ฤดูกาลนี้คนเป็นพ่อแม่วิ่งวุ่นกับการพาลูกไปสมัครสอบ ไปสมัครเรียนต่อ เดินทางกันเป็นว่าเล่น หัวอกพ่อแม่ว้าวุ่น ส่วนหัวอกคุณลูกก็กระเจิดกระเจิง ไหนจะต้องเตรียมสอบ สอบแล้วไปเจอเพื่อนใหม่สถานที่ใหม่.. ครอบครัวไหนลงตัวก็หายใจโล่งอก แต่ที่ยังจับไม่มั่นไม่เหมาะก็ทะเร่อทะร่าต่อไป อยู่กับระบบการศึกษาแบบไทยๆก็อย่างนี้แหละ ในเมื่อทุกคนไม่ยอมเสียสละมามีส่วนดูแลการศึกษา ไม่ยอมสะท้อนสิทธิ์อย่างจริงจังเป็นระบบ เสียงผู้ปกครองที่ควรจะเป็นเสียงที่ทรงพลังต่อการเปลี่ยนแปลง ก็เปลี่ยนเป็นเสียงเสียงกระซิบ เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง นั่งอมพะนำค้ำถ่อกับกองทุกข์กันต่อไป
ที่ซ้ำร้ายกว่านั้นบางคนลูกสาวหาย หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เดือดร้อนกันทั้งวงศาคณาญาติ อย่างเช่นเมื่อคืนนี้ ประมาณ3ทุ่ม ผมกลับจากซื้อของในตัวตลาด นั่งพักเหนื่อยสักพักแล้วจะอาบน้ำ เสียงกุ๊บกับก็มาดังอยู่หน้าประตู เปิดประตูไปดูเจอคุณแม่ตาแป๋ว ไม่พูดไม่จาแสดงอาการกระวนกระวายหันรีหันขวาง อ้าวนี้แม่ลูกอ่อนนี่ เห็นคลอดลูกเมื่อวานนี้ เป็นท้องสาวแรกเสียด้วย แต่ไม่เห็นเอาลูกมาอวด ลูกไปไหน พอฟังเสียงร้องกระวนกระวายก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว ไปทำยังไงละ ทำอีท่าไหนลูกอยู่กับอกแท้ๆยังหายได้
ผมหยิบไฟฉายเดินไปตามพี่เลี้ยง คุณแม่ตัวดีก็วิ่งตามติดๆ พี่เลี้ยงเล่าว่าก็เห็นคลอเคลียกันทั้งวัน คุณลูกก็ได้ดูดนมเป็นปกติ ตอนแรกว่าจะไม่ให้ไปกับเพื่อนๆเขา แต่คุณแม่มือใหม่ก็ยอมยอม ดื้อจะตามเขาไปเที่ยวในป่าด้วย ชวนคุณลูกวิ่งโร่ออกหน้าจนยากที่จะทำอะไรนอกจากปล่อยเลยตามเลย
จนกระทั่งดวงอาทิตย์บ่ายคล้อย ทั้งคณะก็เดินทางกลับเป็นปกติ พี่เลี้ยงก็หุงหาอาหารรับประทานพักผ่อน จนกระทั่งเมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เอง คุณแม่ตัวดีก็มาเรียกร้องเปิ่มว่าจะขาดใจ มองไปก็ไม่เห็นลูก อ้าว! ลูกสาวหายไปไหน ถามไถ่ก็ไม่รู้เรื่อง แสดงอาการบอกให้รู้ว่าลืมลูกไว้ในป่าเสียแล้ว ตอนขากลับก็ไม่ได้สังเกตด้วยว่ามีอะไรผิดปกติ เพราะเดินตามต้อยๆกันมา ส่วนคุณแม่ยังสาวคงวิ่งวุ่นหาลูกสาวไม่ได้กลับมาพร้อม คงจะเพิ่งมาถึงตอนค่ำมืดนี่เอง
พี่เลี้ยงก็หมดปัญญาจะไปทำอะไรได้ ปลอบใจก็แล้ว บอกว่าให้รุ่งเช้าเสียก่อนจะออกไปช่วยหา เพราะไปค่ำมืดในป่าอย่างนี้ก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน ว่าแล้วก็ปิดประตูนอน คุณแม่ที่ใจจะขาดรอนๆ ได้ยินเสียงรถผมมาเธอก็ผละจากบ้านพี่เลี้ยงมาที่บ้านผม บังเอิญว่าผมถึงบ้านก่อนจึงไม่ทราบเรื่องลูกหาย จนกระทั่งมาเคาะประตูเรียกนี่แหละ
เมื่อรู้ความจริงเช่นนี้ ผมนึกสงสารจับใจ อยากจะช่วยคลี่คลายทุกข์อันใหญ่หลวงนี้ให้เธอ จึงหยิบไฟฉายเดินลงจากบ้าน ..ยังไม่ได้ตกลงอะไรสักกะหน่อย เธอก็วิ่งออกหน้าตรงไปยังชายป่า ผมก็ส่องไฟฉายไปตามเห็นบั้นท้ายอยู่ลัดๆ เธอวิ่งไปร้องไป ไปซอกโน้นเลี้ยวหาซอกนี้ โถป่าทั้งป่าไม่รู้ว่ามันมีกี่ร้อยกี่พันซอก ผมก็เดินชนตอโดนหนามไน่เกี่ยวจนเลือดซิบๆไปทั้งแขน เหนื่อยจนต้องทรุดนั่ง 2-3 ครั้ง เมื่อไม่มีเปอร์เซ็นต์เจอก็ชวนเธอกลับ เธอไม่ยอมใครจะกลับก็กลับ เธอจะดื้อที่จะอยู่ต่อไป
หันหลังหลังกลับ ส่องทางเดินบ่ายหน้ากลับ คงจะกลัวไม่กล้าอยู่คนเดียว สักพักผมได้ยินเสียงร้องวิ่งตามมาห่างๆ เรามาเผชิญหน้ากันที่หน้าบ้านอีกครั้งหนึ่ง ผมบอกว่าวันนี้พอเถอะมันมืดหายังไงก็คงไม่เจอหรอก พรุ่งนี้จะเกณฑ์คนไปเดินเรียงหน้ากระดานหาอย่างเต็มที่ คืนนี้ดึกแล้วพักเอาแรงเถอะ ผมก็ปิดประตูล้มตัวนอนหลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงกุกกั๊กอยู่หน้าประตู มองไปเห็นดวงตาแป๋วคู่หนึ่งจ้องเขม็งมาที่ผม อ้าว!นี่เธอไม่ยอมกลับไปหลับไปนอนแม้แต่สักงีบเลยหรือ โถแม่คุณเอ๋ย รู้อยู่หรอกว่าหัวอกแม่นั้นร้าวรานแค่ไหน วิตกหวานหวั่นจนยากจะหลับมาลง เธอคงยืนขาแข็งเฝ้าอยู่หน้าประตูบ้านนี้เอง ผมโอบปลอบเธอ ท่ามกลางเสียงกระซิกๆที่ดูเหมือนจะอ่อนโยนลงบ้าง สัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าขอให้แต่ฟ้าสว่างขึ้นพอมองเห็นป่าได้ เราก็จะช่วยเธอหาลูกที่หายอย่างเต็มที่แน่ ขอร้องให้เธอกลับไปนอนเอาแรงไว้พรุ่งนี้เช้าดีกว่า
คุยเสร็จผมก็ปิดประตูล้มตัวลงนอนริมประตูนั่นเอง น้ำท่าไม่ได้อาบ มาตื่นอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงเอะอะหน้าบ้าน ตายแล้ว!! นี่มันเกือบ 9.00 น. ผมสลบไหลไปจนตะวันโด่งเลยรึ มีเสียงจอกแจกจอแจหน้าบ้าน มันเกิดเรื่องอะไรกันละ เปิดประตูออกไปเจอพี่เลี้ยงมารายงานพอดี
เธอเล่าว่า รีบตื่นแต่เช้าไปเปิดคอกปล่อยฝูง ทุกตัววิ่งร่าเข้าไปในป่าที่เคยไปหากินทุกวัน คุณแม่ที่ลูกหายก็วิ่งนำหน้าฝูงไป ปรากฏว่าเธอลืมที่ซ่อนลูกน้อยไว้ กินใบไม้เพลิน เห็นเพื่อนหวนหน้ากลับคอกก็เดินต้อยๆตามเขามาด้วย พอนึกได้ว่าลืมลูกไว้เวลาก็มืดแล้ว ละล้าละลังวิ่งหา กลัวก็กลัวเพราะปกติเป็นพวกตาขาวอยู่แล้ว ไปไหนเกาะกันแจ การที่กล้าบุกป่าฝ่าดงผู้เดียวยามค่ำมืดเพราะความรักและห่วงใยลูกจนลืมตาย
เมื่อพรรคพวกเธอออกไปถึงบริเวณหากินเมื่อวานนี้ คุณลูกคงได้ยินเสียงเพื่อนๆ จึงกล้าลุกออกมาจากที่ซ่อนมาหาคุณแม่ ทั้งคู่โผหากัน ป้อนนมที่หิวกระหายมาทั้งคืน เต้านมที่เป่งลดวูบลงอย่างรวดเร็ว พี่เลี้ยงปล่อยเพื่อนไว้ แล้วชวนเธอกลับมายังหาผม นี่คือที่มาของเสียงจอแจที่ปลุกผมตะกี้นี้
คุณแม่ยังสาวมองมาที่ผมตาแป๋ว เหมือนจะบอกว่าเธอหาลูกเจอแล้ว นี่ไง ดูดนมกระดิกหางอยู่นี่ ผมเดินไปโอบแม่เอามือลูบตัวคุณลูก พลางนึกในใจว่า..ถ้าลูกเธอเป็นอะไรไป ผมจะทำยังไง กับแม่แพะสาวที่รักลูกเป็นชีวิตจิตใจแต่ขี้ลืมตัวนี้ นึกแล้วก็หนาววูบลงไปในหัวใจ ผมจะทำยังไงถ้าเกิดว่าเธอหาลูกไม่เจอ ?
พ่อครูคะ
ทีมแป๊ดจัดอะไรได้ครึกครื้นมาก
ฝากความคิดถึงน้องฟ้า ฟาง ด้วย
ขอให้ซ้อมวิ่งให้เต็มที่ มีคู่แข่งเยอะ
พี่ ป้า น้า อา จะชวนลงลู่วิ่งทั้งนั้น
แวะมารับของฝากค่ะพ่อครูฯ
เดี๋ยวบ่าย ๆ หลาน ๆ แวะมานำร้องเพลงให้สีของคุณแม่ เพราะเมื่อคืนขโมยเพลงเชียร์ลูกมา หลายเพลง วัยคุณแม่ ร้องไม่เป็นค่ะ
ไว้ถ้างานสนุก และมีอะไรให้น่าจดจำ จะนำมาฝากเล่าต่อพ่อครูฯ นะคะ
อ่านบันทึกนี้แล้ว ทำให้หวลกลับไปคิดถึงอีกบันทึกก่อนที่จะไปเยี่ยมครูบาที่บ้าน ในบันทึกนั้นครูบาก็บอกว่าลูกหาย ต้องไปตาม แล้วกั๊กไว้ว่า เมื่อไปถึงบ้านครูบาแล้วจะบอกว่าไปตามหาอะไร...ประมาณนั้นค่ะ แต่เมื่อไปถึงครูบาก็ไม่เฉลย......
คราวนั้น ก็ลูกสาวแม่แพะที่น่ารักนี้รึปล่าวค่ะ...ดูน่ารักและแสนรู้ดีนะค่ะ เสียดายคราวที่แล้วไม่ได้ไปเยี่ยมบ้านแม่แพะ...แพะอาบน้ำมั้ยค่ะ.....