ค่ายสายธารปัญญาชน 50 เป็นค่ายอีกค่ายหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าค่ายอื่น ๆ ที่นิสิตของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้สัญจรออกไปจัดกิจกรรมนอกสถานที่ในห้วงระยะเวลาการปิดภาคเรียนอันน้อยนิด โดยครั้งนี้กลุ่มนิสิตพรรคพลังสังคม จัดกิจกรรมนี้ขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 22 มีนาคม 2550 ณ โรงเรียนบ้านหนองถั่วแปบ ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ผมได้รับมอบหมายจากท่านรองอธิการบดีฯ ให้เป็น “ผู้แทนมหาวิทยาลัย” ทำหน้าที่เป็นประธานส่งมอบค่ายครั้งนี้ โดยออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยเมื่อเวลาประมาณ 05.00 นาฬิกาและกว่าจะถึงที่หมายก็ล่วงเข้าเวลาประมาณ 09.00 นาฬิกา แต่ก็เป็นเวลาของการนัดหมายพอดิบพอดี ! ไม่ขาดและไม่เกิน !
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ปีนี้, ค่ายสายธารปัญญาชน 50 ดูแตกต่างไปจากทุกปีไม่ใช่น้อย เนื่องจากประวัติศาสตร์การทำค่ายของ “พรรคพลังสังคม” ส่วนใหญ่มักวนเวียนอยู่กับการสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์ แต่ครั้งนี้กลับหันหัวเรือไปสู่การสร้าง “ห้องสมุด” ขนาด 6 x 8 เมตร พร้อมด้วยกิจกรรมบูรณาการที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าค่ายอื่น ๆ เช่น การรณรงค์ให้ความรู้เรื่องสิทธิเด็ก กฎหมายจราจร รวมถึงกิจกรรม “ครูอาสาสัญจร” ที่มุ่งสอนพิเศษให้กับนักเรียนในวิชาศึกษาทั่วไป หรือด้านความสามารถทั่วไป ตลอดจนการ ปรับปรุงสนามเด็กเล่น มอบอุปกรณ์การเรียนการสอน ทุนการศึกษา และเสื้อผ้า เป็นต้น</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">โดยส่วนตัวผมสังเกตและเฝ้ามองโครงการนี้มาเป็นระยะ ๆ เริ่มตั้งแต่การสอบถามไล่เรียงเกี่ยวกับงบประมาณและรูปแบบ เพราะผมรู้ว่าปีนี้พรรคพลังสังคมไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนการจัดกิจกรรมจากองค์กรภายนอกเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ลำพังงบประมาณที่มหาวิทยาลัยจัดสรร ผนวกกับที่ระดม “ฉายหนัง” เพื่อหาเงินมาทำค่ายรอบแล้วรอบเล่าก็ไม่เพียงพอต่อการออกค่ายครั้งนี้เป็นแน่</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมพยายามถี่ครั้งในการป้อนข้อมูลเรื่องแหล่งทุนให้กับแกนนำของพรรค แต่ก็ดูเหมือนความพยายามดังกล่าวไม่เกิดผลดังใจคิด กระทั่งได้รับรู้ว่าพวกเขาทั้งหลายไม่ลดความพยายามที่จะมุ่งมั่นเดินหน้าไปสู่การ “ออกค่าย” ครั้งนี้อย่างไม่สะทกสะท้าน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมชื่นชมในหัวจิตหัวใจอันกล้าแกร่งของพวกเขาเป็นยิ่งนัก… ชื่นชมเพราะรู้ว่าพวกเขาได้แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของการทำงานเพื่อสังคมอย่างไม่แยแสต่ออุปสรรคเรื่องงบประมาณ และยิ่งรู้ว่ารูปแบบกิจกรรมที่จะมีขึ้นเป็นการสร้าง “ห้องสมุด” ด้วยแล้ว ผมยิ่งมีความสนใจมากขึ้นเท่าตัว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">โดยเบื้องลึกผมเชียร์ขาดใจกับค่ายที่สร้างห้องสมุดมากกว่าการสร้างลานกีฬาด้วยซ้ำไป เพราะถึงแม้ว่าโรงเรียนจะขาดแคลนสนามกีฬา แต่ก็ยังมีสนามหญ้าให้นักเรียนได้วิ่งเล่น อยู่บ้าง ซึ่งตรงกันข้ามผมกลับมองว่าการขาดแคลนห้องสมุดนั้นถือเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนกว่าเรื่องสนามกีฬาด้วยซ้ำไป</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมมองว่าห้องสมุด เป็นแหล่งเรียนรู้ที่จำเป็นอย่างมหาศาลของนักเรียน เป็นเสมือน “ขุมทรัพย์ทางปัญญา” ที่สามารถบ่มเพาะศักยภาพของนักเรียนได้อย่างดียิ่ง … เป็นโลกแห่งการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยจินตนาการ … เป็นเวทีทางความคิดที่นักเรียนสามารถค้นหาคำตอบของชีวิตและความรู้ได้ด้วยตนเอง </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่อย่างไรก็ตาม ผลแห่งความมุ่งมั่นพยายามของนิสิตที่ทุ่มกายใจดิ้นรนหางบประมาณจัดกิจกรรมด้วยวิธีการต่าง ๆ ตลอดจนการประสานรอบทิศในภาครัฐและชุมชนในท้องที่ก็เป็นอานิสงส์ให้ได้รับการช่วยเหลือด้านงบประมาณจากฝ่ายต่าง ๆ อย่างน่าประทับใจ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การให้ความร่วมมือทั้งแรงกายและแรงทรัพย์จากบุคคลต่าง ๆ รวมถึงองค์กรภาครัฐและเอกชน ในท้องที่ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นความร่วมใจของชุมชนที่มีต่อกิจกรรมนี้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม .. ยืนยันถึงความต้องการ (need) อันแท้จริงของชุมชนที่มีต่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของการศึกษาในบริบท “พื้นที่” (space) ของตนเอง</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การร่วมด้วยช่วยกันเช่นนี้ ผมถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่พบได้ไม่บ่อยครั้งนักในการออกค่ายอาสาพัฒนา และครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จในการสร้างแรงจูงใจให้ชุมชนได้เข้ามามีบทบาทร่วมเรียนรู้และสร้างสรรค์สังคมร่วมกัน “แบบมีส่วนร่วม” อย่างแท้จริง </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ปรากฏการณ์ทำงานสร้างฝัน “แบบมีส่วนร่วม” เช่นนี้ ย่อมง่ายต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะชุมชนได้รู้สึกร่วมกับการเป็น “เจ้าของ” ตั้งแต่ต้นไปจนจบ ซึ่งพร้อมที่จะดูแลต่อยอดทางการพัฒนาสืบไปอย่างต่อเนื่อง </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เป็นที่น่าเสียดายที่ฝนฟ้าตกติดต่อกัน 2 วันยังผลให้ชาวค่ายทำงานไม่แล้วเสร็จตามที่มุ่งหวัง แต่สำหรับผมแล้ว สภาพของประตูและหน้าต่างที่ยังไม่ติดตั้ง ก็ใช่จะเป็นสิ่งชี้วัดถึงความล้มเหลวของการงานครั้งนี้แม้แต่น้อย </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ชาวบ้านเข้าใจและเห็นใจต่อการงานที่หลงเหลือเพียงเล็กน้อย รวมถึงการขันอาสาอย่างแรงกล้าว่าจะดำเนินการต่อยอดให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p></p><p>สิ่งที่ผมประทับใจไม่น้อยไปกว่าเรี่ยวแรงของชาวบ้านที่ทุ่มเทเป็นส่วนหนึ่งของงานร่วมกับนิสิตมาตั้งแต่วันแรกก็คือ การตอบรับที่จะสนับสนุนต่อเติมในส่วนที่เหลือ อาทิ ฝ้าเพดาน ตู้หนังสือ กระเบื้องปูพื้น พัดลมเพดาน ฯลฯ …. </p><p> </p><p>ภาพของบุคคลหลากหน่วยงานที่มาร่วมพิธีปิดค่ายและรับมอบค่ายในวันนั้น มีมาจากหลายส่วนหลายภาคฝ่าย ทั้งผู้บริหารจากโรงเรียนในละแวกใกล้เคียง ผู้บริหารจากสำนักงานเขตพื้นที่ฯ ,องค์การบริหารส่วนตำบล, เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงชาวบ้านจำนวนไม่น้อย ล้วนยืนยันให้เห็นความสำเร็จของการทำงาน “แบบมีส่วนร่วม” อย่างแท้จริงระหว่าง “ไทค่าย” กับ “ไทบ้าน” </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ในยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization) โลกแห่งการเรียนรู้และสื่อสารของคนในสังคมเมืองอาจจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของอินเตอร์เน็ต และกลายสภาพเป็นชุมชนออนไลน์ (cyber community) ไปจนหมดแล้ว </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">กระนั้นเราต้องไม่ลืมว่า ในบางมุมของสังคม โดยเฉพาะสังคมของนักเรียนที่อยู่ห่างไกลจากนวัตกรรมแห่งการสื่อสารที่ทันสมัยและรวดเร็วของอินเตอร์เน็ต เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “ห้องสมุด” เป็นยิ่งกว่า “พื้นที่จริง” (real space) ของการเรียนรู้ชีวิตในโลกการศึกษา และห้องสมุดยังเป็นเสมือน “พื้นที่ทางสังคม” (social space) ที่พวกเขาสามารถเข้าไปใช้ชีวิตเพื่อการเติบใหญ่ทางปัญญาได้เหมือนกัน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ต้องการหนังสือเพื่อเติมเต็มห้องสมุดบ้างมั้ยคะ..
สวัสดีครับ ครูเสือ
..โดยปกติ นิสิตจะกลับไปเยี่ยมค่ายอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม ซึ่งตอนนั้นก็จะมีพวกหนังสือไปมอบให้โรงเรียนเสมอ...
.....
ตอนนี้ก็รับบริจาคหนังสือไว้ตลอดปีเลยนะครับ...เรามีกิจกรรมเช่นนี้บ่อยมาก ยังมีชมรมที่ทำกิจกรรมเรื่องหนังสือและห้องสมุด คือ ชมรมรุ่นสัมพันธ์ ครูอาสา ครูบ้านนอก ไทสร้างสรรค์ เป็นต้น
....
ขอบคุณมากครับ...
ผมเดินสายแทบทุกวันในช่วงนั้น ไปแทบทุกค่ายที่นิสิตออกจัดกิจกรรม
นี่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่บันทึก...ถ้าบันทึกไม่ครบก็น่าเสียดายไม่น้อย
จะเอาแต่รูปลงให้ดูก็กระไรอยู่...
ขอบคุณมากครับ...(พรุ่งนี้ ต้องเดินทางอีกแล้ว...)
สวัสดีครับ อ.ย่ามแดง
ต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันโดยการช้วยด้วยแรงกายใครมีงานอาสาให้ช่วยบอกได้เลยนะค่ะ ติดต่อทางอีเมลค่ะ
ความทรงจำ ของวันวานที่ยั่งหวานอยู่
ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่งของความทรงจำจะถูกบันทึกและถ่ายทอดให้กับผู้คนมากมายได้รับรู้
คงต้องบอกว่าความสุขที่สุดของการได้เป็นนิสิตนักศึกษา คือการได้เรียนรู้ว่าชีวิตของการเป็นผู้ให้มันยิ่งใหญ่มาก
และภาพเหล่านั้นมันก็ยังอยู่ในความทรงจำที่ยังประทับใจ พูดถึงครั้งใด มันก็ยังทำให้เรารู้สึก และสัมผัสได้ถึงภาพบรรยากาศเหล่านั้น ภาพที่ทุกคนต่างช่วยกันทำงาน ภาพที่ชาวบ้านและเด็กๆยิ้มด้วยความสุข และภาพบรรยากาศตอนเช้าของหน้าฝนที่ปกคลุมไปด้วยหมอก มีภูเขาล้อมรอบ นี่แหละธรรมชาติของชีวิตที่โอกาสของนิสิตต้องลองไปเรียนรุ้
เพื่อให้รู้ว่านี่แหละชีวิต ที่ทำให้เราเข้าใจ นิยามของชีวิตมากกว่าเดิม