ป้าเจี๊ยบเคยดูหนังน่ารักเรื่องหนึ่ง จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้วค่ะ แต่คับคล้ายคับคลาว่ามีคำ biggest boy อยู่ด้วย จัดอยู่ในประเภทหนังครอบครัว (Family) ค่ะ
ตัวเอกเป็นเด็กชายวัยอยากรู้อยากเห็น 2 คนซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ของสหรัฐ ป้าเจี๊ยบไม่ได้ใส่ใจว่ารัฐอะไร แต่รู้ว่าเป็นรัฐทางใต้แน่ๆ เพราะสำเนียงพูดของตัวละครออกเสียงเหน่อๆ แบบเท็กซัสทั้งเรื่อง
วันหนึ่งมีรถพ่วงแบบที่เรียกว่า Camper ซึ่ึ่งเวลาจะไปไหนก็เกี่ยวท้ายรถเก๋งลากไปได้ ในรถนั้นบรรทุกเด็กอ้วนที่สุดในโลกมาแสดงเก็บเงินคนดู ซึ่งการแสดงแบบนี้เรียกว่า Freak Show ค่ะ ฟรี๊กโชว์คือนำของแปลกประหลาดมาแสดงเหมือนงานวัดบ้านเราที่มีโชว์คนหรือสัตว์ประหลาด
ต่อมามีการผจญภัยเกิดขึ้นเนื่องจากเจ้าของโชว์ออกไปหาผู้แสดงมาเพิ่ม แต่หายไปหลายวันมากจนชาวเมืองเห็นว่าควรติดต่อเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ของรัฐมาเอาตัวเด็กอ้วนไปดูแล เด็ก 2 คนก็พยายามช่วยกันพาเด็กอ้วนหนีอย่างทุลักทุเล ด้วยความที่ขนาดของร่างกายใหญ่มาก ป้าเจี๊ยบดูไปยิ้มไปกับวิธีคิดแก้ปัญหาของเด็กๆ เรื่องจบแบบ happy ending ค่ะเมื่อเจ้าของโชว์กลับมาทันเวลา
ก่อนจะปิดเรื่อง ชายเจ้าของร้านอาหารบริเวณลานจอดรถพ่วง ซึ่งรู้เห็นวีรกรรมของเด็กทั้ง 2 ก็บอกกับสองตัวป่วนซึ่งแอบดูเหตุการณ์อยู่บนหลังคาตึกว่า “Come down and have some burgers. ลงมากินแฮมเบอร์เกอร์เถอะ” เด็กคนหนึ่งตอบว่า “We have no money. เราไม่มีเงิน” เจ้าของร้านพูดว่า “It’s on the house. มีอยู่บนบ้าน”
พอป้าเจี๊ยบเห็นคำแปลบนจอทีวีขณะได้ยินคำพูดนี้ก็ร้องฮึเลยค่ะ อะไรกันนี่?
It’s on the house ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับบ้านเลยสักนิด
สิ่งที่เจ้าของร้านอาหารต้องการบอกเด็กทั้งสองคือ
“It’s on the house= ฉันเลี้ยงเอง” หรือ
“It’s on the house= กินฟรี” นั่นเอง
คำพูดแบบนี้เรามักจะได้ยินบ่อยๆ ในฉากที่เป็นร้านอาหารค่ะ เช่น เมื่อมีคนพูดว่า “Everybody gets one drink on the house.” นั่นคือ ใครก็ตามที่อยู่ในร้าน เชิญดื่มฟรีคนละแก้ว
ของฟรีที่ on the house นั้น ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับของกินเท่านั้นนะคะ เวลามีการแสดงหรือบริการอะไรที่เราไม่ต้องเสียตังค์ ก็จะใช้คำนี้ได้ อย่างเช่น “Today show is on the house-การแสดงวันนี้ฟรี"
บางครั้งก็จะได้ยินแบบเพราะๆ ว่า “Complement from the house. – อภินันทนาการจากทางร้าน” นั่นคืออะไรที่มาพร้อมกับคำพูดนี้ก็ไม่ต้องจ่ายเช่นกัน ทางร้านเป็นผู้เลี้ยงค่ะ
วันไหนป้าเจี๊ยบนั่งอยู่ในร้านแล้วบริกรยกอาหารหรือเครื่องดื่มมาเสริฟพร้อมกับบอกว่า “Complement from the gentleman over there” ก็หมายความว่า อาหารหรือเครื่องดื่มนี้มีผู้ออกสตังค์เลี้ยงป้าเจี๊ยบค่ะ กินฟรี..เย้..
ถ้าป้าเจี๊ยบไปกินข้าวกับใครที่ร้านอาหารแล้วบอกว่า “It’s on me.” อย่านึกว่ามีอะไรมาป้วนเปี้ยนอยู่บนตัวป้าเจี๊ยบนะคะ ไม่ต้องช่วยปัดออก แค่อย่าควักกระเป๋าตังค์ออกมาเท่านั้น เพราะมื้อนี้ “ป้าเจี๊ยบจ่ายเอง” ค่ะ
ดีจังเลยค่ะ.... เป็นสำนวนที่มีประโยชน์มากๆค่ะ... จำง่ายด้วย.... ขอบคุณมากค่ะ
ชอบด้วย
มีประโยชน์ จังค่ะ จะเอาไปใช้ เวลาเลี้ยงข้าวแขกฝรั่ง
เข้าใจแล้วค่ะ