Som_O WAY
นางสาว วิภาวรรณ ศรีสุเพชรกุล

ถนนคนเรียนรู้...Learning Street 2


ไข้หวัดนก VS ไข้หวัดใหญ่ VS ไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่

จากการจัดทำถนนคนเรียนรู้ (Learning Street) ในเดือนแรกนี้  ได้เลือกที่จะจัดทำนิทรรศการ รู้ทันไข้หวัดนก  ไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่  ทำให้รู้เรื่องเกี่ยวกับไข้หวัดนกมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ  เมื่อก่อนคิดว่าไข้หวัดนกเป็นเรื่องของโรคที่เกิดในสัตว์ปีก แล้วติดมาสู่คน ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสกลายพันธุ์ติดต่อจากคนสู่คน  แต่ตอนนี้ยังไม่มี  ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย...  แต่พอไปอ่านหารายละเอียดเพิ่มแล้ว เริ่มกลัวขึ้นมาบ้างแล้วค่ะ  เพราะโอกาสที่จะกลายพันธุ์มันง่ายนิดเดียว  ถึงแม้ว่าโอกาสจะน้อย แต่มันก็สามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ    โรคไข้หวัดนก  ไข้หวัดใหญ่  และไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอเหมือนกัน แตกต่างกันที่สายพันธุ์  มีลักษณะแตกต่างกันบ้างค่ะไข้หวัดนก  เกิดจากสายพันธุ์ H5N1  มีการระบาดรุนแรงในสัตว์ปีก  ไก่ และเป็ด แพร่เชื้อมายังคน  ทำให้ป่วยรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ ไข้หวัดใหญ่   เกิดจากสายพันธุ์ H1N1 และสายพันธุ์ H3N2  ติดต่อจากคนสู่คนได้ง่าย พบได้ทั่วโลก  อาการป่วยไม่รุนแรง  ยกเว้นในคนสูงอายุ  เด็กเล็กและผู้ป่วยโรคเรื้อรังไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่ทั่วโลก  เกิดจากเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจกลายพันธุ์มาจากเชื้อไข้หวัดนกแพร่ติดต่อจากคนสู่คนได้ง่าย คนทั่วโลกไม่มีภูมิต้านทาน  ทำให้คนจำนวนมากต้องเจ็บป่วย  และเสียชีวิตนับล้านคน  ทุกๆ 10-40 ปี 

ระยะฟักตัวของโรค                 ระยะฟักตัวทั้งในสัตว์และในคน โดยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 3 ถึง 5 วัน สูงสุดไม่เกิน 7 วัน 

คนติดเชื้อไข้หวัดนกได้อย่างไร?               

1.  รับเชื้อโดยตรง : โดยการจับต้องสัตว์ปีกที่ป่วยหรือซากสัตว์ที่ติดเชื้อ                 2.  รับเชื้อทางอ้อม : โดยการสัมผัสกับพื้นดิน  หรือแหล่งน้ำที่มีสัตว์ปีกป่วยตาย

โอกาสในการกลายพันธ์ของไข้หวัดนก ไปสู่ไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่

ต้องรูปนี้เลยค่ะ  เมื่อคนที่มีเชื้อไข้หวัดใหญ่  ได้รับเชื้อไข้หวัดนกก็อาจจะเกิดการผสมกันทำให้เกิดเชื้อสายพันธ์ใหม่  ติดต่อจากคนสู่คนได้

 

<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">                กรมควบคุมโรค  ได้จัดทำแผนเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ พ.ศ.2549  และได้มีการซ้อมแผนไปแล้ว 2 ครั้งเป็นการซ้อมแผนแบบบนโต๊ะ คือเป็นแผนการเตรียมความพร้อมของระบบสั่งการ  ในการซ้อมมีสร้างเหตุการณ์สมมติระดับของการระบาด  ซึ่งการแบ่งระยะของการระบาดนี้ อ้างอิงจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ดังนี้ค่ะ</p>

         ระดับ  1         :  พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในสัตว์ในประเทศอื่น  ไม่พบการติดเชื้อในคน       

ระดับ  2         : พบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในสัตว์ในประเทศไทยหือในประเทศอื่น  ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อมายังคน  ( เช่นมีการติดเชื้อในสัตว์ปีกที่เลี้ยงไว้)  แต่ยังไม่พบการติดเชื้อในคน       

ระดับ  3         : พบคนติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากสัตว์  ยังไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน (ยกเว้นกรณีมีการสัมผัสใกล้ชิดมาก  ซึ่งเกิดได้น้อย) ในประเทศไทยหรือประเทศอื่น  (ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในระดับ 3)       

ระดับ  4         : พบว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ติดต่อจากคนสู่คนเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มเดียว (single small  cluster)  หรือกลุ่มเล็กจำนวนน้อยกลุ่มในพื้นที่จำกัด (few small clusters in limited area)  ในประเทศไทยหรือประเทศอื่น   

     ระดับ  5         : พบว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ติดต่อจากคนสู่คนเป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มเดียว (single large cluster)  หรือกลุ่มใหญ่หลายกลุ่มในพื้นที่จำกัด (multiple large clusters in limited area) ในประเทศไทยหรือประเทศอื่น  หรือมีหลักฐานว่าเชื้อที่พบในประเทศอื่นได้ปรับเปลี่ยนสายพันธุ์จนติดต่อจากคนสู่คนได้ง่าย 

ดังนั้นหากเราไม่ต้องการให้การระบาดขยายไปเป็นระดับ 4  เราคงต้องช่วยกันดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ   และหากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อก็ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หรือกรมปศุสัตว์  เช่น ผู้บริโภค ต้องเลือกซื้อเนื้อไก่หรือไข่ที่สดสะอาด  ไม่มีลักษณะของการติดเชื้อ เช่น  ข้อไก่บวม  เหนียงบวมช้ำ  มีเลือดออกบริเวณหลอดลม ฯลฯ   ผู้ที่ทำงานหรือเป็นผู้ขนส่งไก่  ก็ต้องสวมเครื่องป้องกันตนเอง  ได้แก่  หมวก  หน้ากากปิดปากปิดจมูก  แว่นตา  เสื้อคลุม  รองเท้าบู๊ท  และเมื่อปฏิบัติงานเสร็จแล้วก็ให้ทำความสะอาดเครื่องป้องกันให้สะอาดเพื่อใช้ในครั้งต่อไป   และรีบไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดทันที   ที่สำคัญทุกคนต้องฝึกตนเองให้ล้างมือให้สะอาดเป็นประจำ  เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายนะคะ....

คำถามน่าสนใจ

1.  มายองเนส หรือน้ำสลัดมีไข่ไก่ผสม  ยังสามารถรับประทานได้ตามปกติหรือไม่

ตอบ   มายองเนสหรือน้ำสลัดที่กระบวนการผลิตได้มีการนำไปผ่านความรู้นอกจากจะรับประทานได้ปลอดภัยแล้ว  ยังสามารถเก็บไว้ได้นานค่ะ  ถ้าจะรับประทานก็เลือกบรรจุภัณฑ์และแหล่งซื้อที่น่าเชื่อถือ  ส่วนใครที่ทำน้ำสลัดเอง แบบเดิมเราจะไม่ได้นำไปผ่านความร้อน แบบเดิมอย่างนั้นอย่าพึ่งรับประทานนจะดีกว่านะคะ  รับประทานไข่สุกจะดีกว่านะคะ

2. ต้องปรุงอาหารด้วยความร้อนเท่าไหร่จึงจะปลอดภัยจากหวัดนก

ตอบ   อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส เชื้อไข้หวัดนกก็ตายแล้วล่ะค่ะ  ดังนั้นการปรุงอาหารให้สุกโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการต้ม  ทอด  ย่าง  ก็ทำให้ปลอดภัยจากไข้หวัดนกได้แล้วค่ะ

</span><p style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="text-justify: inter-ideograph; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p> 

หมายเลขบันทึก: 79450เขียนเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2007 14:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • เข้ามาทักทายค่ะ
  • เมื่อคืนดูข่าวพบว่าที่ประเทศรัสเซียไข้หวัดนกระบาดมาก
  • สรุปว่าน้ำสลัดที่ทำจากไข่ดิบไม่ควรรับประทานใช่มั้ยคะ? (น้ำสลัดส่วนใหญ่ทำจากไข่ดิบ)

น้ำสลัดที่ทำจากไข่ดิบ  แล้วไม่ผ่านความร้อนอย่ารับประทานเลยค่ะ  ถึงไม่มีเชื้อหวัดนก ก็ไม่รู้ว่าจะมีเชื้ออย่างอื่นหรือเปล่า...อันตราย

เลือกที่เขาทำขายที่บรรจุขวดที่ต้องผ่านความร้อนจะดีกว่านะคะ  อร่อย+ปลอดภัย  แต่แนะนำอีกสูตรนึงค่ะ  "สลัดน้ำใส" หนูว่าก็แทนสลัดน้ำข้นได้ดีนะคะ  อร่อยเหมือนกัน ไม่มีส่วนผสมของไข่ด้วยค่ะ  และก็ไม่อ้วนด้วยค่ะ

เห็นมิติใหม่ของเจ้าหน้าที่ราชการพันธุ์ใหม่  ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการความรู้     ขอขอบคุณที่มีผู้นำข้อมูลข่วสารให้แก่ประชาชน  ... 

ขอบคุณ ที่ให้ข้อมูลมากเลยครับ กำลังหาข้อมูลอยู่พอดี ขออนุญาตินำไปเผยแพร่ต่อนะครับ

ขอบคุณนะคะที่สนใจ

ตอนนี้ ถ้าสนใจเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และชิคุนกุนยา ลองคลิกที่

www.kmddc.go.th นะคะ

---ล้างมือไว้...ห่างไกลหวัดจ๊ะ---

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท