โรคฮิต.....ของผู้บริหาร 4 โรค ( ตอนที่ 4 )
4. โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคนี้ไม่ใช่โรคเอดส์ แต่เป็นโรคภูมิคุ้มกันทางอารมณ์บกพร่อง ทำให้ผู้บริหารมีจุดเดือดต่ำคือพร้อมจะโมโหโทโสอยู่ตลอดเวลา เจ้าอารมณ์ หน้าบูด หน้าบึ้ง ลูกน้องทำอะไรไม่ถูกต้องไปหมด
คนที่เป็นโรคนี้ ให้สังเกตจากลูกน้องว่าพวกเขามีอาการหวาดผวา ขี้ตกใจง่ายหรือเปล่า เช่น แค่โทรศัพท์ดังก็อาจจะสะดุ้งจนตกเก้าอี้ ทั้งนี้เพราะว่ากลัวท่านจะโทรมาว๊ากมาเฉ่งแต่เช้า หรือแค่ท่านเดินผ่าน แต่ละคน ถ้าไม่หลบหนีหายกันป็นแถวๆ ก็จะเกิดอาการตัวลีบ ตัวสั่น ขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าสบสายตาเพราะไม่แน่ใจว่า วันนี้อารมณ์ของท่านเป็นอย่างไร และเขาจะโดนยัวะเรื่องอะไรอีก
วิธีแก้ไข ให้ใช้หลักเมตตา ให้ผู้บริหารมองลูกน้องเหมือนลูกเหมือนหลาน พร้อมให้อภัยและสั่งสอนเมื่อทำผิด หากทำเช่นนี้ได้ นอกจากลูกน้องจะรักแล้ว ใจผู้บริหารเองก็จะรู้สึกเป็นสุข หน้สตาผ่องใส ลูกน้องอยากเข้าใกล้ การงานก็เดินไปด้วยดี.
โรคภูมิคุ้มกัน( ทางคุณธรรม / จริยธรรม ) บกพร่อง โรคนี้กำลังระบาดอย่างหนักในบ้านเมืองเรา ผู้บริหารใดที่เป็นโรคนี้มักจะมีโรคภูมิแพ้( เงิน ) นำมาก่อนทำให้จิตใจอ่อนแอ ไม่อาจต้านทานข้อเสนอที่แม้จะรู้ว่าไม่ถูกต้อง แต่ก็นำมาซึ่งทรัพย์สินเงินทองให้แก่ตนได้
ที่ทำงานใดที่มีผู้บริหารที่เป็นโรคนี้ หากมีลูกน้องที่เป็นโรคแพ้แบบเดียวกันก็น่ากลัวว่าหน่วยงานนั้นๆ จะล่มสลายไปในไม่ช้า หรือไม่ก็พาให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเสียหาย ล่มจม แม้จะอยู่ได้ แต่ก็จะเกิดความทุกข์ทรมาน
วิธีแก้ไข ต้องต้มสมุนไพร ยี่ห้อคุณธรรม ที่มีส่วนผสมของตัวยา ซื่อสัตย์ สุจริตและหิริโอตัปปะ (ความเกรงกลัวและละอายต่อบาป) กินวันละ 2 มื้อ มื้อแรกกินตอนเช้าก่อนไปทำงาน เพื่อให้เกิดภูมิตั้งใจที่จะต่อต้านโรคร้ายนี้และอีกมื้อก่อนนอนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้แน่นขึ้น แต่การรักษาต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยคือผู้บริหาร มิฉนั้นมีแนวโน้มจะเดื้อยาขึ้นเรื่อยๆ .
ความเห็น (2)
พี่ผึ้งสงสัยโรคนี้ อ.เอ๋คงจะไม่เป็นค่ะ...แต่ว่าไม่ค่อยจะมีแรงสอนนักศึกษาเล้ย...เหนื่อยมากค่ะในแต่ครั้งที่สอนเพราะรู้สึกว่าทุ่มเทและทำอะไรในการสอนเยอะมากๆค่ะ....ใจสู้แต่บางทีร่างกายมันอ่อนแอค่ะ...ต้องโด๊บเยอะๆสะแล้ว
