การบริการปรึกษาให้แก่นิสิต จะเป็นหนึ่งในการให้บริการแนะแนวการศึกษาและอาชีพ ของกองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นกระบวนการช่วยเหลือนิสิตที่ประสบปัญหาได้มีแนวทางออกในทางที่สร้างสรรค์ เกิดกระบวนการเรียงลำดับทางความคิด เพราะคนๆหนึ่งจะมีปัญหามากว่าหนึ่งเสมอ ปัญหาในแต่ละบุคคลจะมาพร้อมกับอารมณ์ความรู้สึก เป็นภาวะความเครียดที่เกิดขึ้น เครียดในเรื่องต่างๆ บางคนก็ไม่หลุดออกจากปัญหา ยอมที่จะจำนนกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะมีความทุกข์บ้างก็ต้องยอม
กรณีที่พบ คือ จากการให้คำปรึกษาแก่นิสิตรายหนึ่ง นิสิตกำลังมีปัญหาความรักที่ไม่สมหวัง คบกับแฟนมาได้ 1 ปี เป็นคนต่างจังหวัดทั้งคู่ ทั้งคู่เรียนปี 2 ด้วยกันแต่ต่างคณะกัน
แรกๆคบกันก็มีความสุขดีทั้งคู่ดูแลใส่ใจซึ่งกันและกัน ในแต่ละวันในการดูแลกัน ฝ่ายชายจะมารับฝ่ายหญิงไปทานเข้าเย็นด้วยกันทุกวัน เมื่อวันไหนไม่มารับไปทานข้าวเย็น ฝ่ายหญิงรู้สึกน้อยใจ ทำให้เกิดปัญหาทะเลาะกันบางตามประสาคนที่รักและคุ้นเคยกัน
ลักษณะนิสัยของทั้งคู่ค่อนข้างที่จะคล้ายคลึงกัน เอาแต่ใจตนเอง และหัวรั้นทั้งคู่ เมื่อทะเลาะมักจะลงเอยด้วยความรุนแรง เมื่อตรวจสอบความรู้สึกดูว่าอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา คือการไม่ยอมอ่อนข้อต่อกัน ลักษณะพฤติกรรมที่เกิดขึ้น คือ เมื่อฝ่ายหญิงรบเร้ามากเกิน หรือเซ้าซี้ ฝ่ายชายขี่รำคาญหงุดหงิดง่าย โมโห ควบคุมตนเองไม่ได้ มักจะลงท้ายด้วยการทำร้ายร่างกายและจิตใจ เช่น เตะ กระซาก ลากดึงหรือจับหัวโขลกฝาผนังบ้าง
แต่ในความรู้สึกของผู้หญิงมักจะมองโลกในแง่ดีว่า ฝ่ายชายรักตัวเองมากคงจะไม่กล้าที่จะทำร้ายตนเอง สุดท้ายก็ลงมือทุกครั้ง แล้วถามว่าคิดจะทำอย่างไร มีความสงสัยว่า คนรักกันทำไมถึงทำร้ายตนเองได้มากขนาดนี้ รู้สึกเสียใจ ต้องการเลิกคบกันเด็ดขาด
เมื่อวันเวลาผ่านไปไม่นาน ฝ่ายชายได้ติดต่อฝ่ายหญิงมาก็นึกว่าฝ่ายชายสำนึกผิด ใจอ่อนทุกครั้ง ได้กลับมาคบกันอีก ปัญหามักจะเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ในการเยียวยาฝ่ายหญิงจะต้องใช้เวลาที่ยาวนาน อย่างน้อยให้เธอรู้สึกเห็นคุณค่าของตนเอง และเรียนรู้ในการที่จะรักตนเอง ให้กำลังใจให้เธอได้มีพลังต่อสู้กับปัญหา ให้เธออยู่ด้วยตนเองให้ได้ ถึงแม้ว่าแรกๆจะต้องเจ็บปวดทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
เมื่อถามไปว่าทำไมเธอถึงยอมให้ฝ่ายชายทำร้าย หรือตกเป็นเหยื่อ เธอตอบว่า "เพราะรักไงพี่จึงยอมให้เขาทำร้าย" ยอมเจ็บปวดแล้วถามต่อไปว่าแล้วนิสิตต้องการยังไง ก็เพียงอยากให้มีคนที่เข้าใจ และอยากทราบเป็นความผิดของหนูเหรอที่เป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน และมักจะได้รับตอบแทน คือ การถูกทำร้ายจากคนรัก ไม่ทราบคิดอย่างไร จะเป็นคำถามต่อไปว่า รักกันทำไมจะต้องทำให้คนรักเจ็บปวด
การที่ผู้หญิงต้องการคำยืนยันว่า "เป็นความผิดของเขาจริงๆหรือเปล่า" ที่จะต้องถูกฝ่ายชายทำร้าย แสดงให้เห็นว่าถึงแม้ว่าฝ่ายชายจะเป็นก่อเหตุ ฝ่ายหญิงจะให้อภัยเสมอ เพราะเพียงเพราะรักจึงยอมทุกอย่าง ฉะนั้น สุภาพบุรุษจะต้องตระหนักในสิทธิของแต่ละบุคคล ไม่ควรไปละเมิดร่างกายและจิตใจคนอื่น จะต้องให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ควรมีการสื่อสารซึ่งกันและกัน ให้บอกตรงๆในความต้องการของแต่ละบุคคลว่าคิดและรู้สึกอย่างไร
นิสิต....ทำไมจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งกับผู้ชายคนหนึ่งๆ ทั้งๆที่พึ่งคบกันเป็นแฟน และบอกว่ารักเรามาก แล้วจะเชื่อได้อย่างไรหละว่ารักแล้วจะไม่ถูกทำร้าย
นอกจากจะอยู่เหนือเหตุผล ตามที่คุณแผ่นดิน ว่านั้นความรักมีพลังมหาศาลเลยค่ะ ขึ้นกับว่าจะเป็นพลังสร้างสรร หรือ ทำลาย
ถึง MSU-KM :panatung
กัมปนาท