วันนี้ (25 มกราคม 2550) อาจารย์มาลินี ธนารุณตีพิมพ์บันทึกเรื่อง "บริหารการชื่นชมคนดีได้อย่างไร?"
การชื่นชมคนดี...
การพิจารณาศีลมักจะเป็นอุปนิสัยปัจจัย ทำให้พระภิกษุ สามเณรเกิดความแช่มชื่น ปีติ โสมนัส จนบรรลุมรรค ผล นิพพาน...
กล่าวสรุปคือ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในพระวินัยปิฎกถึงการกล่าวตักเตือนผู้อื่นว่า...
ผู้บริหารควรชื่นชมคนทำดีอย่างไร...
การชมบุคคลใดบุคคลหนึ่งมากเกินอาจทำให้ทีมงานแตกสามัคคีกันได้ เปรียบเหมือนคำกล่าวที่ว่า "ถ้าอยากให้สุนัขกัดกัน... ให้โยนชิ้นเนื้อ(เข้าไป)" ส่วนการชมการทำดีนั้นเป็นสากล เพราะความดีนั้น... ใครๆ ก็ทำได้ (ถ้าตั้งใจทำ)
ข้อควรระวังในการชมคือ ถ้าเป็นไปได้... อย่าชมเพื่อเปรียบเทียบ เช่น ชมน้องว่า "เก่งกว่าพี่" ฯลฯ... การชมอย่างนี้อาจเป็นชนวนทำให้เกิด "น้ำขุ่น" เกิดการอิจฉาริษยา หรือการทะเลาะวิวาทในภายหลังได้
อีกประการหนึ่ง "อย่าการชมต่อหน้าคนยาก" เช่น อย่าชมคนรวยว่า "รวย" ต่อหน้าคนจน อย่าชมคนเก่งว่า "เก่ง" ต่อหน้าคนไม่เก่ง ฯลฯ โดยเฉพาะถ้าเราทราบว่า ใครมีปมด้อยเรื่องใดแล้ว ไม่ควรชมคนอื่นที่มีปมเด่นต่อหน้า เช่น ชมคนผมดกต่อหน้าคนผมน้อย ฯลฯ การชมอย่างนี้อาจทำให้เกิดการอิจฉาริษยา หรือการทะเลาะวิวาทในภายหลังได้เช่นกัน
การชมบุญเก่า หรือผลของบุญในอดีต เช่น ชมคนรูปงาม ชมคนรวย ชมคนมีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ฯลฯ ไม่เป็นปัจจัยให้คนทำดีเท่ากับการชมบุญใหม่ หรือการทำดีในปัจจุบัน
การชมต่อหน้าทำให้แช่มชื่น เปรียบเหมือนให้น้ำมื้อใหญ่กลางทะเลทราย การชมลับหลังทำให้แช่มชื่นยิ่งขึ้นไป เปรียบเหมือนให้โอเอซิส (แอ่งน้ำพร้อมพืชพันธุ์)
คำชมเปรียบเหมือนฝน... ถ้าตกไม่ทั่วฟ้าย่อมไม่ยังแผ่นดินให้ชุ่มฉ่ำ ผู้บริหารควรชมให้ได้ทั้งคนที่รัก คนที่ชัง และคนปานกลาง ไม่ว่าใครก็ควรชมให้ได้... ถ้าทำดี
แม้เราจะชิงชังโจรปล้นแผ่นดินก็ควรชมเขาในส่วนดี เช่น ชมว่า เอาใจใส่ครอบครัวดี ฯลฯ แต่ไม่ควรชมส่วนเลวของเขา
นักร้องลูกทุ่งท่านหนึ่ง (ไม่ได้ฟังเพลงของท่าน ทว่า... ได้ยินว่า เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งร้องเพลงนี้) บอกแฟนเพลงให้... "รักน้อยๆ แต่รักนานๆ"... การชมทีละน้อย บ่อยๆ ดูจะดีกว่าชมทีละมาก หนักๆ
ทว่า... การดื่มน้ำมากเกินก็อาจทำให้เกิดอันตราย ดังปรากฏในนักวิ่งมาราธอนที่ดื่มน้ำมาก ทำให้ความเข้มข้นของเกลือในเลือดต่ำ (hyponatremia) สมองบวมได้
ผู้บริหารควรหัดชมให้เหมือนน้ำฝนหยาดน้อยๆ ด้วยความหวาน "พอประมาณ"...
ผู้บริหารเปรียบเหมือน "ไฟ"... ใกล้นักก็ร้อน ไกลหน่อยก็หนาว
อำนาจนั้นดูเหมือนเบา...
ผู้บริหารเจริญเมตตา หรือทำพระคุณให้งอกงามได้โดยการฝึกชมเป็นประจำ...
คนระดับต่ำกว่า หรือระดับเดียวกัน... ชมกันมักจะมีอานุภาพไม่มาก ทว่า... ผู้หลักผู้ใหญ่ชมมักจะมีอานุภาพมาก ทำให้คลื่นของการทำดีแผ่ออกไปอย่างรวดเร็ว
ทำใจว่า....
ธรรมดากบ เขียด (คนเลว มักมาก มีอิจฉาริษยาเป็นเจ้าเรือน) ถึงฤดูกาลจักร้อง เราจะทำอะไรกับกบและเขียดได้...
เพราะฉะนั้น...
ผู้เขียนขอจบด้วยคำถามที่ถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในการอบรมพัฒนาบุคลากร วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๐ เหมือนกันว่า
แหล่งที่มา:
ขอขอบคุณอาจารย์ DSS@msu (หนิง) และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ถ้าพวกเราช่วยกันชื่นชมคนทำดี... จะมีส่วนส่งเสริมให้คนทำดีกันอย่างกว้างขวางทีเดียว
จะเตือนตนเองครับว่า "วันนี้ท่านชมใครแล้วหรือยัง…"
และจะนำหลักการชมชองคุณหมอไปฝึกปฏิบัติในการชมครับที่ว่า
ขอบพระคุณคุณหมอวัลลภมากครับ
ขอบคุณ แนวความคิดดี ๆ ของอาจารย์หมอวัลลภ มาก ๆ ค่ะ
ขอขอบคุณอาจารย์สิงห์ป่าสัก และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่อง "ความตระหนี่" หรือ "มัจฉริยะ"...
วัณณมัจฉริยะ...
วัณณมัจฉริยะ...
ครูบาอาจารย์...
ขอขอบพระคุณ...
ขอขอบพระคุณอาจารย์มาลินี...
บันทึกของอาจารย์จุดประกายเรื่องนี้ได้ดี ทำให้ได้ข้อคิด (ไอเดีย) ว่า น่าจะนำเรื่องที่ผมบรรยายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์มะเร็งลำปางฟังที่เชียงราย (22 มกราคม 50 ที่โรงแรมเวียงคำ) มาเรียบเรียงใหม่
ขอขอบพระคุณอาจารย์เม็กดำ1 และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
การแสดงความชื่นชม...
คำชมของครูบาอาจารย์...
ผมนึกถึงคำสอนของท่านอาจารย์หมอบุญนำ จิตแพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้...
กล่าวคือ...
สังคมไทย....
ขอขอบพระคุณ...
ขอขอบคุณ คุณมะปรางเปรี้ยวและท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ขอขอบคุณครับ...
ผู้บริหารเปรียบเหมือน "ไฟ"... ใกล้นักก็ร้อน ไกลหน่อยก็หนาว
ขอขอบคุณอาจารย์ขจิต และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ขอขอบคุณครับ...
ขอขอบคุณอาจารย์เมตตา และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ขอขอบคุณครับ...
ขอขอบคุณอาจารย์อ้อ-สุชานาถและท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ทว่า... ไฟทั้งหลาย ร้อนมากก็มี อุ่นพอสบายก็มี
ผู้บริหารเอง... ก็ทำตัวให้ร่มเย็น เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นเสมือน "น้ำ" ที่ให้ความร่มเย็นได้
ผู้บริหาร...
ผู้บริหาร...
ผู้บริหาร...
ดิน น้ำ ลม ไฟ...
ขอขอบคุณครับ...
ติดตาม blog ของอาจารย์เสมอ ชอบที่อาจารย์เขียนได้รับประโยชน์มากเลยครับ
ขอขอบคุณคุณมานะชัยและท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ผมเชื่อมั่นว่า ผู้เขียนบล็อกเกือบทุกคนคงรู้สึกดีใจที่มีคนอ่าน และแวะมาเยี่ยมเยียน... นี่เป็นขวัญ และกำลังใจของคนทำบล็อกทีเดียว
ขอขอบคุณครับ...
- อ่านแล้วรู้สึกอยากขอบพระคุณมาก ๆ เลยครับ
- มีประโยชน์ และให้ข้อสรุป ข้อคิด กับผมมากจริง ๆ
ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์วิบูลย์ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
บันทึกใน "บ้านสาระ" และ "บ้านสุขภาพ" ได้รับความกรุณาจาก มน. มากเช่นเดียวกันครับ เพราะผมเริ่มเข้ามาบันทึกจากการแนะนำของท่าน รศ.มาลินี ธนารุณ
ขอขอบพระคุณครับ...