรี่หยุดหวยโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นวิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง

มิเช่นนั้นแล้วจะไปบ่งตรงที่ไม่ได้ถูกตำ ต่อให้รณรงค์ให้ตายก็ยากจะลดปัญหาได้

ใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์สัจธรรมในศาสนาพุทธ ของดีต้องสื่อดีให้เห็นและให้เป็นที่ยอมรับเช่น dr.masaru

อยากให้มีกระทรวงพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทย ขึ้นโดยเฉพาะ(ซึ่งถูกดองมาตั้งสองปีแล้ว แล้วก็เอาบริษัทเหล้าเบียร์ออกมารณรงค์เรื่องความเป็นไทย เรื่องความรักชาติ) และมีศูนย์วิจัยด้านพุทธศาสตร์ เอาจริงเอาจังกับงานวิจัยที่ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น สวทช. ที่มีทั้ง Nectec Mtect และ Biotect แต่ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับรัฐธรรมนูญ และงบประมาณสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาล

 พระพุทธศาสนามีความพิเศษที่ขนาด ไอสไตน์ยังยอมรับว่าเป็นศาสนาวิมยาศาสตร์ เรามีของดีอยู่กับตัวแล้ว แค่ทำให้โลกเห็น เผยแพร่ความจริงให้โลกรู้ โดยไม่จำเป็นต้องไป convert ใครหรือขยายอนาจักรศาสนาใดๆ

  • concept idear เศรษฐจริยธรรม
  • เท่าที่คลุกวงใน คลุกวงนอกอยู่กับการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ SMEs ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ในจำนวนผูประกอบการใหม่ 1 ห้องเรียน จะมีคนที่ต้องการทำธุรกิจที่ทำเพื่อสังคม ประมาณ 3-4 คน หากเราจัดให้มีพื้นที่ เช่นสมาคมที่รวบรวมกลุ่มธุรกิจสายพันธ์ใหม่เล่านี้ รวมถึงกำหนดเส้นทางหรือนโยบายให้ชัดเจน จะเป็นการดียิ่งที่จะแสดงให้สังคมเห็น และโน้มน้าวให้ผู้ประกอบการที่มีลักษณะความคิดเช่นเดียวกัน เข้าร่วมเป็นสมาคมหรือชมรม

    และพลังเพื่อสังคมจะได้รวมกันเป็นเครือข่ายและกลุ่มก้อน เป็น D-economic

    เศรษฐจริยธรรม แบ่งเป็น

    1. กลุ่มผู้ประกอบการที่มีการบริจาคเพื่อสังคมและองค์กรสาธารณะประโยชน์ (อาจจะต้องมีสิทธิพิเศษทางภาษีที่พิเศษกว่าปกติเพื่อกระตุ้น)

    2.กลุ่มผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภคอย่างจริงจัง (ระหว่างให้ iso หรือกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่บังคับให้ทำ กับทำเองโดยความตั้งใจจะทำจากใจจริง อย่างไหนจะทำได้ดีกว่ากัน )

    3. กลุ่มผู้ประกอบการที่มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจที่เด่นชัด มีกระบวนการด้านคุณธรรมที่เด่นชัดในการดำเนินธุรกิจ

    4.กลุ่มผู้ประกอบการที่ดำเนินธรกิจด้านคุณธรรมโดยเฉพาะ เช่นผู้ผลิตสื่อคุณธรรม สื่อสีขาว ในด้านmultimedia มีนักศึกษาที่มีพลังด้านนี้เยอะมาก แค่อาจจะยังขาดเวที หรือกระบวนการทางธุรกิจที่เข้าไปสนับสนุนอย่างจริงจัง

    ส่วนใหญ่ นักสร้างสรรค์หรือนักประดิษฐ์ จะไม่รวมนักธุรกิจอยู่ด้วยในคนเดียวกัน ---->สมองถูกออกแบบให้เป็นเช่นนั้น เพราะเดี่ยวจะรวยกันหมด :)

  • concept idear ยุทธการขอดเกล็ดมังกร
  •  ยังขยายความคิดไม่ออก เพราะมองภาพเรื่องเศรษฐกิจการเมืองระดับมหาภาคไม่ออก แต่เท่าที่รู้แน่ๆคือ ประเทศชาติไม่ฉิบหายล่มจมแน่ ถ้าไม่ได้เงินภาษีหรือเงินสกปรกพวกนี้มาพัฒนาประเทศ

    จุดหมายของหวยบนดิน หรือสลากก็คือต้องการระดมทุน มีแรงจูงใจให้คนนำเงินมาพัฒนาสังคม หากมีจุดหมายเดียวกัน แค่เราเปลี่ยนวิธีการ เราก็จะมีเงินที่นำมาใช้ในส่วนนี้แน่นอน

    • concept idear การเลิกเหล้าเลิกบุหรี่และการพนันในลักษณะที่สามารถกระทำได้ผลในวงกว้าง
    • concept idear การเผยแพร่ธรรมะในเชิงรุก
    • concept idear การขจัดคอรัปชั่น
    • concept idear การเยียวยาผู้ต้องขัง

    รู้สึกว่า หากคิดมากกว่านี้จะกลายเป็นฟุ้งซ่านไป เคยเสนอโครงการด้านคุณธรรมเหล่านี้ไปยังศูนย์คุณธรรม www.moralcenter.or.th ซึ่งได้รับการพิจารณาในเบื้องต้น แต่ติดปัญหาบางประการเช่น จะต้องมีมูลนิธีหรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรมาบริหารจัดการเรื่องเงินทุน  รวมถึงขาดทีมงานทำงาน และไม่เคยมีประสบการทำโครงการจริงมาก่อน แผนเหล่านั้นจึงต้องพักไว้ชั่วคราว

    i need more gun..............

    concept idear การเผยแพร่ธรรมะในเชิงรุก

    โครงงานเสียงอ่านหนังสือสร้างสุข

    เนื้อหาหลักๆของโครงงาน

    • จัดรายการธรรมะบนรถเมล์ขสมก.
    • จัดรายการ นิทานธรรมะก่อนนอนในเครือข่ายวิทยุกระจายเสียง หลังข่าวประจำชั่วโมง  

    การขยายเนื้อหาโครงงาน

    โครงงานนี้เน้นการสอนสร้างเสียงอ่านหนังสือธรรมะและสื่อคุณธรรม โดยเน้นการสอนให้เยาวชนสามารถสร้างสื่อคุณภาพ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์บุคคลและโปรแกรมตัดต่อบันทึกเสียง สามารถdownload รับฟัง เสียงอ่านของโครงงานได้ที่ นิทานประกอบเพลง

    โครงงานนี้จำเป็นต้องพักไว้ชั่วคราวเนื่องจากขาดทีมงานดำเนินงาน และเหตผลข้างต้น

    ตอนนี้อยากได้ทีมงานดำเนินงานมากครับ เพราะหาคนที่ทำงานด้านนี้ได้ยากจริงๆ

    concept idear การเผยแพร่ธรรมะในเชิงรุก

    เนื่องจากได้ไกล้ชิดกับโรงเรียนวิถีพุทธพอสมควร จึงอยากจะผลักดันให้ มีการเรียนการสอนวิถีพุทธเกิดขึ้นในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และโรงเรียนเตรียมทหารด้วย เนื่องจากบุคลากรเหล่านี้ในอนาคตจะเป็นใหญ่เป็นโต ได้มีโอกาศบริหารบ้านเมือง หรือมีอิทธิพลด้านการเมืองการทหารที่ชัดเจน

    โรงเรียนวิถีพุทธ

    รุ่งอรุณแห่งแสงธรรม

    จิตอาสาระดับครัวเรือน

    วีดีโอ โรงเรียนบ้านแม่จ้อง

    เบรกข่าว
    • 16.00น.  ค.ร.ม. อนุมัติ ให้บรรจุจตุคามไว้ในรัฐธรรมนูญ
    • เทพจตุคามบ่น คนไทย65ล้านห้อยจตุคามซะคนละ 20 เหรียญ ไม่มีเวลาไปดูแลได้ครบทุกคน
    • เช้าของวันอาทิตย์ ตำรวจสน.แย้ดงได้รับแจ้งว่ามีคนคอหักตาย จึงได้รุดไปที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า พบศพปู้ทิด นอนตายอยู่ข้างทาง จากการสันนิษฐาน น่าจะมาจากการห้อยจตุคามที่มากเกินขนาด
    • ครม.จึงได้ผลักดันกฎหมายแกมบังคับให้ กล่องจตุคามที่วางขายเกลื่อนเซนเว่น  ให้เขียนคำเตือนไว้ข้างกล่อง

    อย่าห้อยมากเกินวันละ2ครั้ง เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรห้อยเกิน1องค์ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนห้อย

     

    เบรกข่าว

    • หลังจากมีการบรรจุจตุคามไว้ในรัดธรรมนูญ นายกรัฐมนโท ได้แต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเวทย์มนต์ ตามอย่างแฮรี่พอตเตอร์ เพื่อดูแลผลประโยชน์ด้านเครื่องลางของขลังโดยเฉพาะ
    • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเวทย์มนต์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อสื่อมวลชนในเย็นวันนี้ว่า ประเทศเราจะไม่ยากจนอีกต่อไป เราจะส่งเสริมจตุคามเพื่อการส่งออกอย่างจริงจัง เพื่อนำเงินตราเข้าประเทศ   

     

    หายไปไหนกันหมดนะ ปล่อยให้ผมฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว '(^-------------^)'

    คุณP

    ก็หาย  

    พี่-อาจารย์มัท P

    ก็หาย 

    คุณ P

    ก็หาย

    ไหนว่าจาช่วยระดมสมองกันอะคับ - - ''

     

    Jokes With Albert Einstein - Part 1

    อย่าลืมอารมณ์ขันแบบไอสไตน์ และ"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"

    ตลกร้ายรายวัน

    • สหประชาชาติออกมาประกาศว่า โลกเราจะสงบสุขเพราะอิทธิฤทธิ์และปาฎิหารย์ ฝรั่งต่างแห่กันมากว้านซื้อจตุคามไปหลายสิบตันเพื่อเป็นเครื่องป้องกันหัวรบนิวเคลียร์
    • รัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์ได้ทำพิธีเสกหนังหมูหนังแพะเข้าท้องผู้ก่อการร้าย หวังให้ภาคใต้สุขสงบ

      Tank: So what do you need? Besides a miracle.
      Neo: Guns. Lots of guns.

    สิ่งศักสิทธ์นั้นมีและดีจริง แต่คนหรือกลุ่มชนที่แสวงหาผลประโยชน์ไม่ดีจริง

    มาแล้ว.....

    หลายๆไอเดียก็โอเคนะ แต่พี่ว่าเรามาแยกเป็นบันทึกย่อยๆดีไม๊

    จะได้เจาะกันไปเลยว่า แต่ละไอเดียจะทำให้เป็นจริงได้อย่างไร มีอะไรเป็นองค์ประกอบ มีอุปสรรค หรือ ตัวช่วยอะไรบ้าง จะเข้าทางไหน เมื่อไหร่  จะเจาะจงระดับบุคคล ชุมชน หรือ ประเทศ

    บันทึกละไอเดียดีไม๊? 

    แล้วฉันจะตามไป! 

    เชิญเพื่อนๆพี่ๆ ชาว G2K ร่วมระดมความคิดและสรรค์สร้างไอเดียร์ครับ

    http://gotoknow.org/blog/forEarth

    ตลกร้ายรายวัน

    • ผู้ก่อการร้าย ได้เปลี่ยนกลยุทธ์มาวางระเบิด โรงงานผลิตสุรา แทนการวางระเบิดถังขยะ ตู้โทรศัพท์ หรือเผาโรงเรียนแร้วครับ นับเป็นข่าวร้ายถึงร้ายมากที่สุดแห่งปี
    • โจรใต้ออกมาประกาศว่าจะไล่เหี้...ออกจากประเทศ
    • CNNได้ถ่ายทอดภาพวีดีโอไปทั่วโลก ทำให้ประเทศไทยโด่งดังยิ่งกว่าเหตุการณ์ 911
    • นายกรัฐมนโท ออกมาประกาศว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้ ฐานทำให้ประเทศชาติฉิ...หาย เพราะสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษี 
    • ประชาชนต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอาการลงแดงที่ไม่ได้ดื่มสุรา

    Jokes With Albert Einstein - Part 1

     

     "รายการเรื่องเล่าเช้านี้"

    ฝรั่งมองคนไทยมีนิสัยเฉพาะที่บั่นทอนตนเองและสังคม

    คนไทย กับ "นิสัย 5 ขี้..."

    มีผลสำรวจมุมมองของชาวต่างชาติ (จำได้ว่าประเทศฝั่งยุโรป) ที่มีต่อคนไทย

    ในเรื่องของนิสัยของคนไทยส่วนใหญ่ ที่ไม่ค่อยปรากฎในประเทศอื่น "5 ขี้" ดังนี้


    1. ขี้เกียจ
    2. ขี้โอ่ (อันนี้น่าจะรวมไปถึง ขี้โม้ ขี้คุย ขี้อวด ขี้อ้าง เอาหน้า)
    3. ขี้อิจฉา
    4. ขี้โกง
    5. ขี้ฟ้อง

     

    เมืองไทยในสายตาต่างชาติ = สวรรค์ของแหล่งพี้ยาและการค้ากาม

    ประเทศที่มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ? มีศีลห้าระบุไว้ในศาสนา แต่คนไทยกลับดื่มเหล้าเป็นอันดับ ห้า ของโลก หลายๆอย่างติดอันดับโลก เลวระดับโลก

    ประการแรก เราต้องหันมายอมรับความจริง

    หากไม่ยอมรับความจริงข้อนี้ ก็เหมือนกับคนที่หลอกตัวเอง ที่ไม่กล้าเปิดใจยอมรับผิด พอชาวต่างชาติพูดว่าเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านโสเภณีและยาเสพติดฯลฯ  เราก็โกรธกันเป็นฟืนเป็นไฟ

    หากไม่ยอมรับความจริงแล้ว จะแก้ปัญหาตามที่มันเกิดตามจริงได้อย่างไร

    เรายังไม่ดีจริง แล้วเราจะบอกกับชาวโลกอย่างไรว่า ศาสนาพุทธดี เราต้องทำดีให้เขาเห็นก่อน เขาจึงจะยอมรับหรือเอาอย่าง

    นี่หรือเมืองพุทธ?

    นี่คือความจริงที่เราต้องยอมรับ หากคิดว่าไม่จริงหรือเป็นการกล่าวเท็จกรุณาชี้แนะ ตักเตือนครับ
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท