วันนี้นึกขำตัวเองไม่หาย..ขำที่ต้องจัดการกับเวลาอันน้อยนิดอย่างแสนเข็ญ อันเนื่องจากหลังทานมื้อเที่ยงเสร็จผมก็ต้องเดินทางไปราชการเร่งด่วนในเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เริ่มจากการไปอำเภอวาปีปทุม จากนั้นก็ต่อเนื่องไปยังอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย....(กลับมาถึงที่พักก็ล่วงเข้า 5 ทุ่มเศษ)...
วันนี้ผมได้รับมอบหมายจากท่านรองอธิการบดีฯ ให้เดินทางไปเป็นผู้แทนฝ่ายพัฒนานิสิต เพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ "ดงเห็ดคัพ ครั้งที่ 1" ที่ทีมของมหาวิทยาลัยผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับทีม "SPJ STUDIO"
นานมาแล้วที่ผมไม่มีโอกาสเดินทางมาเยือนพื้นที่ชุมชนเหล่านี้..จึงได้หวนรำลึกถึงห้วงยามที่เคยเป็นผู้นำนิสิตเมื่อปี 2538 ซึ่งได้เป็นแกนนำในการรวมตัวกับนิสิตนักศึกษา 8 สถาบันในจังหวัดมหาสารคามขับเคลื่อนการอนุรักษ์และปกป้อง "ป่าโคกใหญ่" ในเขตพื้นที่อำเภอวาปีปทุม และก้าวไปสู่การร้องขอจดทะเบียน "ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดมหาสารคาม" โดยผมได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการชมรม
ป่าโคกใหญ่..ในยุคนั้นเป็นพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกแผ้วถางจนโล่งเตียน..เคยอุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด มีพื้นที่กว่า 4,000 ไร่และครอบคลุมพื้นที่หลายตำบลในเขตจังหวัดมหาสารคาม
ป่าโคกใหญ่ เป็น "ป่าชุมชน" หรือป่าสาธารณประโยชน์ที่ประกอบขึ้นด้วย "ป่าโคก" ต่าง ๆ อาทิ โคกแปะ โคกดอนหัน โคกดุงใหญ่ โคกป่าผีหลอก ซึ่งพื้นดินในป่าเป็นดินทราย บางแห่งก็เป็นกรวดลูกรัง....
ในยุคนั้นป่าโคกใหญ่ถือเป็นพื้นที่ป่าผืนสุดท้ายของชาวมหาสารคามที่เหลืออยู่ ผู้นำชุมชนบางท่าน (ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อ) ต่อสู้เพื่อการอนุรักษ์อย่างเดียวดายและเจ็บปวด...เดินขึ้นโรงขึ้นศาลอย่างเหนื่อยอ่อน กระทั่งต่อมาไม่นานผู้คนก็เริ่มหันเหมาสนใจและก่อเกิดปรากฏการณ์วิพากษ์ถึงแนวทางการอนุรักษ์อย่างชัดเจนขึ้น
ผมนำทีมนิสิตนักศึกษาขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เราไปกินนอนในป่าโคกใหญ่ จัดกิจกรรมรณรงค์ร่วมกับชุมชน รวมถึงการพานิสิตใหม่ของมหาวิทยาลัยไปปลูกป่าในพื้นที่ป่าโคกใหญ่...
ป่าโคกใหญ่..เป็นยิ่งกว่า "ซุปเปอร์มาเก็ต" ของชาวบ้าน...ภายในป่ามีอาหารหลากชนิด ทั้งที่เป็นพืชผัก สมุนไพร แมง - แมลง และสัตว์ต่าง ๆ หรือเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายก็คือ "เห็ด" นั่นเอง
ทุกวันนี้ผมยังติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวในวิถีป่าและการอนุรักษ์ป่าโคกใหญ่อยู่บ้าง...รับรู้แต่เพียงว่าป่าโคกใหญ่ยังคงเผชิญกับปัญหาการบุกรุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง และการอนุรักษ์ที่ก่อตัวขึ้นก็ยังไม่ทรงพลังพอที่จะปกป้องผืนป่าผืนสุดท้ายของชาวมหาสารคามได้อย่างที่ควรจะเป็น
การไปเยือนชุมชนแห่งนี้จึงยิ่งชวนให้ผมบ่นรำพึงกับตนเองเกี่ยวกับภาพและเรื่องราวของป่าโคกใหญ่ในอดีต รวมถึงสภาวการณ์อันเป็นลมหายใจของป่าในวันนี้....
และยิ่งได้มาอยู่ในบริบทพื้นที่ดังกล่าวในบรรยากาศของ "ดงเห็ดคัพ" ยิ่งสะกิดให้ความคิดของผมเตลิดไปไกลอย่างน่าชัง !....
ผมรำพึงกับตนเองหลายอย่างว่าการจัดฟุตบอลแม็ตซ์ใหญ่เช่นนี้เป็นแต่เพียงการสนองกิเลสของ "คอฟุตบอล" เท่านั้น เสียดายที่ไม่มีการนำกีฬาไปเป็น "สื่อ" ในการรณรงค์การอนุรักษ์ป่าโคกใหญ่...ทั้ง ๆ ที่ชื่อของการแข่งขันก็คือ "ดงเห็ด" (คัพ) ก็มีความเกี่ยวเนื่องและเกี่ยวพันกับป่าโคกใหญ่อย่างสนิทแน่น....
ผมเห็นกีฬาประสานมือกับยาเสพติด...แต่ยังไม่เห็นกีฬาประสานใจกับสิ่งแวดล้อมเลย.....
....
ในระหว่างการแข่งขันผมพูดคุยกับนิสิตและคณะสต๊าฟในเรื่องราว "ป่าโคกใหญ่" เพื่อหวังให้เขาได้มีความรู้เกี่ยวกับพื้นที่แห่งนี้..พื้นที่ที่เขากำลังเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโดยมีเงินรางวัลก้อนโตโชว์เด่นอยู่เบื้องหน้า...อย่างน้อยก็ขอให้เขารู้แต่เพียงสั้น ๆ เท่านั้นก็พอว่า "ที่นี่...คือพื้นที่ป่าผืนสุดท้ายของชาวมหาสารคาม" ...
ผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของมหาวิทยาลัยมหาสารคามด้วยสกอร์ 2 : O พร้อมทั้งคว้ารางวัลดาวซัลโวและรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมมาครองอย่างน่าภาคภูมิใจ..
ผมไม่ได้เดินทางกลับมหาวิทยาลัยร่วมกับนิสิต แต่มุ่งหน้าไปยังบ้านเม็กดำ อ.พยัคฆภูมิพิสัย...
ตลอดเส้นทางคิดในใจเสมอว่า จะชวน " ชมรมฟุตบอล" มาจัดกิจกรรมกีฬาพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่นี่สักครั้ง....
แต่ก็ช่างเถอะครับ...นั่นยังอีกยาวไกล มาทายให้สนุกกันดีกว่าว่า ภาพสองภาพนี้ ภาพใดเป็นภาพที่ยิงเข้าประตูกันบ้าง...
การประสานกีฬาซึ่งมีมิติวิธีคิดแบบแยกส่วนและปัจเจกนิยม กับขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมของภาคประชาชนซึ่งเป็นมิติการมีส่วนร่วมเป็นไปได้ยาก
แต่เป็นไปได้และมีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้วครับในต่างประเทศ เพียงแต่ผู้จัดกับผู้มารณรงค์มักเป็นคนละพวกกัน คือผู้รณรงค์มาอาศัยจังหวะของการจัดกัฬา หรือมหกรรม มหรสพต่างๆ ในการแสดงตัวตน และพลังทางสังคมของพวกเขาต่อสาธารณะ บางทีเจ้าของงานเขาก็ให้ร่วม แต่ส่วนใหญ่จะถูกกีดกัน ขับไล่ หนักหน่อยก็เอาตำรวจมาจับ มาตีหัว หาว่าทำให้สังคมเดือดร้อน เฮ้อ!!
พูดง่ายๆคือกลุ่มคนที่เดือดร้อนเขามารวมตัวกันมาหาพื้นที่สื่อสารกับสังคมในวงกว้าง ซึ่งนับวันจะถูกกีดกันไปจากสื่อมวลชนบ้านเราที่มักทำให้เรื่องหนักๆกลายเป็นเรื่องเบาๆ
ดู ข่าวข้น ข่าวเข้ม ข่าวสรุปอะไรต่อมิอะไร ผมเห็นแล้วก็หน่ายๆ มันไม่เข้มเลย แต่กลับทำให้ประเด็นที่ควรจะเข้ม ควรจะมีพลัง กลับกร่อยลงไปอย่างสนิทใจ(อดแขวะไม่ได้ครับ)
สถานการณ์ความค้นแค้นในประเทศของเราไม่เคยเหือดหาย คนยากจนต้องการพื้นที่อย่างนี้ให้แสดงตัวตนและเคลื่อนไหวนะครับ
แต่ต้องทำออกมาให้ "โดนใจ" กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งน่าจะเป็นชนชั้นกลางให้ร่วมเคลื่อนขบวนไปด้วยกันจึงจะสัมฤทธิ์
การหลอมหลวมเอาทั้งเรื่องกีฬา และปัญหาสังคมมาทำงานด้วยกันจึงไม่ใช่เรื่องเปลือกๆนะครับ ผมคิดว่า ต้องคิดให้คม ชัด ลึก กว้าง ยาว และตามติดต่อเนื่องได้
ถ้าคุณกล้าที่จะคิด ก็จะมีคนกล้าที่จะทำ ผมว่างานนี้ท้าทาย และเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้อะไรมากกว่าที่เราคิดครับ
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ยกให้เป็นคนเหล็กเลยค่ะ วันหยุดก็ไม่ได้พัก แต่ทำไปเถอะค่ะถ้าทำให้เราสุขใจ และดีใจที่ได้ทำ กีฬา ๆ เป็นยาวิเศษเราสามารถเชื่อมโยงให้เข้ากับทุกสถานการณ์ได้
ตามมารดน้ำดำหัวขอพรผ่านบล๊อกค่ะ สุขสันต์วันสงกรานต์ และวันครอบครัว แหมวันนี้เข้ามาในบล๊อกครอบครัวตัวอย่างรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง มีความสุขกาย สบายใจตลอดไปนะค่ะ สำหรับทุก ๆ คนในบ้านคุณแผ่นดินเลยค่ะ
ตามมารดน้ำค่ะ วันนั้นที่บ้านครูบาไม่ได้รดน้ำคุณแผ่นดิน มีความสุขมากๆนะค่ะ
ขอบคุณ, ในคำข้อสังเกตและมุมมองความคิดที่ คม ชัด ลึก กว้าง ยาว และเป็นรูปธรรม...สังคมยังคงมีช่องว่างระหว่างวิธีคิดของคนพื้นถิ่นและคนชั้นกลาง การพัฒนาหลายเรื่องจึงล้มเหลว หรือตอบสนองความต้องการได้อย่างไม่ตรงประเด็นนัก
ผมมองว่า - ไม่ว่าเรื่องใดก็แล้วแต่ขอให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของในการขับเคลื่อนก็น่าจะง่ายต่อการต่อยอดนั้น ๆ...เราประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างเป็นวาทกรรมสวยหรู แต่รู้สึกจะยังไม่มีการประกาศสงครามกับการทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม...
ในส่วนของผมก็ยังจะเดินทางโดยมีกิจกรรมเป็นสื่อกลางของการขับเคลื่อนต่อไปเท่าที่แรงพอมีและพอจะทำได้...
ขอบคุณครับ
วันใดที่ไม่ได้ทำงาน นอนตีลังกาอยู่บ้านพักจะรู้สึกเปลี่ยว ๆ เหงา ๆ เป็นที่สุด...เช่นเดียวกับเทศกาลสงกรานต์ที่ได้หยุดพักเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีก็รู้สึกวูบไหวอยู่บ้าง หลังจากเคยชินแต่กับการทำงานในเทศกาลเหล่านี้....หอบหิ้ว ลูกๆ อยู่ตามเต็นท์บริการที่พักริมทาง...และลูก ๆ ก็สนุกไปกับงานของเราเหมือนกัน
ปีนี้โชคดีครับ...มีวันหยุดให้สัญจรไปตามที่ต่าง ๆ ได้พบเห็นและสัมผัสกับหลายเรื่องที่เราห่างเหินมานาน
ขอให้อาจารย์มีความสุขมาก ๆ นะครับ...เสมอไปและตลอดไป....
ขอบพระคุณครับ
เช่นกันนะครับ...ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขเสมอไปและขอให้ชีวิตเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตตลอดไป
ขอบพระคุณครับ...
สวัสดีทุกท่าน การร่วมมือร่วมใจเพียงแค่ท่านเริ่มต้นก่อนใคร ๆ ก็จะทำให้ประเทศไทยคงอยู่ได้อีกนาน