ผมยุให้ท่านทำหน้าที่เป็นหัวจรวดขับเคลื่อนการนำICTเป็นเครื่องมือจัดการความรู้ระดับชาวบ้านในชนบท

สืบเนื่องจากที่ได้อ่านบทความที่ beyond KM เขียนเล่าถึงการประชุมสืบชะตา สคส. ในฐานะลูกข่ายตัวกะเปี๊ยกผมก็คิดว่า น่าจะคิดสืบชะตาในภาคของมวลสมาชิกบ้าง เนื่องจากผู้ร่วมคิดผมอยู่ทั่วประเทศ มีทั้งอาจารย์ที่รัก ลูกสาวที่แสนดี ภาคีที่น่าชื่นชม เป็นชมรมก๊วนครูบาที่ท่านบีแมน กรุณาประมวลมาบอกเล่าว่ามีประมาณ 100 กว่าชีวิต
ถ้าเอามาร้อยความคิด ร้อยมุมมอง ร้อยความเห็น เรียงประเด็นตามแบบสไตส์ของชาวเรา ก็น่าจะได้บทสรุปออกมาว่า ในช่วง3เดือนที่ได้รู้จักกัน เราทำอะไรตามที่พุ่มพวง ดวงจันทร์ ร้องไว้ “กระแซะเข้ามาสิ” ผมคิดว่ามีกรณีตัวอย่างการกระแซะหลายเรื่อง ซึ่งจะขออนุญาตเล่าแบบไม่เป็นทางการ นั่นก็หมายความว่า นึกอะไรได้ก็กดแป้นพิมพ์ไล่ตัวอักษรให้ออกมาพบกับท่านทั้งหลาย ในประเด็นที่ว่า ผมทำอะไร และได้อะไร ตามบัญชาที่ท่านอาจารย์ใหญ่ ได้แนะไว้ดังนี้..
“เวลานี้ครูบาสุทธินันท์มีลูกศิษย์เป็นนักศึกษาปริญญาเอก - ปริญญาโทมาทำวิจัยด้วยที่สวนป่าของครูบาฯ เพื่อสร้างชุดความรู้สำหรับการดำรงชีพในชนบทอีสาน และผมยุให้ท่านทำหน้าที่เป็นหัวจรวดขับเคลื่อนการนำICTเป็นเครื่องมือจัดการความรู้ระดับชาวบ้านในชนบท กิจกรรมนี้จะก่อผลดีด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนในชนบทอย่างเหลือคณา”
วิจารณ์ พานิช
31 ธ.ค.49
ผมนี่มนุษย์บ้ายุพันธุ์แท้เลยละครับ ใครยุได้ที่ไหน ยิ่งท่านอาจารย์มาให้ท้ายอย่างนี้ด้วยแล้ว ผมเดินหน้าเกณฑ์พลคนสู้ชีวิต สร้างพันธมิตรเพื่อสังคม พยายามออกแบบกระบวนการต่างๆ เช่น ATM.ความรู้ ธนาคารความดี ภาคีคนสู้ชีวิตเพื่อสังคม และยังจะมีอะไรตามมาอีกก็ได้ถ้าเพื่อนๆผมช่วยกันคิดค้น แต่ในชั้นนี้ผมขอแนะนำขุมกำลังผู้ก่อการดีก่อนนะครับ
ลำดับที่1 ผมได้ญาติทั่วประเทศ เป็นญาติคนดีมีน้ำใจอย่างที่ไม่เคยได้รับที่ไหนมาก่อน ขอแต่ผมโผล่หน้ามา จะได้คำทักทาย ถามถึงสารทุกข์สุขดิบ ให้กำลังใจ ให้ความห่วงหาอาทร และฝากรอยยิ้มไว้ให้ เป็นมิตรไมตรีนอกระบบที่มิได้แสแสร้งแต่อย่างใด บางคนได้รับหนังสือ ส่งข่าวมาบอกดีใจกะตู้วู้ อวดกันเป็นที่สนุกครึกครื้น แล้วก็ได้คำออดอ้อนพิไรหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้ายกกำลังสอง ก็แค่นี้แหละคนเรา จะอะไรกันนักหนา ถ้ารู้จักเลี้ยงน้ำใจกัน ส่วนสุขมันก็จ่ออยู่ตรงหน้าจอคอมฯนี่แหละ ความเคร่งเครียดวิ่งเข้าป่าไปหมด ใจเย็น ใจชื้น เหมือนยืนอยู่ขั่วโลกเหนือกับพวกเอสกิโม
ลำดับที่2 ผมได้พันธมิตรวิชาการตัวจริงเสียงจริงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเอ่ยขออะไรเขาเทใจให้แบบคนรุ่มรวยความจริงใจ ยกตัวอย่างก็ได้ ดร.ขจิต ผมไม่เคยรู้จักมักจี่มาก่อน พอเข้าบล็อกเป็นก็เห็นคนนี้แหละยืนอยู่แถวหน้า ใครๆรักใคร่ใยดีกับคนๆนี้มาก ผมจะรอช้าทำไมละครับ ผมก็ขอเข้าไปนั่งตักคนที่ชื่อขจิตบ้าง โอ้ยโย้! แกเปล่งพลังรังสีเฮ้ากวงออกมาหลายพันลี้ คุยกันยังไม่ทันนกกระจอกกินน้ำก็ได้เรื่องแล้ว หิ้วกระเป๋าเทิ่งๆเข้ามา เปิดฉากสอนภาษาอังกฤษแบบสไตส์ขจิต เด็กๆงี้เรียนไปหัวเราะไปจนแก้มปริ
ผมแอบนึกว่าทำยังไงจะโคลนนิ่งอีตาคนนี้ไว้ได้ หลังจากนั้นไม่นาน แกแอบไปคุยกับเม็กดำ1อีท่าไหนไม่รู้ มาจัดแค็มป์ภาษาอังกฤษ ดึงใครต่อใครแทบหมดหมู่บ้านมาร้องเพลงรำวงภาษาอังกฤษ เอากะพ่อสิ ผมคิดว่าชาวบล็อกเราคงรับทราบเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว
แต่เชื่อเฮอะ คนไฟแรงแบบนี้อยู่นิ่งไม่ได้หรอกหรอก ยังจะมีโครงการอาละวาดภาษาอังกฤษให้ระเบิดเทิดเทิงทั่วถิ่นไทย ชวนใครต่อใครพัฒนาการเรียนรู้เชิงประจักษ์ได้อย่างโครมคราม ดังนั้นการที่ผมได้รู้คนรุ่นใหม่ที่เป็นกุญแจตัวสำคัญ ที่จะไขความหงอยเหงาออกมาเททิ้ง แล้วใส่เทคนิคการสอนสมัยใหม่เข้าไปแทน นี่แค่ยกตัวอย่างคนเดียวยังประมาณนี้ คนต่อไปจะเป็นฉันใด
ลำดับที่3 มาผูกสมัครขอเป็นลูกรักผมเธอชื่อ หนิง คุยเก่งมาก ต้องมีหูไว้สัก4-5หูถึงจะฟังทัน เป็นคนที่มีมิติทางสังคมสูง หน้าที่การงานรับผิดชอบโครงการพิเศษ ช่วยเหลือนิสิตในกลุ่มที่ด้อยโอกาส ให้สามารถเรียนรู้ได้เป็นปกติเหมือนคนทั่วไป เรื่องความเมตตาไม่ต้องพะวง ความเป็นหญิงมั่นนี้สิ สำคัญ พร้อมที่จะเคลียทุกปัญหาอย่างผู้เชื่อมั้นประสบการณ์ เธอเป็นตัวอย่างที่ดี ในการทำหน้าที่ๆ2 ของคนไทย พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มสติกำลัง
เธอพาคุณแม่บุกมหาชีวาลัย2ครั้งแล้ว ถ้าไม่โดนหวัดแกล้งเสียก่อน คงมาเป็นครั้งที่3-4 แล้วละ เธอเรียนรู้งานนอกระบบเร็วมาก ประสานโน่นนี่แพล็บเดียวมีโครงการเอานักศึกษามาเข้าค่ายที่นี่ในเดือนหน้า แล้วยังมีแผนงานความร่วมมือกับโรงเรียนเม็กดำ เอานักศึกษาฝึกสอนไปลงพื้นที่ เรียนรู้การศึกษาเพื่อชีวิตและชุมชนอย่างแท้จริง ที่สำคัญเธอไม่ได้มาคนเดียว ไปชวนท่านแผ่นดิน ใครต่อใครเกาะเกี่ยวกันมาเป็นขบวนใหญ่ พูดก็พูดเถอะ..ใครที่อยากเห็น
มิติทางสังคม
การทำงานเชิงรุก
การทำงานเชิงบูรณาการ
ผมว่าเครือญาติบล็อกของผมนี่แหละกำลังพิสูจน์ด้วยการกระทำ พากันแหวกการทำงานแบบตั้งรับอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ออกไปเชื่อมสัมพันธไมตรีความรู้สู่โลกกว้างอย่างสนุก
ผมยังมีลูกสาวคนเก่งๆอีกเป็นกะตั๊ก แต่ละคนธรรมดาที่ไหนเล่า ภาคใต้นี่ฉั๊วะฉะไปอีกแบบ ภาคเหนือตอนใต้เมืองพระพุทธชินราชนี่ก็เก่งเกินตัว ถึงจะดูอ้อนเก่งอ้อนแอ้นแต่ฝีมือทำงานนั้นท้าชนได้รอบทิศ ถ้าจะไล่เรียงให้จบในตอนนี้ก็จะยาวน่าเบื่อ คอยติดตามอ่านอย่าได้คลาดสายตา ผมไม่ช้าหรอก ขอสัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง ลำดับที่4-100 จะมานำเสนอในไม่กี่นาทีถัดไปนี้.
หมายเหตุ
หน้าที่ๆ1 คือการทำหน้าที่การงานตามปกติ
หน้าที่ๆ2 คือการบริการสังคม หรือพัฒนาสังคม