เมื่อหลายเดือนก่อน.ฉันได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่มีชื่อว่า..ลิ้มรสสิ่งที่อยู่ในใจ....
เนื้อความในหนังสือเป็นคำให้สัมภาษณ์ของพระอาจารย์
ปะสันโนภิกขุ แห่งวัดอภัยคีรี แคริฟอเนีย สหรัฐอเมริกา ..
ดูที่ปกหนังสือเป็นรูปวาดดอกกล้วยไม้สีขาว ด้วยศิลปะสีน้ำมัน
เนื้อความในบทสัมภาษณ์นั้น เป็นเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ
นายจาตุรันต์ ศิริพงษ์ หรือ เจ เขาถูกจับในสหรัฐฯเมื่อปี ๒๕๒๖ ข้อหา
ปล้นร้านการ์เด้นโกรฟ มาร์เก็ต และลงมือฆ่าเจ้าของร้าน..
ศาลตัดสินประหารชีวิต เจ แต่เขายื่นอุทธรณ์ จึงรอคดีอยู่ ๘ ปี
ในที่สุดการอุทธรณ์ไม่เป็นผลเขามีกำหนดประหารชีวิตอย่างแน่นอน..
นั่นคือเรื่องของเจ..แต่สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่การปฏิบัติขณะรอความตาย
ซึ่งเป็นความตายที่เป็นรูปธรรมจริงๆ มีวันเวลาแน่นอน วันนั้น วันนี้ เวลานั้น
เวลานี้ เขาจะตาย..แต่ เจ ใช้เวลา ๘ ปี ศึกษาพระธรรม ฝึกจิต
พัฒนาจิต ตอนเขาอยู่ในเรือนจำ..เพื่อรอวันเผชิญกับความตาย..
โดย ๓ วันสุดท้าย ผู้นำทางจิตวิญญาณของศาสนาคริสได้ติดต่อ
ให้ท่านพระอาจารย์ปะสันโน เข้าไปเป็นที่พึ่งทางใจ ให้กับเจ..
เรื่องของเจ..ที่สนทนากับพระอาจารย์ปะสันโน ก่อนการประหาร
ทำให้ฉันถึงกับน้ำตาซึม หดหู่ แต่แฝงด้วยความปิติ ตื้นตัน ..ในการ
ดำเนินชีวิตของผู้ที่กำลังจะเดินทางเข้าหาความตาย..ขณะอ่าน...
ฉัน..คิดว่าเรื่องราวเป็นของตัวเองตลอด เอาเข้าจริงๆใจเรายังสั่น.
ยังคงเป็นในระดับที่เจ.เป็นไม่ได้ ถึงแม้จะนึกถึง ความไม่เที่ยง
ความทุกข์ และความไม่มีตัวมีตนแล้วก็ตาม เพราะเรายังฝึกจิตน้อย
ปฏิบัติน้อย
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง เจ เป็นศิลปิน ภาพวาดที่ปกหนังสือที่พูดถึง
ในตอนต้นเป็นฝีมือของคนที่อยู่ในภาวะกำลังจะตาย ไม่น่าเชื่อ..
มันบริสุทธิ์ งดงาม กับ บทกวีที่แปลออกมาเป็นภาษาไทย อ่านแล้ว
จับใจ..หดหู่ แต่ นำไปสู่การปล่อยวาง หลุดพ้นจากภาวะตัวตน..
บทสนทนา บทหนึ่งของเจ กับ พระอาจารย์ปะสันโน...
" ...ขณะนี้..จิดของผมมี สองคน..คือ ผมกับ อาจารย์.."
"..อย่าคิดถึงอาตมา..และ..อย่าคิดถึงตัวเรา.."""..ปล่อยวา.ง...
ปล. : หลังจากที่ เจ ได้ถูกประหาร พระอาจารย์ได้ติดตามเรื่องนี้อีกครั้ง
และได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว เจ ไม่ได้ฆ่าคนตาย..
(ลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูนะ)