เล่าเรื่องการไปปฎิบัติธรรมเจริญมหาสติปัฎฐาน ตามแนวหลวงพ่อเทียนที่วัดสนามใน


คนทุกวันนี้ขาดสติเพราะคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องในอดีตและอนาคต ทำให้คิดปรุงแต่งฟุ้งกระจาย

    เมื่อวันที่ 5-7 ก.พ. ผมไปปฏิบัติธรรมที่วัดสนามใน ต.บางกรวย จ.นนทบุรี ใกล้สถานีรถไปบางบำหรุ หลังจากที่ได้หาเวลามานาน ที่นี่มีอะไรที่แปลกใหม่ ที่ไม่ใช่การฝึกสมาธิ (พุทโธ/ยุบหนอพองหนอ ฯลฯ) แต่เป็นการเจริญสติ ตามข้อค้นพบของหลวงพ่อเทียน จิต.ตสุโภ อดีตเจ้าอาวาสวัดนี้ และท่านมรณภาพไปเมื่อ พ.ศ.2531 แต่คำสอน(ข้อค้นพบของท่าน) กำลังเป็นที่สนใจมากขึ้น ขณะนี้มีสาขาสอน/ฝึกปฏิบัติธรรมตามแนวทางนี้ถึง 60 สาขา ส่วนใหญ่จะอยู่ทางอีสาน
    แนวทางนี้จะฝึกการเจริญสติ
หลวงพ่อเทียนกล่าวว่า การฝึกสมาธิจะได้ความสุขชั่วขณะ เป็นการขจัดกิเลสเบื้องต้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถขจัดกิเลสและความทุกข์ให้หมดไปได้ มีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะขจัดได้คือ การเจริญสติ และทำให้เกิดปัญญา ที่เรียกว่า ปัญญาญาณ (ตรงกับหนังสือที่ ดร.ประพนธ์ เขียน)
      หลวงพ่อเทียนบอกว่า คนทุกวันนี้ขาดสติเพราะ
คิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องในอดีตและอนาคต ทำให้คิดปรุงแต่งฟุ้งกระจาย คนที่มีสติต้องรู้ตัวเองในปัจจุบัน จะนั่ง กิน นอน เดิน ทำกิจกรรมประจำวันอะไรก็ขอให้รู้ การรู้ทำให้เกิดสติ ไม่ใช่การคิด
    ศ.นพ.ประเวศ วะสี ได้เขียนในคำนำ หนังสือ แด่เธอผู้รู้สึกตัว” ของหลวงพ่อเทียน ไว้ตอนหนึ่งว่า “มนุษย์นั้นประกอบด้วย กาย กับ ใจ หรือบางทีก็เรียกว่า รูป กับ นาม ใจยังแบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบคือ การรับรู้ (วิญญาณ) ความจำ (สัญญา) ความคิด (สังขาร) ความรู้สึกทุกข์ (เวทนา) ทั้งหมดเรียกว่า ขันธ์ 5 … คนที่ถูกด่ามาหลายวันแล้วยังเจ็บแค้นเป็นเวทนา เกิดจากคิด คิดเกิดจากจำ จำเกิดจากการรับรู้ สัมผัส(การด่า) …ความทุกข์ของมนุษย์อยู่ที่ความคิด ขณะที่คิดจะไม่รู้ ขณะที่รู้ไม่คิด”
    หลวงพ่อเทียนจึงสอนให้อยู่กับปัจจุบันของการเคลื่อนไหวทุกขั้นตอน ในชีวิตประจำวัน เมื่อฝึกบ่อยๆจิตจะอยู่กับปัจจุบันมากขึ้นๆ จะพบว่ามีความสงบที่ไม่เคยพบมาก่อน วิธีหลักๆในการฝึกให้รู้ หรือฝึกสตินั้น หลวงพ่อเทียนค้นพบอุบายด้วยตนเองในท่านั่ง ไม่ต้องหลับตา เพราะไม่ใช่ฝึกสมาธิ โดยทำมือสองข้างเคลื่อนไหว 15 ท่า (ทำง่าย ชัดเจนมาก ผมอ่านหนังสือเที่ยวเดียว ดูเขาทำรอบเดียวก็ทำได้) นี่คืออุบายหลัก สลับกับการเดินจงกรม โดยไม่ต้องหลับตา และไม่ต้องท่อง ซ้ายย่างหนอ ขวาย่างหนอ เพียงแต่ให้รู้ว่ากำลังเดินอย่างเดียว ไม่ให้จิตวอกแวกไปที่อื่น ทำบ่อยๆเข้าก็เกิดสติโดยไม่รู้ตัว นอกนั้นก็เป็นกิจกรรมเสริมคือไม่ว่าจะทำอะไร ให้จิตจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นที่เป็นปัจจุบัน แม้จะอยู่ในที่อึกทึกครึกโครมก็เจริญสติได้ ไม่เหมือนการนั่งสมาธิที่ต้องอยู่ในที่สงบ
     วัดสนามในสงบ ร่มรื่นมาก ไม่มีถนนเข้าถึงวัด ที่พักสบาย จะมีคนวนเวียนเข้าไปปฎิบัติธรรมกันไม่ขาด แต่ก็ไม่มากนัก คนปฎิบัติธรรมเขาจะไม่คุยกัน ทุกคนสืบค้นหาความจริงด้วยตนเอง ตามจริตของแต่ละคน แล้วรักษาอารมณ์นั้นไว้ จะมีพระอาจารย์ที่ปฏิบัติในสายนี้วนเวียนมาสอน รวมทั้งภิกษุจากวัดทั่วไปก็มาฝึกกันที่นี่เป็นประจำ ปัจจุบันเจ้าอาวาสคือหลวงพ่อทอง เป็นศิษย์คนสนิทของหลวงพ่อเทียน
    หลวงพ่อทองมีอุบายการสอนที่ลึกล้ำมาก ท่านจะตรวจสอบจิตของผู้มาฝึกปฎิบัติด้วยวิธีการต่างๆ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้ติดตามพระออกบิณฑบาตร โดยผมหิ้วถุงสะพายย่าม ติดตามหลวงพ่อทองไป 2 วัน ได้อะไรมากทีเดียว ท่านมีเมตตาสูงมาก
     ผมไปแค่ 3 วัน ยังไม่ก้าวหน้ามากนัก แต่ก็ดีขึ้นมาก โล่งสบาย ไม่คิดฟุ้งซ่าน เริ่มคุมสติอยู่กับตัวได้มากขึ้น เพื่อนร่วมปฎิบัติธรรมช่วงที่ผมอยู่มีทั้ง
คนไทย คุณหมอ นักธุรกิจ ข้าราชการ คนฝรั่งเศส คนไต้หวัน และคนจีนด้วย ส่วนใหญ่ที่มาเขาจะมีพื้นการฝึกสมาธิมาแล้ว บางคนถึงขั้นสูงทีเดียว แต่เขาก็ยังพบว่าไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง จึงมาแสวงหา และเริ่มต้นฝึกใหม่ที่นี่
     มี
หนังสือหลายเล่มของหลวงพ่อเทียนที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย เช่น แด่เธอผู้รู้สึกตัว คู่มือการทำความรู้สึกตัว คนจริงรู้ของจริง อารมณ์กาปฎิบัติ ทำพระนิพพานให้แจ้ง ธรรมะแท้ต้องรู้อย่างเดียวกัน และนอกคัมภีร์ เหนือตำรา(ของหลวงพ่อทอง) รวมทั้ง ซีดีอีกมากมาย ที่วัดนี้แปลกไม่เหมือนวัดอื่น คือไม่มีตู้บริจาค คนมาปฎิบัติธรรมไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้น แต่มีข้าวให้ทาน 2 มื้อ และน้ำปานะ ทั้งหมดได้มาจากข้าวก้นบาตรที่พระไปบิณฑบาตรมา ถ้าไม่พอจึงทำอาหารเสริม หนังสือก็ไม่จำหน่าย แต่สามารถช่วยเหลือค่าพิมพ์ได้ แต่ถ้าใครต้องการบริจาคบำรุงวัดก็บริจาคได้ โดยมีใบอนุโมทนาบัตรให้ทุกบาททุกสตางค์
ท่านใดสนใจไปสัมผัสบรรยากาศที่นี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-883-7251 ครับ..

หมายเลขบันทึก: 76960เขียนเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2007 16:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 09:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบคุณท่านอาจารย์ธเนศที่นำสิ่งดีๆ มาเผยแพร่ในชุมชน gotoknow ...อยู่ไม่ไกลด้วย ...น่าสนใจมากครับ

สวัสดีค่ะ ดิฉันไม่เคยไปปฎิบัติธรรม หรือแม้การทำบุญเข้าวัด เคยแต่ใส่บาตรค่ะ ดิฉันสนใจไปปฏิบัติธรรมเพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่คิดแต่ด้านลบ ความรู้สึกแรกที่ได้คุยกับใครซักคนไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง สิ่งๆแรกที่จะพูดถึงคนๆนี้คือด้านลบเสมอ (คิดในใจ)ดิฉันคิดว่าต้องมาฝึกปฏิบัติธรรม การช่วยเรื่องความคิดและสมาธิน่าจะดีกับดิฉันค่ะ

แต่ดิฉันมีปัญหาดังนี้ค่ะ

1.ดิฉันไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรในขณะที่อยู่กับวัด เพราะจะไปคนเดียวค่ะ

2.การสัมรวมวาจา และกริยา มันต้องประมาณไหนอ่ะค่ะ (ไม่เคยเข้าวัดอ่ะคะ)

3.ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ค่ะ และต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง

รบกวนช่วยตอบคำถามด้วยนะค่ะ เมล์ดิฉัน [email protected]

การจะทำให้ใจเราสงบ ก็ควรอยู่ในบรรยากาศที่งดการพูดคุยกัน มุ่งปฏิบัติด้วยตนเอง แรกๆอาจอึดอัด แต่ฝึกต่อไปเรื่อยๆจะรู้สึกจิตใจเราสงบ มีสติมากขึ้น ได้ด้วยตนเอง

ที่วัดนี้ไม่เรียกเก็บเงินใดใด ยกเว้นท่านจะทำบุญ บำรุงวัด ก็แล้วแต่ศรัทธาครับ

สวัสดีค่ะ ดิฉันไม่เคยไปปฎิบัติธรรม เคยแต่ทำบุญเข้าวัด เคยแต่ใส่บาตรค่ะ ดิฉันสนใจไปปฏิบัติธรรมเพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่คิดฟุ้งซ่าน และมีปัญหาทุกข์ใจตลอกเวลาดิฉันคิดว่าต้องมาฝึกปฏิบัติธรรม การช่วยเรื่องความคิดและสมาธิน่าจะดีกับดิฉันค่ะ

ถึงคุณวิมลรัตน์ หากคุณเป็นคนฟุ้งซ่าน

ปฎิบัติในแนวหลวงพ่อเทียนก็ดีนะคะ

ให้คอยมีสติรู้ตัวหากเมื่อเผลอคิดให้กลับมา

อยู่ที่ความรู้สึกตัวใหม่

ทำวนอยู่อย่างนี้จนกว่าจะคล่องและรู้ตัวได้บ่อย

จะทำให้ความคิดฟุ้งซ่านน้อยลง

หรือจะลองตามลมหายใจแบบความสบายๆ

โดยการนอนฝึก ให้ตามลิงค์นี้ไปนะคะ

http://www.asomsanti.com/forums/viewtopic.php?f=3&t=92

http://www.asomsanti.com/forums/viewforum.php?f=3&sid=c54c5713a33008a06fc7765e1e652cd6

เจริญในธรรมนะคะ

ผมฝึกสายหลวงพ่อเทียนอยู่ครับ ใช้ประโยชน์ได้จริงครับ

สวัสดีค่ะ

ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดนี้มาบ้างแล้วค่ะ ตั้งใจจะไปปฏิบัติทุกปี แต่ด้วยภาระค่ะ

ปีนี้เลยยังไม่มีโอกาส

อยากเชิญชวนให้ลองไปปฏิบัติดูนะค่ะ เพราะยิ่งจะเป็นการดีสำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้าวัดมาก่อน เพราะ

ที่นี่ไม่ได้เคร่งมากนัก เพียงแต่เมื่อคุณเข้าไปแล้ว คุณจะเริ่มเรียนรู้ได้ด้วยตนเองว่า อะไรคือ "สติ"

รับรองไม่ผิดหวังค่ะ การปฏิบัติที่นี่จะขึ้นอยู่กับตัวคุณที่จะต้องเอาชนะความเกลียจคร้านให้ได้นะค่ะ

แค่เพียง 3 วัน หากคุณมีมานะทีจะปฏิบัติ ดิฉันเชื่อว่าคุณจะได้ค้นพบบางสิ่งที่คุณจะเรียกว่า พิเศษ

ส่วนผู้ที่เคยฝึกการเจริญสมาธิมาบ้างแล้ว ก็สามารถนำมารวมไว้ใช้ในชีวิตประจำวันได้นะค่ะ อย่างเพิ่ง

คิดว่า การฝึกสติแล้วจะดีอย่างเดียวค่ะ

วรรณรัตน์

สวัสดีค่ะ

หนูอยากไปปฎิบัติธรรมที่วัดสนามใน อ่าค่ะ

แต่ไม่รู้ว่า ทางวัดรับสมัครยังไง เปิดให้ปฎิบัติธรรมวันไหนบ้างค่ะ

ต้องเตรียมตัวไปพักกี่คืน เอาอะไรไปบ้างอ่ะค่ะ

ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ^^

ไปได้ทุกวันครับไม่มีพิธีการอะไรยุ่งยาก ติดต่อถามรายละเอียดตามเบอร์โทร.ท้ายบันทึกของผมครับ อยากให้อ่านบันทึกถึงหลวงพ่อสมบูรณ์วัดสนามใน ในอีกบล็อกหนึ่งด้วย(ดูที่สารบัญ) ผมประทับใจท่านมาก และมีท่านหนึ่งบันทึกเมื่อหลังสุด น่าอ่านมาก ลองเปิดดูนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท