<div style="text-align: center"></div><p>ดิฉันมาบ้านครูบาสุทธินันท์ทุกครั้งต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างหน้าตาสวนและบริเวณรายรอบที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา </p><p> หน้าอาคารที่อยู่ข้างคอกนกกระจอกเทศ นั้นเดิมเคยมีสระน้ำขนาดใหญ่ มีผักปลูกรายรอบy
ข้างบ้านด้านที่ติดกับลานไผ่ เดิมเป็นบริเวณปลูกผักถัดลึกลงไปด้านหลังเป็นสวนมะนาว
ลานไผ่เดิมมีไผ่ปลูกเป็นสิบ ๆ กอแน่น เป็นที่หาคุ้ยเขี่ยอาหารของประดาไก่ทั้งหลาย
ใต้ถุนอาคารราษฏรส่งเสริม เป็นอาคารโล่งมีเฉพาะส่วนที่เป็นห้องสมุดและห้องทำงานปัจจุบันของครูบา ห้องครัวและห้องน้ำ
บริเวณทางเข้าที่เคยปลูกยูคา บัดนี้กลายเป็นแปลงไม้ตะเคียน หน่อไม้ฝรั่ง ขมิ้นชัน ต้นสาน ชะอม และ .....
อื่น ๆ และอื่น ๆ </p><p> พลังของการเรียนรู้ การปฏิบัติได้แผ้วถางทางให้สร้างสรรค์ แปลกใหม่ ไปได้เรื่อยๆ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวอย่างเป็นพลวัตเหล่านี้มีบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังค้ำจุนความมั่นคงทางกระเพาะอาหารของผู้คนอยู่อย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย ได้ผลิตเมนูสู่ปากท้องของผู้คนทุกปากท้อง ครูบารู้จักผู้คนมากมายเพียงไร น้องฉวีก็ได้รู้จักด้วยมากมายเพียงนั้น</p><div style="text-align: center"></div><p> ครูบาคิดว่า เมนูที่น้องฉวีทำได้อร่อยที่สุดคือ ชุด น้ำพริกกะปิ แต่พวกเราเห็นแย้งว่า แทบทุกเมนูมันอร่อยไปหมดเมื่อไปอยู่ที่บ้านครูบา มันเป็นอาหารพิเศษ ที่กินในที่พิเศษกับคนที่พิเศษไม่เหมือนใคร</p><p align="center"></p><p> นอกจากนี้น้องฉวี ในวัยสาวรุ่นกว่านี้ก็ยังขับรถซิ่งอย่าบอกใคร สมัยก่อนถนนบุรีรัมย์มาสตึก เต็มไปด้วยหลุมบ่อเพราะทานกับน้ำหนักรถขนหินสิบล้อไม่ไหว เป็นหลุมบ่อที่พิเศษเพราะเป็นหลุมที่กว้างและลึกและคว้านรอบ ๆ หลุม เป็นแอ่งกระทะที่คว้านโค้งที่ปากกะทะ ก็ต้องค่อยไปค่อยมา น้องฉวีบอกว่า
“ แหม พี่ตุ๊ เราจะไปมัวหลบหลุมทำไม ก็ไม่ถึงไหนซักที ดีไม่ดีรถข้างหลังมันจะมาชนเราอีก มันต้องผ่าไปเลย หลบทางไหนก็ไม่พ้นอยู่แล้ว “
น้องฉวีขับรถแต่ละครั้งล้อลอยจากถนนเลยล่ะค่ะ </p><p> งานมหาชีวาลัยอีสาน ๒ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ คราวนี้เป็นงานใหญ่ที่มีผู้มาร่วมจากหลายฝ่าย ทั้งผุ้ใหญ่ เด็กเยาวชนรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ และมีผู้อยู่เบื้องหลังอีกหลายคน</p><p> ดิฉันไปถึงงานก็เกือบสิบโมงเช้า เนื่องจากดิฉันค้างคืนที่พื้นที่พ่อคำเดื่องก็เลยถือโอกาสแวะเยี่ยมเยียนบ้านเก่าของตนเองใช้เวลามากไปหน่อย</p><p> </p><div style="text-align: center"></div><p> พอมาถึงงานก็เห็นผู้คนขวักไขว่ ส่วนหนึ่งก็เดินมาชมนกกระจอกเทศ ได้ความว่าพวกพ่อ ๆ มาจากมหาสารคาม เป็นกลุ่มทำปุ๋ยชีวภาพ พ่อคนนี้ดิฉันไม่ทราบชื่อ ยืนดูนกกระจอกเทศ จับตามองเป๋งและแย้มยิ้มที่มุมปาก เพลินกับการเฝ้าดูอากับกริยาของนกอย่างสนใจ แม้ดิฉันเข้าไปคุยด้วย พ่อก็ตอบคำถามดิฉันโดยสายตาไม่ละจากนกแม้วินาทีเดียว</p><p>ครูบายังคงเอกลักษณ์ที่พวกเราแอบตั้งไว้ให้สมัยก่อนว่า เล็ก ๆ มิต้าไม่ ใหญ่ ๆ ครูบาทำ!!!!!!!!</p><p>จะปลูกสะตอเหรอ เอากล้ามันมาเลย หนึ่งรถสิบล้อ ...... ป้าดติโท้
</p>
อ่านเอางาน
ที่อาจารย์แสวง ไปร่วมงานวันที่4แล้วอิจฉาๆๆ
อ่านเอาเรื่อง
ที่คุณตุ๊เขียนแล้วปลื้ม ยืมความฝันวันเก่าเอามาปัดฝุ่นใสแจ๋วแวววับ
เล็กๆมิต้าไม่ ใหญ่ๆก็ไหม้ๆๆ ไม่เหมือนเดิมหร๊อก!!
อ้วนขึ้นค่ะ นิ่งขึ้นค่ะ ขยันเหมือนเดิมค่ะ ถ้าได้อยู่สวนบ่อยๆ ไม่ต้องขึ้นล่องกรุงเทพฯ คาดว่าสวนจะมีอะไรแปลกใหม่ขึ้นอีกเยอะ... รู้ได้ยังไงว้าเรา
นั่นนะสิ น้องหนู หนูต้องมาพิสูจน์ค่ะ
ครูบาคะ
เล็กๆมิต้าไม่ ใหญ่ๆก็ไหม้ๆๆ ไม่เหมือนเดิมหร๊อก!!
จริง ด้วยค่ะ นึกออกแล้ว เจอครูบาเที่ยวนี้ได้ยินปรารภใหม่จากครูบาแว่ว
มันต้องทำในจุดเล็ก ๆ ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะเหวียงแบบที่ใคร ๆ ก็ทำนั่นน่ะ