นี่คือเรื่องราวของหน่วยราชการหน่วยที่ 3 ในหน่วยงานต้นแบบที่ "โครงการต้นแบบการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรม และค่านิยม" สำนักงานส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี สำนักงาน กพร. นำมายกย่องและเชิญมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีดำเนินการในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ม.ค.50
คุณรณยุทธ ตั้งรวมทรัพย์ รองอธิบดี เล่าเรื่องการริเริ่มสร้างสรรค์รูปแบบการให้บริการใหม่ ๆ เป็นที่เลื่องลือจนญี่ปุ่นขอมาดูงานวิธีการจัดการสอบข้อเขียนสอบใบขับขี่เป็น E-Exam แห่งแรกของโลก
โครงการอื่น ๆ เช่น "โครงการเลื่อนล้อต่อภาษี" (Drive Through for Tax) แห่งแรกของโลก คือคล้าย ๆ ขับรถผ่านด่านเก็บค่าผ่านทาง พอถึงตู้บริการก็ยื่นเอกสาร จ่ายเงิน แล้วขับรถไปตามเส้นทาง วนกลับมารับใบเสร็จและป้ายวงกลมได้เลย มีรถมารับบริการวันละกว่า 1,200 คัน
โครงการ "ช็อปให้พอ แล้วต่อภาษี" ให้บริการที่ศูนย์การค้าในวันหยุดราชการ โดยผู้ต่อภาษีจ่ายในอัตราปกติ และได้รับป้ายวงกลมและใบเสร็จเดี๋ยวนั้นเลย
มีการสร้างบรรยากาศความคึกคักสร้างสรรค์โดยการแต่งกายตามเทศกาล เช่น ชุดกี่เพ้าในวันตรุษจีน ชุดฮาวายในวันใกล้สงกรานต์ ชุดคริสต์มาส เป็นต้น
เสียดายที่ไม่มีเวลาซักถามวิธีการเอาชนะแรงต้านการเปลี่ยนแปลงซึ่งบางขั้นตอนขัดความรู้สึกของคนอย่างแรง เช่น การเปลี่ยนให้คนระดับหัวหน้าที่เคยนั่ง "คุม" รอเซ็นอยู่แถวหลัง ให้เปลี่ยนมาทำหน้าที่ตรงหน้าเคาน์เตอร์
กรมการขนส่งทางบกคือหน่วยราชการที่ประชาชนประทับใจเป็นที่เลื่องลือ
ท่านรองอธิบดีรณยุทธ ตั้งรวมทรัพย์ กำลังเล่าเรื่องอย่างสนุกสนานเร้าใจ ขนาบด้วยนักวิจัยในโครงการ คือ รศ. พัชรา พัชราวณิช (ขวา) และ ดร. สมบัติ กุสุมาวลี (ซ้าย)
วิจารณ์ พานิช
25 ม.ค.50
เล่าต่อจากจดหมายฉบับที่แล้ว บังเอิญคลิกถูกปุ่มส่งจดหมายก่อนที่จะเขียนจบ
ดิฉันได้โดยสารรถทัวร์จากจังหวัดนครราชสีมาไปบุรีรัมย์ รอบ 2 ทุ่ม หมายเลขตั๋วที่ขายให้ทุกคนในวันนั้นจะอยู่ราว ๆ หมายเลข 36103 เขาขายราคา 90 บาทสำหรับทุกคน และขายไปเรื่อย ๆ ขายให้กับทุกคน โดยไม่มีการระบุเลขที่นั่ง ดิฉันเป็นคนแปลกหน้าสำหรับที่นั่นและมาทราบภายหลังว่ารถทัวร์ที่ดิฉันจะโดยสารเป็นรถเที่ยวสุดท้ายของบริษัทนี้ในคืนนั้น และความจริงมีรถทัวร์สายยาวจากกรุงเทพรับส่งผู้โดยสารจากนครราชสีมาไปบุรีรัมย์หลัง 4 ทุ่มไปแล้วเยอะมาก
พนักงานจะเปิดประตูรถตอนสองทุ่ม ประกาศว่าให้ผู้หญิงเข้าไปก่อน ถ้าที่นั่งเต็มก็ให้ยืน ส่วนใหญ่ผู้ชายได้ยืน เมื่อทุกคนเข้าไปในรถแล้ว พนักงานถามว่าใครไม่อยากเดินทางให้คืนตั๋วได้ (ทำไมไม่ถามก่อนขายตั๋ว)
เมื่อรถออกเดินทาง รถก็จะทะยอยปล่อยผู้เดินสารไปเรื่อย ๆ รถจะเริ่มว่างพอมีที่ให้นั่งไปก็กลางทางแล้ว
เรียนปรึกษาว่า ถ้าเจตนาดีจะช่วยส่งทุกคนให้ได้กลับบ้านเหมือนกัน ราคาตั๋วยืนควรจะถูกกว่าราคาตั๋วนั่ง
กรมการขนส่งมีวิธีการกำกับการให้บริการรถโดยสารต่าง ๆ เหล่านี้หรือไม่ ถ้าสภาพการโดยสารยังต้องเป็นแบบนี้จะมีทางแก้อย่างไร
ที่เขียนมาเล่านี้เพราะเป็นความรู้สึกที่จดจำมานานว่าการบริการเรื่องการเดินทางในสายอีสานนี่ไม่ดี (อยากใช้คำว่า "แย่"จะเหมาะกว่า) ไม่ว่าจะเป็นการบริการสาธารณะทางรถยนตร์ รถไฟ ทำไมดูถูกคนอีสานนัก 20-30 ปีมานี่ไม่ได้เจริญขึ้นเลยหรือ? ทำเหมือนหมูเหมือนสุนัข ทำเหมือนโง่ดักดาน ต้องทนรับการกระทำทุกเรื่อง ถ้าจะว่าไปพนักงานรถก็คนอีสานนั่นแหละ สมองเขาอาจยังไม่พัฒนา ท่านมีอำนาจในการกำกับดูแล ช่วยสงเคราะห์หน่อยเถิด ถ้าท่านหย่อนการกำกับดูแล คนประเภทนี้จะปรากฏตัวเอารัดเอาเปรียบอยู่เสมอ
ความจริงดิฉันอยากฟ้องกรมการขนส่งทางบกต่อศาลปกครองด้วยซ้ำแต่ดูจะเป็นการทำรุนแรงไป (ความจริงกำลังศึกษาช่องทางว่าอยู่ในข่ายทำได้หรือไม่ ไม่อยากฟ้องหรอก เข้าใจว่าการดูแลให้ทั่วถึงทำได้ยากแต่อยากให้เข้มขึ้นบ้าง) จึงขอความกรุณาช่วยดูแลทุกข์สุขคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบบ้างเถิด
ขอบพระคุณอย่างสูงหากท่านใส่ใจจดหมายของดิฉัน
วลัยอร
ผมจะนังรถเท็กซี่ จากรัชดา(หลังจัสโก) ไปอยุธยา (โรจนะ) ค่าโดยสารเท่าไหร่ครับ
คัยรู้ช่วยบอกที
0866316269