คุณภาพการศึกษา
มุมมองภาคอุตสาหกรรมอาชีวะไทย
ฐานทัพ
อินทอง / เรื่อง
ในงานประชุมวิชาการ
“กึ่งทศวรรษการประเมินคุณภาพภายนอก”
หัวข้อเรื่อง มองสะท้อนคุณภาพอาชีวศึกษา
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2548 ที่ผ่านมา นำโดย
นายวิสุทธิ์ จิราธิยุต รองประธานกลุ่มเหล็ก
และรองประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์
ในมุมมองของภาคเอกชน ต่อคุณภาพทางการศึกษาของนักศึกษาอาชีวะไทย
ที่มีผลต่อการปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรม
ที่ในปัจจุบันคุณภาพแรงงานของเด็กอาชีวะต่ำกว่าความต้องการของสถานประกอบการ
ในเรื่องนี้ทางกระผม
ได้เข้าร่วมในการประชุมและเก็บรายละเอียดที่เป็นประโยชน์มานำเสนอ
ให้ได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของนักศึกษาอาชีวะของไทย
ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต…
“การสำรวจที่ผ่านมาเราจะพบว่า
ในเรื่องทักษะต่าง ๆ เด็กคิดไม่เป็น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัว
การคิดเป็นเรื่องที่มีปัญหามาก
รัฐบาลก็ให้ความสำคัญตรงนี้ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี ต่าง ๆ
เรื่องของคอมพิวเตอร์ ทักษะทางภาษา ซึ่งในอนาคตก็คงจะดีขึ้น
แต่ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ เรื่องของสิ่งที่ผู้ประกอบการคาดหวัง
และสิ่งที่พนักงานทำได้ ยังห่างไกลกันมากจะเห็นว่าในเรื่องของความรู้
ทักษะ
ยังขาดความรู้และทักษะในเรื่องอุตสาหกรรมมากทีเดียว”
กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีบทบาทมากที่สุดสำหรับความต้องการกำลังคนระดับอาชีวะศึกษา
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า...
“ในเรื่องของอุตสาหกรรมรถยนต์ พวกชิ้นส่วนยานยนต์ต่าง ๆ
ค่อนข้างที่จะมีความต้องการมาก เพราะฉะนั้นสถาบันอาชีวะศึกษา
อุดมศึกษา ทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี หรือด้านอุตสาหกรรมจะต้องมีคน
หรือบุคลากรที่จะป้อนเข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์อีกมหาศาล
หลายบริษัทชั้นนำใหญ่ ๆ
ของโลกก็ทยอยกันเข้ามาเปิดบริษัทกันที่ประเทศไทย
เปิดแม้กระทั่งเป็นโรงเรียนก็มีเปิดแล้ว อย่าง บริษัทโตโยต้า
เขาก็มีการเปิดโรงเรียนของเขาแล้ว บริษัท ฮอนด้า
ก็ได้มีการร่วมมือกับทางด้านอาชีวศึกษาเปิดโรงเรียนที่จังหวัดอยุธยาไปแล้ว…
...นอกจากนั้น ในเรื่องของชิ้นส่วนยานยนต์
ทางสถาบันยานยนต์เองก็เข้ามาช่วยผลักดันในเรื่องของการ TENNING
การฝึกอบรมต่าง ๆ มีเรื่องของมิติในการพัฒนาคุณภาพของคนอย่างมาก
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงอุตสาหกรรมหนึ่ง
ในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของประเทศ
ถ้าปัจจุบันเราสามารถมีการขยายตัวทางด้านการส่งออกมากอีกอย่างคือ
ทางด้านการไฟฟ้าอิเลคทรอนิค การที่เราได้เปิด FTA กับประเทศอินเดีย
สิ่งที่เราทราบก็คือว่า ทางบริษัท sony ได้ปิดโรงงานที่อินเดีย
หันมาขยายโรงงานที่ประเทศไทยทั้ง ๆ
ที่ค่าจ้างแรงงานของคนอินเดียถูกกว่าคนไทย
แต่ในเรื่องของคุณภาพฝีมือแล้วประเทศไทยดีกว่า...
...เพราะฉะนั้นกระบวนการทั้งหลาย ที่เราร่วมมือกันในการผลักดัน
พยายามช่วยกันทั้งอาชีวศึกษา อุดมศึกษา
สร้างกำลังคนที่มีคุณภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
เวลาที่ต่างชาติจะมาลงทุนเขาจะดู
และถามถึงเรื่องนี้เป็นอันดับแรกว่าคุณมีคนของคุณพอไหม
คนในที่นี้หมายถึง เรื่องคุณภาพ ว่าคุณมีคนที่มีคุณภาพพอไหม
ซึ่งตอนนี้เราต้องบอกว่า เรายังไม่ถึงจุดนั้นเสียเท่าไหร่
เมื่อเราไปเทียบกับระดับโลกแล้วเป็นอย่างไร
บริษัทโตโยต้าในประเทศไทยประกอบรถได้ในเวลา 1 นาทีได้ 1 คัน
ในวันนี้เป็นอันดับไม่เกินที่ 3 ของโลก แบบนี้ถึงจะสู้ได้ในตลาดโลก...
...และอีกหลาย ๆ ยี่ห้อก็ผลิตได้ไม่ต่างกันมาก
เพราะฉะนั้นในเรื่องของการศึกษาของเราต้องเรียนว่าจะต้องเรียนรู้
และพัฒนาอีกมากเพื่อที่ก้าวไปสู่ตลาดโลก ประเทศของเราเปิดเต็มที่
ถ้าไม่เก่งจริงเราก็ไม่สามารถสู้ได้ ทางด้านสภาพัฒฯ เองได้มองว่า
การที่จะสร้างความสามารถทางด้านการแข่งขันนั้น
จำเป็นจะต้องการปรับปรุงมีการพัฒนาคุณภาพในหลาย ๆ มิติ
ทั้งในเรื่องของสายการผลิต และลูกชนห้องโซ่อุปทาน
ในเรื่องของสาธารณูปโภค เรื่องการขนส่งต่าง ๆ
ซึ่งในทุกวันนี้ทางสถาบันอาชีวศึกษาในระยะต่อ ๆ
ไปจำเป็นต้องให้มีความสำคัญมากขึ้นในเรื่องของโลจิสติกส์...
...ในเรื่องของวัตถุดิบในด้านต่าง ๆ เรื่องของวิทยาศาสตร์
เรื่องของการพัฒนาคน เรื่องของการปรับปรุงในข้อกฎหมายต่างๆ
ซึ่งเป็นนโยบายของประเทศไปแล้วในเรื่องนี้ วันนี้เรามี 13
อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศที่ทางรัฐบาล และเอกชนได้คุยกันแล้ว
เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นอนาคตและเราควรที่จะทุ่มเทให้กับอุตสาหกรรมเหล่านี้
ที่จะทำงานที่จะผลิตในอีก 5 ปีข้างหน้า กว่า 9 แสนคน และใน 9 แสนคนนี้
จะต้องเป็นบุคลากรยุคใหม่ที่มีคุณภาพในการทำงาน
พร้อมที่จะทำงานทันที...
ต้องการคนที่มีศักยภาพมากขึ้นในอนาคต
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า...
“...สำหรับคนก็จะมีความยุ่งยากมากขึ้น
ในด้านงานเทคนิคที่สูงขึ้นกว่าเดิม ยกตัวอย่างของอุตสาหกรรมยานยนต์
ก็จะมีระบบที่เป็นโลจิสติกส์ ที่เป็นออโตเมชั่นต่าง ๆ มากขึ้น
ในธุรกิจบริการก็เช่นกันไม่ว่าจะเป็นในระบบของธนาคาร ระบบค้าปลีก
จะเห็นว่า มีระบบคอมพิวเตอร์ ระบบออโตเมติดต่าง ๆ
เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมาก ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ
ภาคโลจิสติกส์ส่วนใหญ่ ผู้ประกอบการยังมองว่า
ไม่ได้ต้องการพนักงานในระดับอุดมศึกษาเท่าใดนักจะเป็นในระดับอาชีวะศึกษาหรือในระดับที่ต่ำกว่านี้ที่เป็นความต้องการของผู้ประกอบการ...
...ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ภาคเอกชนได้มีการสำรวจมาแล้วถึงเรื่องนี้
ถ้าเรามองว่ากำลังคน และความต้องการของกำลังคนที่ใหญ่ขึ้นนั้น
จะไปอยู่ในจุดไหน ซึ่งจะเห็นว่าในกลุ่มของอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเลคทรอนิค
สิ่งทอ และอุตสาหกรรมอาหารจะเป็น 3 กลุ่มใหญ่ที่สุด
สำหรับความต้องการในเรื่องของกำลังคน
ในทุกวันนี้เราจะเห็นว่ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างรวดเร็ว
และมีในกลุ่มของเฟอร์นิเจอร์ที่โตขึ้นมากเหมือนกันในหลายปีข้างหน้า
แต่ไม่ได้หมายความว่าภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ
จะถดถอยลงถ้าเราดูในภาพรวมของการเติบโตแล้วอีก 5
ปีข้างหน้า...
...เพราะฉะนั้นในมิติของอนาคต
เราคงจะต้องการทรัพยากรจากทางอาชีวศึกษาที่มีความสามารถ
วันนี้เราได้มีข้อมูลวิจัยของ World
Bank ที่บอกว่าปริมาณของผู้ประกอบการ
ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ตัวเลขอยู่ในระดับพอ ๆ กัน
และในเรื่องของคุณภาพและการแก้ปัญหาคุณภาพของกำลังคนอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่า
สาหัส หรือค่อนข้างสาหัส 30 %
โดยประมาณของผู้ประกอบการจากการสำรวจ
พบว่าผู้ประกอบการไม่มีความพอใจด้านของคุณภาพของนักศึกษา
หรือแรงงานที่มีอยู่ในบริษัท และอีกหลาย ๆ
อุตสาหกรรมที่มีเรื่องของการขาดแคลนแรงงาน...
... ผมได้มีโอกาสคุยกับผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่านพบว่า
วันนี้คนไทยสามารถส่งออกได้มากกว่านี้ถ้ามีคนงาน
วันนี้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่มหลาย ๆ บริษัท
ย้ายโรงงานจากกรุงเทพฯ ไปอยู่จังหวัดชัยภูมิ ไม่น้อยกว่า 5-6 โรงงาน
เพราะว่าแรงงานแรงงานในพื้นที่นี่ไม่มี และอีกหลาย ๆ
โรงงานที่ผลิตสินค้าราคาถูกสู้ประเทศจีนไม่ได้
สู้ประเทศเวียดนามไม่ได้ แต่ในอีกหลาย ๆ โรงงานบอกว่า
ยังขาดในเรื่องของแรงงานที่จะเข้ามาในจุดนี้
ขาดคนที่จะเข้ามาในภาคอุตสาหกรรม
ในอุตสาหกรรมยานยนต์ก็เหมือนกันมีการเปิดอบรมฟรีให้เข้าอบรมกัน
ในอุตสาหกรรมแม่พิมพ์มีการให้เบี้ยเลี้ยงสำหรับผู้มาเรียนด้วยซ้ำไป”...
ปัญหาทักษะในตัวเด็ก
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า... “
สิ่งนี้ก็เป็นเรื่องของค่านิยมต่าง ๆ ในเรื่อง
“การสำรวจที่ผ่านมาเราจะพบว่า ในเรื่องทักษะต่าง ๆ
เด็กคิดไม่เป็น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัว การคิดเป็นเรื่องที่มีปัญหามาก
รัฐบาลก็ให้ความสำคัญตรงนี้ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี ต่าง ๆ
เรื่องของคอมพิวเตอร์ ทักษะทางภาษา ซึ่งในอนาคตก็คงจะดีขึ้น
แต่ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ เรื่องของสิ่งที่ผู้ประกอบการคาดหวัง
และสิ่งที่พนักงานทำได้ ยังห่างไกลกันมากจะเห็นว่าในเรื่องของความรู้
ทักษะ ยังขาดความรู้และทักษะในเรื่องอุตสาหกรรมมากทีเดียว”
ถ้าเรามองในมุมมองของเอกชนแล้วเราจะเห็นว่า
ยุคนี้เป็นยุคที่การศึกษาและเอกชนได้เข้ามามีส่วนเข้ามาใกล้ชิดกันมาก
ความร่วมมือต่าง ๆ ดีขึ้น อาชีวะเองได้มีบทบาทเข้าไปช่วยสังคม
ช่วยชุมชนมากขึ้น และอาชีวะก็มีสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ
มากขึ้นกว่าแต่เดิม”...
จุดเน้นความร่วมมือของทางรัฐบาล
และบูรณาการ
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า...
“ท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ นายจาตุรนต์ ฉายแสง
ได้เน้นในเรื่องของการให้ความสำคัญของวิทยาลัย
โรงเรียนอาชีวะเอกชนและภาครัฐ ซึ่งในสมัยก่อนเราจะเห็นว่าจะแยกกันอยู่
ต่างฝ่ายต่างอยู่ วันนี้เราคงจะต้องมานั่งทำแผนร่วมกันในส่วนของผู้ใช้
นักศึกษา และในเรื่องของผู้ผลิต
นักศึกษาโดยไม่แยกว่าผู้ผลิตนั้นจะเป็นเอกชน หรือราชการต่อไป
ผู้ใช้ก็เหมือนกันก็มีทั้งภาครัฐราชการ
รัฐวิสาหกิจเอกชนเราคงจะต้องมาจับนั่งด้วยกันว่าจะแบ่งงานกันทำอย่างไร
ในอุตสาหกรรมเองก็มีคนที่สามารถจะเป็นครูได้
อาจจะทำงานเก่งแต่สอนไม่ได้
ทางฝ่ายอาจารย์อาจจะเข้ามาช่วย...
...ยุทธศาสตร์
ที่เป็นสิ่งสำคัญในการที่ทำให้ประเทศจะเจริญก้าวหน้าต่อไปได้
จะต้องมีการพัฒนาคุณภาพจะต้องมีการเพิ่มขีดความสามารถ
และสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อความยั่งยืนมันถึงจะเกิดได้
เพราะฉะนั้นความร่วมมือต่างๆ
มันต้องเกิดจากการประสานความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย
รัฐบาลเองไม่ได้ออกไปเป็นคนค้าขายแข่งกับใครทั่วโลก
เอกชนเท่านั้นที่เป็นคนออกไปแข่ง เพราะฉะนั้นถ้าเอกชนเดินหน้า
รัฐบาลไม่สนับสนุนก็สู้กับเขาไม่ได้ เพราะหลาย ๆ
ประเทศรัฐบาลเขาสนับสนุนมากมาย กลับมามองตามสิ่งที่เราได้มองว่า
ในเรื่องของคุณภาพอยู่ของผู้ที่ใช้ผู้บริโภคพอใจหรือไม่
ถ้าเรามองว่าเราอยากจะได้ลูกศิษย์
อยากได้พนักงานที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง...
...อยากที่จะเน้นว่า
“เบื้องต้นก็ต้องเป็นคนที่มีร่างกายที่แข็งแรง
มีทักษะความรู้ที่ดีส่วนที่ภาคอุตสาหกรรมเน้นที่สุดสำหรับคนที่จะมาทำงานคือ
คนที่มีระเบียบวินัย
นักศึกษาหรือเด็กของเราในปัจจุบันนี้เกือบจะลืมคำนี้ไปแล้ว
เพราะฉะนั้นการมีระเบียบวินัยรักษาตนได้ ถ้าทำ 3 ข้อหลักนี้ได้ดีแล้ว
คุณสมบัติข้ออื่น ๆ ก็คงจะไม่ยาก”
เพราะเป็นการที่จะเปิดใจรับความรู้ในเมื่อมาเรียนในสถานศึกษาก็ควรที่จะใฝ่หาความรู้
เรียนรู้ จากนั้นก็คงจะขึ้นอยู่กับกระบวนการเรียนการสอนของท่านอาจารย์
หลักสูตรวัสดุอุปกรณ์การเรียน ความพร้อม สถานศึกษามีให้กับเด็กหรือไม่
ถ้าไม่มี สามารถจะไปยืมไปใช้ทรัพยากรของเครือข่ายจากวิทยาลัยเอกชน
หรือสถานประกอบการมาได้หรือไม่...
...การเรียนรู้จะเกิดถ้าใจของเด็กยอมรับ เขาเปิด เขาพร้อมที่จะเรียน
อยากจะรู้ เราต้องทำให้เขารู้ว่าเขาจะสามารถนำไปใช้อะไรได้บ้าง
แล้วเด็กจะมีความก้าวหน้าในชีวิตต่อไป
ตรงนี้เราต้องทำให้เขาเปิดและพร้อมที่จะเรียนรู้ได้
ที่เหลือจะตามมาเอง พอเรียนรู้แล้วมันก็จะเกิดการสื่อสารได้
ถ้าจำเป็นก็ไปใช้เรื่องของไอทีได้ ซึ่งบางคนไม่เคยใช้
บางคนหัดอ่านเองเขียนเองซึ่งไม่ต้องรอให้ครูสอน”...
ใช้ระบบทวิภาคี
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า... “เรื่องของทวิภาคี
เป็นสิ่งที่เหมาะที่สุดที่จะทำให้เด็กได้พัฒนา แต่ต้องเรียนว่า
เอกชนเองหลาย ๆ
แห่งก็ไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบต่อชีวิตของเด็กที่มาทำงานในสถานประกอบการ
ในระดับของเด็กที่มีอายุอยู่ประมาณ 16 – 17 ปี เพราะหลาย ๆ
อย่างมีอันตราย เราทำได้แต่ยังมีในเรื่องของข้อจำกัดอยู่
และเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้เด็กมีวินัย เด็กจะต้องทำงาน
ออกงานตามเวลาเหมือนพนักงานทั่วไป
เขาได้มีโอกาสเรียนรู้โลกของการทำงานเร็วกว่าเพื่อน ๆ
ที่เรียนเฉพาะอยู่แต่ในสถานศึกษา ความสามารถในการปฏิบัติงาน
และที่สำคัญเด็กจะรู้ว่าเขาจะต้องไปเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมถึงจะมาทำงานตรงนี้ต่อได้”...
ในเรื่องของการประเมินคุณภาพการศึกษา
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า...
“ถ้าเรามองถึงเรื่องของการประกันคุณภาพตอนนี้มีในเรื่องของคุณภาพการศึกษา
คุณภาพคนที่มีการเขียนแยกกันไว้ แต่จริง ๆ แล้วมันซ้อนกันอยู่
แต่ถ้าอาจารย์จะนำไปประเมิน
ก็คงจะต้องดูเรื่องของปัจจัยเหล่านี้เป็นปกติอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่อยากจะนำเสนอกับอาจารย์คือ กรอบของรางวัลคุณภาพแห่งชาติ
ซึ่งทางสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งประเทศไทยใช้ในการให้รางวัลกับบริษัทธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง
ๆ ซึ่งเป็นระบบการประเมิลคุณภาพที่ดี
ในเรื่องของการดำเนินงานมีระบบเป็นอย่างไร
มิติที่อยากจะเรียนท่านว่ามันเป็นส่วนที่ขับเคลื่อนขบวนการคุณภาพ
ความคาดหวังของธุรกิจต่อสถานศึกษาต่าง ๆ
ฝันว่าเด็กที่จบออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร
แต่ในด้านของสถานศึกษาอาจจะยังมีผลอื่น ๆ อีกมากมายอย่าง ผลงานวิจัย
ผลงานสิ่งประดิษฐ์ ผลงานที่จะทำประโยชน์ให้กับชุมชน
ผลงานทางด้านศิลปะวัฒนธรรมอื่น ๆ ยังมีอีกมาก
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่ท่านอาจารย์ที่เป็นผู้ประเมิน
หรือเป็นผู้บริหารสถานศึกษา
สามารถที่จะหยิบประเด็นเหล่านี้ไปศึกษาแล้วดูว่าในองค์กรของเรา
เราจะพัฒนาอย่างไร
ผมเห็นด้วยกับการประเมินที่เป็นเกณฑ์นั้นมีประโยชน์อย่างยิ่ง
มิติที่จะได้คุยและหารือกันเพื่อที่จะพัฒนาขึ้นไปนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด...
...กระบวนการในสถานศึกษาคืออะไร
สถานศึกษาคือการพัฒนาบุคลากรตั้งแต่ผู้บริหาร ครูอาจารย์
ครูฝึกที่อาจจะอยู่ในสถานประกอบการ ตลอดจนตัวของเด็กนักเรียนเอง
การจัดการในมิติของสถานศึกษาคือ
เรื่องของการจัดการหลักสูตรการเรียนการสอน ทำได้เหมาะกับท้องถิ่น
เหมาะกับความต้องการของบุคลากรในท้องที่หรือไม่
หลักสูตรของเรายังแข็งไปมีความยืดหยุ่นที่จะรองรับ
ทั้งการเปลี่ยนแปลงของโลกและการเปลี่ยนแปลงของท้องถิ่น
เพราะฉะนั้นกระบวนการตรงจุดนี้ทั้งหมดคือ ระบบ
ซึ่งจะต้องมีการเก็บข้อมูล
ตัวอย่างข้อมูลศิษย์เก่าที่จบการศึกษาไปแล้ว มีความก้าวหน้าอย่างไร
เก่งแค่ไหน สามารถที่จะเชิญกลับมาเป็นอาจารย์ เป็นวิทยากรได้หรือไม่
ลูกศิษย์สามารถกลับมาสอนครูได้หรือไม่ สิ่งต่าง ๆ
เหล่านี้จะเป็นปัจจัยที่เอื้อให้เกิดการสะสมความรู้ขึ้นในสถาบัน...
...ถ้าอาจารย์มีระบบ Knowlage Management ระบบการจัดการความรู้ที่ดี
สถานศึกษาเป็นแหล่งที่รวบรวมและเรียบเรียงความรู้อยู่แล้ว
รวมทั้งมีโอกาสที่จะสร้างความรู้ใหม่ได้
กระบวนการเหล่านี้เกิดได้ถ้าเรามีใจ
มีโอกาสมีทรัพยากรที่เอื้อต่อการหาความรู้ ในระบบของรัฐบาลเองก็คาดว่า
คงจะมีปัญหาเรื่องของทรัพยากรอยู่มาก
มีกระบวนการเรียนการสอนในเรื่องของการพัฒนาครูอาจารย์
ในเรื่องของรายละเอียด Student Center ซึ่งเหมือนกับนโยบายใน
พ.ร.บ.การศึกษา มีเรื่องของตัวหลักสูตร มีเรื่องของครูอาจารย์ พนักงาน
ครูฝึก มีเรื่องของเครื่องมือ อาคารเรียน มีเรื่องของการเงิน
และจะเห็นว่าจะมีกระบวนการในเรื่องของศิษย์เก่าอยู่
ในเรื่องของกลยุทธ์นั้น
จะต้องมีนักศึกษาที่มีคุณภาพเพียงแต่จะทำอย่างไร
จะมีอะไรเป็นเครื่องชี้วัด ซึ่งมีรายละเอียดมาก
แต่ยังไม่แน่ใจว่ารายละเอียดในการประเมิลของเราหรือของเขาจะละเอียดกว่า
แต่ทั้งหมดก็เป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาได้
เราเริ่มทำไปแล้วเราสามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงได้
ทุกอย่างไม่ตายตัวสามารถที่จะพัฒนาได้ตลอด
เพียงแต่เราต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันเท่านั้น...
นายวิสุทธิ์ จิราธิยุต
กล่าวทิ้งท้าย...
ความคิดเห็นของท่านเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการอาชีวศึกษา
จึงขอนำข้อคิดเห็นนี้เชื่อมโยงในเว็บ
การอาชีวศึกษาไทย
ขอได้รับการคารวะ
ปรัชญนันท์ นิลสุข