อนงค์ศิริ
รองศาสตราจารย์ อนงค์ศิริ วิชาลัย

ทำไม คนเรียนเก่งจึงไม่มีความสุข


ตราบใดที่เรายังจัดการเรียนการสอนแบบส่งเสริมให้คนเก่ง หรือมีความรู้แต่ไร้คุณธรรม เราก็จะได้คนเก่งที่ไม่มีความสุข เราจะพบด๊อกเตอร์มหาภัย คนแล้วคนเล่า

ในการทำงานร่วมกันของคนแต่ละองค์กร

เราจะพบพฤติกรรมของเพื่อนร่วมงาน ร้อยอันพันอย่าง

เพราะ    ....ปูมกำเนิดย่อมแยกคนแตกต่าง

                 ให้มากบ้างน้อยบ้างไม่ทางไหน

                 เพราะต่างจิตทุกอย่างล้วนต่างใจ

                 เรื่องเดียวกันคิดได้ละร้อยทาง  (ท่าน ศ. ระพี  สาคริก ประพันธ์ไว้นานแล้ว)

แม้จะต้องพยายามทำใจรับพฤติกรรม ตามหลักจิตวิทยาที่เคยเรียนรู้และหลักธรรมสอนใจ  แต่กระนั้น  ข้าพเจ้าก็อดคิดว่า  คนที่ทำให้คนอื่นหรือเพื่อนร่วมงานต้องทำใจ ต้องอดทนและจำยอมนั้น  เขากลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด  ว่าได้ทำอะไรลงไป แล้วกระทบถึงเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆอย่างไร 

พฤติกรรมของคนดังกล่าวนี้  ไม่น่าเชื่อว่าเป็นผู้ที่เรียนเก่ง มีปริญญาหลายใบ  เขาไม่ได้ใช้ความเก่งของเขาในทางสร้างสรรค์ทางวิชาการเพราะพยายามติดตามว่าเขามีผลงานอะไรในห้องสมุด หรือปรากฏInternet  บ้าง  กลับพบว่ามีผลงานน้อยชิ้น  แต่เขากลับใช้ความเก่งของเขาในการทิ่มแทง  เสียดสี จ้องจับผิดคนอื่น กล่าวหยามเหยียดผู้คนไม่เว้นแม่แต่ผู้บังคับบัญชา    ก็ไม่ลดละ 

ข้าพเจ้ามองเขาด้วยความเวทนา  เขารู้ทางโลกแต่ไม่รู้ทางธรรม( ธรรมของข้าพเจ้าหมายถึง ธรรมชาติ )เพราะวิชาความรู้ในตำราสอนให้เขาไม่เข้าใจชีวิต  ไม่รู้จักตนเอง ไม่รู้จักบุคคลและชุมชน ไม่รู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร   เขาไม่มีความสุข เพราะอาการของคนมีความสุขหรือคนที่มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์( เก่ง ดี มีความสุข)  อย่างน้อยก็น่าจะเข้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  ว่าต้องการอะไร ต้องการให้คนอื่นปฏิบัติต่อเราอย่างไรและเราควรปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไร

ดูหนังดูละคร กลับมาย้อนดูหลักสูตรและการเรียนการสอนของเราปัจจุบัน   ถ้าครูไม่ได้สอนวิชาความเป็นคน  ไม่ได้สอนวิชาชีวิต ก็เชื่อได้ว่า ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด  เกิดพฤติกรรม

                                       เก่ง.....แต่โกง

                                      ดี......แต่ซื่อ(บื้อ)

หรือไม่ก็    ประเภท  ไม่มีปัญญา  วาจาไม่ดี   ไม่มีน้ำใจ อยู่ใกล้แล้วเจ็บปวดตามๆกัน

เราจัดการศึกษาด้วยระบบแข่งขัน แก่งแย่งชิงชัย เหยียบบ่าเหยียบไหล่คนอื่น เพื่อสู่ความเป็นหนึ่งมานาน  นานมากจนเกิดอาการ สังคมไม่มีความสุข  พฤติกรรมของคนในสังคม  คือผลการเรียนรู้ที่เราจัดกันในอดีตทั้งสิ้น    และจะเกิดตลอดไป  ถ้า...ตราบใด เรายังจัดการเรียนการสอนแบบส่งเสริมให้คนเก่ง หรือมีความรู้แต่ไร้คุณธรรม  และเราก็จะได้คนเก่งที่ไม่มีความสุข  เราจะพบด๊อกเตอร์มหาภัย คนแล้วคนเล่า

ถึงเวลาแล้วหรือยัง  ที่เราหันมาเอาจริงเอาจังเรื่องการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ทุกคนพัฒนาศักยภาพของแต่ละคน  ให้เขาเป็นคนดี มีน้ำใจ อยู่ใกล้แล้วเป็นสุข  กันเสียที

 

คำสำคัญ (Tags): #เหตุใด
หมายเลขบันทึก: 77221เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2007 17:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการพัฒนาจิตใจไปพร้อมๆ กับการพัฒนาสติปัญญาค่ะ คนเก่งหากไม่มีการพัฒนาวุฒิภาวะ ก็เหมือนเรือที่ไม่มีหางเสือ วิ่งไปโดยไร้จุดหมาย ดีไม่ดีก็วิ่งชนคนอื่น เจ็บตัวกันไปตามๆ กัน...

มีเยอะครับท่านอาจารย์ อย่างที่แรกว่า "ฉลาดแล้วแกมโกง" อย่างที่ท่านนายกคนปัจจุบันท่านต้องการหรือแม้แต่สังคมไทยก็ต้องเรียกร้องแล้ว คือ คุณธรรมนำความรู้ ในยุคนี้คงไม่สายเกินไปครับ

  • แวะมาทักทาย
  • เห็นด้วยกับการพัฒนาคนให้เป็นคนดีที่ไม่โกง
  • ขอเพิ่มเติมพื้นฐานสำคัญอีกอย่าง คือครอบครัว เพราะการศึกษาอย่างเดียวพัฒนาคนไม่ได้

เรียน อาจารย์อ้อม คุณกัมปนาท อาชา(แจ๊ค) และคุณก้านแสด

ขอบคุณค่ะสำหรับการแวะทักทาย

เห็นด้วยอย่างยิ่งที่เราต้องช่วยกันพูด ช่วยกันสร้าง

คนที่ทำชั่วในสังคมมิใช่คนด้อยปัญญา

แต่เป็นคนเก่งที่ใช้สมองไปในทางทำลายคนอื่น

ทำไมทำลาย ก็เพราะเขาไม่มีความสุข

ผมมองต่างน่ะ มองอย่างเป็นกลาง ทุกคนมีทั้งที่ดีและเลว และปรากฏการณ์นี้เป็นทั่วโลก ก็คือคนเรียนสูงไม่ได้หมายความว่าต้องเก่งและดี ฉะนั้นไม่อยากให้ใช้กรอบคิดไปมองว่าคนเรียงสูงต้องดี พอมีกรอบแบบนี้แล้วถ้าคนๆ นั้นไม่เป็นแบบที่เราคาดหวัง ก็ต้องมาเขียนระบายอย่างนี้

สวัสดีค่ะ

  • คนแบบที่เอ่ยถึงนี้...ในสังคมมีมากมาย
  • จะเก็บพวกนี้ไว้พวกหนึ่ง...ที่ไม่อยากสัมผัส..โดยไม่จำเป็น
  • ครูอ้อยอ่านแล้วรู้สึกความรู้สึกตรงใจกันเลยค่ะ
  • เปลี่ยนพวกนี้ไม่ได้หรอกค่ะ...เราไม่ต้องพบพานพวกนี้ก็แล้วกันค่ะ

ขอบคุณนะคะ

จริญา สุธรรมแจ่ม รหัส 49121432

เรียนอาจารย์อนงค์ศิริ

ข้าพเจ้านางสาวจริญา สุธรรมแจ่ม รหัศ 49121432 สาขาวิขาการศึกษาพิเศษ

รู้สึกเห็นด้วยเป็ยอย่างยิ่งกับคนในปัจจุบันที่แข่งขันกันทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน เรื่องทั่วไปแม้กระทั่งเรื่องแฟนว่าฉันต้องดีกว่าเธอนะ ทุกอย่าง รู้สึกสงสารคนเช่นนี้เหมือนกัน คิดว่าน่าจะเป็นปมด้อยที่ติดตัวมากตั้งแต่ในวัยเด็กหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้

เดี๋ยวนี้คนเรามองหน้าไม่รู้ใจ บางครั้งคบกันไปเป็นเพื่อนนานๆ กลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเข้าจนได้ การไม่คิดอะไรก็เป็นสิ่งที่ดีเครียดมากไปก็ปวดหัว ตอนนี้เริ่มวางเฉยกับทุกสิ่งที่เข้ากระทบกระทั่งจิตใจ บางครั้งเราก็ไม่ได้มีอะไรให้อิจฉาก็ยังมาเบียดเบียน จนเราไม่รู้ว่าใครต้องการอะไรจากเรากันแน่

เป็นกำลังใจให้อาจารย์ในการทำงานและการต่อสู้อุปสรรคต่างๆ นะคะ พวกหนูๆ จะได้มีบทความดีๆให้อ่านและได้ติดตามเรียนรู้ต่อไป สู้ๆๆๆๆ นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท