งานฤดูหนาวเมืองน่าน


การจัดงานฤดูหนาวและงานกาชาดน่าน จัดเพื่อ “เงิน” หรือจัดเพื่อ “ความสุข” ของผู้คน และถ้าเกิดพบว่า คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความสุขกับการเที่ยมชมงานปีนี้ เจ้าภาพผู้รับผิดชอบ จะมีกำลังใจจัดงานในปีต่อไปหรือไม่อย่างไร

งานฤดูหนาวและงานกาชาดเมืองน่าน ปีนี้  ผ่านไปแล้วอย่างเงียบเหงา  ประเมินด้วยสายตา คนมาเที่ยวงานลดลงกว่าปีแล้วเกือบครึ่ง  ร้านค้าที่เคยออกร้านหนาแน่นชุกชุม เต็มพื้นที่สนามกีฬาที่จัดงาน   มาปีนี้เบาบางลงเหลือเพียงไม่กี่ร้าน.. เกิดอะไรขึ้น

 

ในแวดวงคนเกาะติดสถานการณ์พากันสรุปอย่างเกรงใจว่า  น่าจะมาจากสาเหตุอย่างน้อย 4 ประการที่ทำให้งานฤดูหนาวเมืองน่านปีนี้ซบเซา  คือ  1. ระเบิดทำพิษ  2. เศรษฐกิจไม่ดี  3. วัยรุ่นตีกัน  4. ประชาสัมพันธ์น้อย 

 

ประการแรก ระเบิดทำพิษ ไม่รู้ว่าเป็นอาการผวาร่วมกันของคนไทยยุคนี้หรือเปล่า  หลังจากเหตุการณ์กลางกรุงสะเทือนขวัญวันส่งท้ายปีเก่า  ทำเอาหลายคนรู้สึกแหยงๆ  ไม่กล้าออกบ้านไปในที่ที่มีคนหมู่มาก  บางคนซื้อหวยไม่เคยถูก  แต่อาจจะมีโชคชั้นใหญ่โดนลูกระเบิด ที่ไม่รู้เลยว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ตอนใด (หลังเกิดขึ้นแล้วก็ยังไม่รู้ว่าใครทำ ?!?)   หลายคนรู้ในตอนนี้เลยว่า อยู่บ้านปลอดภัยดีที่สุด  ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยคิดว่าจะมีความสุขในบ้านตัวเอง 

 

ว่าด้วยเรื่องระเบิด แล้วน่าขำ น่าแค้น ไปในตัว  ทำไมเขาวางระเบิดกันรุนแรง เสียงดัง  แต่ดันจับคนทำการร้ายเหล่านั้นไม่ได้  ตั้งแต่ชายแดนปักษ์ใต้  จนถึงกลางกรุง  ไอ้คนวางระเบิดนี่มันไม่มีบ้านอยู่กันหรือไร?  มันเดินออกมาจากหลุมใต้นรก  ออกมาทำการก่อกวนป่วนเมือง แล้วเดินกลับหลุมลงไปอย่างไม่ใครเห็น กระนั้นหรือ   มันยังคงลอยนวลรอคอยกาลเวลาจะทำให้คนเคยชิน และลืมเลือน  ก่อนจะกลับมาก่อเหตุใหม่โดยไม่สนใจขื่อแปของบ้านเมือง (ที่น่าสะท้อนใจคือ มีวัยรุ่นเอาอย่างเริ่มโทร.ขู่วางระเบิดกันนั่นบ้างโน่นบ้าง เพื่อความสะใจส่วนตัว อูยย์ ...)

 

มาตรการล้อมคอกเมื่อวัวหาย  ตามมาให้เห็นเสมอๆ  อย่างเช่น  เมื่อโจรใต้ ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิด  ก็สั่งจดทะเบียนมือถือทั่วประเทศ   เมื่อโจรกลางกรุงมีการวางระเบิดในถังขยะ  ก็สั่งเปลี่ยนถังขยะเป็นแบบใสแหน็ว  เห็นขยะชัดเจน บางคนบอกน่าขยะแขยง บางคนบอกเป็นศิลป์ดี   ร้ายกว่านั้น บางที่บางแห่ง เลิกใช้ถังขยะชั่วคราว  สุมกองขยะกันพะเนินเทินทึก เป็นที่อุจาดตาอย่างยิ่ง

 

อีกนานไหม กว่าคนในสังคมไทยจะลืมเลือนเรื่องระเบิด   แต่ที่จังหวัดน่าน  ผู้สัดทันกรณีกล่าวว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไม่ออกไปเที่ยวงานฤดูหนาวยามค่ำคืน   บางคนใจเด็ดบอกว่า ไม่กลัวระเบิด เพราะยังไม่เกิดที่เมืองน่าน   เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการไม่ตีตนไปก่อนไข้  หากสลัดความตื่นกลัว ความหวาดผวาไปได้  ชีวิตก็ดำเนินไปตามปกติ  สังคมก็ปกติ

 

ประการที่สอง เศรษฐกิจไม่ดี   ไม่ว่าจะเอาอะไรมาชี้ มาเทียบ  เห็นชัดหมด  น้ำมันก็แพง  ค่าเช่าแผงร้านค้าปีนี้ก็แพงขึ้น  จากปีแล้วแผงละ หมื่นบาท ขึ้นเป็นหมื่นสองพันบาท  พ่อค้าแม่ค้าเร่หลายเจ้า บอกอำลา ไม่อยากเจ็บตัว  ไม่มีร้านขาย ก็ไม่มีคนซื้อ  ไม่มีคนซื้อ ก็ไม่มีร้านค้า   ที่เห็นเดินๆกันอยู่เต็มงานบางคืน  ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น มาป้วนเปี้ยนเวียนวนฆ่าเวลา  ก่อนดูคอนเสิร์ตศิลปินวัยรุ่นวงดัง ที่สับเปลี่ยนกันมาให้ความบันเทิงในแต่ละคืน ค่าบัตรผ่านประตูเข้าเที่ยวงานเพียงคนละ 20 บาท  แต่บางคนต้องคิดแล้วคิดอีกกว่าจะควักเงินซื้อ เงินสิบเงินซาว ก็มีค่าทั้งนั้น  ยามเศรษฐกิจอย่างนี้

ประการที่สาม วัยรุ่นตีกัน   แม้ไม่มีเรื่องโกรธแค้นอะไรกันมาก่อน  บางคนอาจโชคดีชั้นที่สอง  ถึงไม่โดนระเบิด  ก็เสี่ยงที่จะโดนลูกหลง  จากการที่วัยรุ่นตีกัน  ผู้ไม่สันทัดกรณีกล่าวแย้งว่า วัยรุ่นตีกันเป็นเรื่องของวัยรุ่น  ให้มันตีกันไป  ไม่เกี่ยวกับใคร  แต่ขอโทษ  วัยรุ่นยุคนี้ บางแก๊งบางกลุ่ม ไม่ได้ยกพวกตีวัยรุ่นกันเอง  แต่จะตีคนอื่น  เพื่อสร้างสมบารมีแก๊ง  ทำแต้ม ทำคะแนน  สร้างภาพฮีโร่ให้เป็นที่ยอมรับของสมาชิกแก๊ง  ฉะนั้น  ระหว่างที่คุณจอดรถรอไฟเขียว หรือเดินเดียวดายอยู่ยามค่ำคืน  อาจมีวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซคล์มาเทียบเคียงตัวคุณ  พร้อมเงื้อฟันมีดสปาร์ต้าร์ หรือดาบซามูไรมาที่คุณ   แน่นอนว่า  ขณะที่คุณจมกองเลือด และยังไม่หมดสติ คุณคิดให้ตายก็คิดไม่ออกว่าเคยมีเรื่องกับวัยรุ่นแก๊งนี้ ที่ไหน เมื่อไหร่..

 

ประการสุดท้าย  ประชาสัมพันธ์น้อย  ผู้สัดทัดกรณีบอกว่า งานฤดูหนาวปีนี้  คนทราบข่าวน้อยมาก  เจียนใกล้วันงานเต็มที  จึงได้รู้ว่ามีงาน  บางคนขับรถผ่านเห็นป้ายแวะเข้าไปดู  โดยไม่รู้ล่วงหน้า  เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของเจ้าภาพ  ผู้ไม่สันทัดบางกรณีก็แย้งว่า  ถึงแม้จะโฆษณาประชาสัมพันธ์มากน้อยเพียงใด  ก็ไม่มีผล คนยังมาเที่ยวงานน้อย ซบเซาเหงาเงียบเหมือนเดิม ด้วยเหตุปัจจัยสองสามประการข้างต้น  ผู้สัดทัดกรณีกว่า กล่าวว่า   เป็นเพราะงานฤดูหนาวและงานกาชาดน่าน ไม่ใช่เป็นงานที่ใหญ่สุดประจำปีของคนเมืองน่าน  งานประจำปีที่คนน่านส่วนใหญ่รอคอยคืองาน ประเพณีแข่งเรือ.. 

          อย่างไรก็ตามงานฤดูหนาวและงานกาชาดเมืองน่าน ปีนี้  ก็ผ่านไปแล้วอย่างเงียบเหงา  ร้านค้าจะขายของได้กี่มากน้อย   วัยรุ่นจะเสียเลือดและถึงแก่ชีวิตกันกี่มากน้อย   สาวรุ่นกระเตาะจะเสียตัวเป็นหนแรกกี่ราย  จะเสียตัวซ้ำซากกี่ราย กับผู้ชายคนเดิมกี่ราย  กับผู้ชายยกโขยงกี่ราย  โดยสมัครใจกี่ราย  โดยถูกบังคับล่อลวงกี่ราย ...

            ใน 9 คืนที่ผ่าน  เป็นค่ำคืนแห่งความสุขของคนน่าน และแขกผู้มาเยือนหรือเปล่า  การจัดงานฤดูหนาวและงานกาชาดน่าน จัดเพื่อ  เงิน หรือจัดเพื่อ ความสุข ของผู้คน และถ้าเกิดพบว่า  คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความสุขกับการเที่ยมชมงานปีนี้  เจ้าภาพผู้รับผิดชอบ จะมีกำลังใจจัดงานในปีต่อไปหรือไม่อย่างไร 

         ผู้สัดทัดกรณีอย่างยิ่ง กล่าวปิดท้ายเกี่ยวกับงานฤดูหนาวเมืองน่านไว้อย่างน่าสนใจว่า  คนไม่มีเงิน แล้วไม่มาเที่ยวงาน ยังพอรับได้    ถ้าคนมีเงิน  แต่ไม่ออกมาเที่ยวงาน  เพราะต้องเดินเที่ยวอย่างหวาดระแวง  ไม่มีความสุข  เป็นโศกนาฎกรรมของสังคมเราโดยแท้...

           อาจเพราะปีนี้  เรานับหนึ่งไม่ดีตั้งแต่ต้นปี  ปีหน้าหวังว่า  คนอยากมาเที่ยวงานฤดูหนาวมากยิ่งขึ้น  และชีวิตคนไทย ต้องดำเนินต่อไปตามปกติสุข... 
คำสำคัญ (Tags): #การพัฒนาสังคม
หมายเลขบันทึก: 75283เขียนเมื่อ 30 มกราคม 2007 13:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

              ขอบคุณครับที่เสนอความคิดเห็นมา และหากใครใกล้ผู้รับผิดชอบงาน ก็ควรตามมาอ่านข้อคิด ข้อเขียนที่สนใจ

              ก่อนจะแสดงความเห็นต่อ ขอแสดงความยินดีกับหน่วยงานท่านที่ได้รับรางวัลที่หนึ่งในการออกร้าน   ผมเฝ้าติดตามร้านอื่น ๆ แล้วไม่หลากหลายครบครั้นเหมือน จุดที่แสดงก็โดนใจโดดเด่นดีครับ

              การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนของผู้เกี่ยวข้อง  อย่างไรก็ดี  หากคิดว่าจัดแล้วได้เงิน  หมายถึง ได้เงินสด ๆ ไปจากผู้เหมาะข้อคิดและความเห็นดี ๆ ก็ดูจะไม่มีประโยชน์

              ผมยังไม่ได้ไปสำรวจความเสียหายของสนาม เช่นลู่วิ่งและพื้นหญ้าสนามฟุตบอลว่า นับจากวันสิ้นสุดงานแล้วจะเข้าไปใช้ได้กันเมื่อไหร่  เรื่องนี้สำคัญมากหากสนามกีฬาไม่มีหลักประกันใด ๆ  ก็ไปเรื่อย ๆ  เปลี่ยนเป็นสถานที่จัดงาน ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาวที่เด็ก ๆ เตรียมแข่งกีฬาอยู่   ออ....ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ไปใช้สนามเกษตรน่านกันดีกว่า  เพราะสนามกีฬาจังหวัด  รอ....การปรับปรุงแบบไม่มีกำหนด

              เรื่องระเบิดหรือครับ   มีเรื่องเล่าที่ ผอ.เสรี สตรีศรีน่าน ไปกู้ระเบิด  นักข่าวไปกันก็มากวันนี้  ไหงเป็นว่า เด็กนักเรียนมาจัดงาน  นำก้อนอิฐมา  จะเอากลับบ้านก็หนัก  เลยเอาไปวางไว้ในที่ลับ  ขณะที่สังคมเราก็เราตื่นตระหนก  ใจจดจ่อ  นักข่าวก็หาข่าวนำเสนอกัน  เห็นก้อนอิฐจึงสงสัย  สื่อสารกันวุ่นวาย  จนทำให้ ผอ.เสรี  มีเรื่องเล่าให้เราฟังวันประชุมผู้ปกครองฯ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 28 ม.ค.2550  สามารถ สอบถามติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมที่ท่านได้ครับ.

ขอบคุณอย่างยิ่งครับ

         ยินดีครับสำหรับความคิดเห็น  ผมเองห่วงสนามกีฬาน่านไม่ใช่น้อย  หลังการจัดงานฤดูหนาว   โดยเฉพาะไม้เสียบลูกชิ้น  ผมนึกภาพเวลานักฟุตบอลกลิ้งถลาไปตามพื้นสนาม  แล้วโดนไม้เสียบลูกชิ้นที่ซ่อนแทรกอยู่ในสนามหญ้า เสียบเข้าหนังเข้าเนื้อ ..

       ควรเอ๊กซเรย์ละเอียดยิบ 

 

ในมุมมองของร้านส่วนราชการปีนี้น่าพอใจนะ เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ให้ไปอยู่ในมุมที่เร้นลับ ตลอดทั้งงานนับคนเข้าได้ไม่ถึง50คน ปีนี้ได้มุมโอ่อ่าจึงนับได้หลายร้อย (บันทึกสถิติจริงๆไม่นั่งเทียน) แต่งานรอบนอกไม่รู้ว่าคนมากหรือน้อย เพราะไม่อยากเสี่ยงไปเดิน กลัวโดนลูกหลงวัยรุ่น555

เรื่องไม้เสียบลูกชิ้นเห็นด้วยอย่างยิ่ง จัดงานที่ไรคนทำความสะอาดมักได้แผลกับขยะชนิดนี้ ช่วยกันรณรงค์ให้เลิกใช้ไม้เสียบดีไหม ให้เหลือเป็นเพียงสัญลักษณ์ของคนบางคนก็พอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท