บันทึกเรื่อง เมื่อใดที่ได้เห็น "ความคิด" ชีวิตก็จะอยู่กับ “ความจริง” ของ ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด ทำให้ตัดสินใจเขียนบันทึกนี้ (อยากเขียนอะไรประเภทนี้ นานแล้ว แต่ไม่อยากเขียน !! เอ๊ะยังไง?)
ตั้งแต่เมื่อได้มาอยู่ในบทบาทปัจจุบันจนบัดนี้ก็ 2 ขวบปีกว่า ทุกๆ วัน ก็ได้แต่คิด คิด แล้วก็ คิด ตลอดเวลา ไม่ว่าจะ นั่ง เดิน ยืน พูด (ยกเว้นตอนดูทีวี) แถมยังทำตัวเป็นผู้กำกับ คิดว่า ตัวละครตัวนี้ เหมาะกับบทนี้ น่าจะพูด น่าจะทำแบบนี้ ตัวโน้นน่าจะแสดงแบบนั้น สารพัดฯลฯ
แต่ สิ่งที่ได้พบ ตัวละครบางตัว เขาไม่เล่นตามบทที่เขียน ผลคือ... เราขัดใจ และ เป็นทุกข์....
ขอบคุณอาจารย์ประพนธ์ ที่ช่วยเรียกวิญญานกลับมา
ก็เพราะมันไม่ใช่ละครนะสิ แล้วเราก็ไม่ใช่ผู้สร้างหรือผู้กำกับที่จะกำหนดได้ทุกอย่าง
กลับมาเถิด “สติ” จ๋า กลับมาอยู่ใน โลกแห่งความเป็นจริง อย่าเผลอตัว เผลอใจ จนกลายเป็นความ “หลง”
พี่ชายที่แสนดี เพิ่งบอกว่าเรา “ใจแตก” เสียแล้ว (ประมาณว่า กู่ไม่กลับ) ในการพูดคุยกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง ทำให้ต้องนั่งคิด นอนคิดว่าเรา “ใจแตก” จริงหรือ หากจริง จะเยียวยาอย่างไร
โชคดี พบคำตอบจากบันทึกของอาจารย์ประพนธ์ แต่จะทำได้หรือเปล่า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“กลับมาเถิด สติ มาระลึกรู้ รู้กาย รู้ใจ ว่าเรากำลังนั่งดูหนัง ดูละครอยู่ กลับมาเป็น “ผู้ดู” เพื่อได้ “หลุด” จากโลกแห่งมายา กลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริง ซะที!
เรียนท่านอาจารย์หมอปารมี
มาเป็นกำลังใจให้กับหัวโขน ใส่อย่างมีสติ ชีวิตไม่หลงทาง ครับ
ฮั้วครับ
ในมุมมองของลูกภาคฯอย่างตัวเอง อยากเรียนอาจารย์ว่า ในฐานะผู้บริหาร อาจารย์แบ่งภาคระหว่าง "ผู้คิด"และ"ผู้ลงมือทำ"ได้ยอดเยี่ยมแล้วนะคะ เพียงแต่อาจารย์อาจจะหลุด "in" มากไปหน่อย สำหรับ"ความคาดหวัง" จึงทำให้เป็นการทำร้ายตัวเองได้ในบางครั้ง
แต่สำหรับตัวเองคิดว่า การที่เรา "in" แล้วต้องเจ็บปวดบ้าง ก็เป็นรสชาติของชีวิตนะคะ ถ้าเรามี"สติ" รู้ตัว รู้ทัน ไปซะหมด อะไรๆก็ไม่กระทบนี่ นึกไม่ออกเลยนะคะ ว่าชีวิตมันจะราบเรียบเกินไปหรือเปล่า
มีประโยคประทับใจที่นาได้รับ จากการจัดสนทนาแลกเปลี่ยน ในกลุ่มหัวหน้างานของสำนักงานคณบดี เรื่อง ภาวะผู้นำ "คนไม่ใช่ควาย จะจูงคนต้องจูงที่ใจ"
ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ (ผู้บริหาร/ผู้กำกับ) รักษาใจและให้ใจ กับคนและงาน ตลอดไปค่ะ
ขอบคุณทุกท่านสำหรับกำลังใจ และ ความเห็น โลก g2k นี่ ทำให้เรามีกำลังใจทำงานต่อได้อย่างยอดเยี่ยมเลยค่ะ
เห็นด้วยกับคุณโอ๋นะคะ หากมีอะไรเข้ามา แล้วเราไม่รู้สึกระทบนี่ ชีวิตจะราบเรียบและเย็นชาเกินไป
ที่เขียนบันทึกนี้ แค่อยากปลดปล่อยจากกรอบการเขียน (ที่ตัวเองวางไว้เองนั่นแหละ) งานทุกอย่าง ยังสู้ไม่ถอยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกกำลังใจ
"หากมีอะไรเข้ามา แล้วเราไม่รู้สึกระทบนี่ ชีวิตจะราบเรียบและเย็นชาเกินไป" ...นั่นไม่ใช่การเจริญสติครับ แต่เป็นการ "บังคับ" เป็นการ "กำหนด" ให้ "นิ่ง" ให้ "เงียบ"
แต่ก่อนผมก็เคยทำแบบที่ว่านั้น ปัจจุบันพบว่ามัน "ไม่เป็นธรรมชาติ" ได้ครูบาอาจารย์ที่เน้นสอนให้แค่ "ระลึกรู้ ตามดูกาย ตามดูใจ" เท่านั้น เมื่อไม่พอใจก็ให้ "รู้ตัว" ว่าไม่พอใจ ไม่ต้องไป "บังคับ" ให้กลับมา "นิ่ง" แต่อย่างใด ....ทุกวันนี้ก็พยายามฝึกอยู่เท่าที่ "เวลา" จะอำนวย
ขอบคุณ อ.ประพนธ์ มากๆ ค่ะ ที่ตามมาชี้ทางสว่าง
คุณ ลูกภาคฯ
ไม่ได้คิดว่าตัวเองป็นคนเก่งอะไรมากมายหลอกค่ะ เพียงแต่คิดว่าทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อภาควิชาและคนของภาคได้ ก็อยากจะทำ บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า คนพยาธิทุกคน มีศักยภาพ และ มีแรงปรารถนาในการพัฒนาตนและพัฒนางานอย่างเต็มที่