เรื่องเล่าดีดีจากเวชปฏิบัติครอบครัวบ้านตาก


ถ้าหากเราหมั่นเอาสิ่งดีๆที่กระทำในหน่วยงานออกมาเล่ามากๆ นอกจากจะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวแล้วยังช่วยเติมไฟใส่ฟืนให้กันและกันด้วย

                     ถ้าหากเราหมั่นเอาสิ่งดีๆที่กระทำในหน่วยงานออกมาเล่ามากๆ นอกจากจะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวแล้วยังช่วยเติมไฟใส่ฟืนให้กันและกันด้วย จะทำให้คนในหน่วยงานเริ่มละสายตาจากสิ่งที่เป็นปัญหา ที่ทำให้ทุกข์ใจกลับมามองสิ่งดีๆตามแล้วจะทำให้รู้สึกว่าในหน่วยงานเรานั้น ถ้าจะมองเรื่องดีๆก็มีอยู่มากมาย

                     ช่วงนี้ด้วยภารกิจที่ยุ่งมากๆจึงไม่มีเวลามาเขียนบันทึกแต่ก็จะคัดลอกเรื่องเล่าของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านตากมานำเสนอนะครับ จากผู้ใช้นามปากกาว่า ทุเรียน

                      งานที่จะเล่าให้เพื่อนๆรับทราบกันบ้างคุณพิมพ์ษินี (น้องณี) ปฏิบัติงานอนามัยโรงเรียนในปี 2549 ก็ประสบความสำเร็จผ่านโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเหรียญทองทุกโรงเรียนที่กลุ่มงานรับผิดชอบ เก่งจริงๆ เพราะจะต้องเป็นทั้งผู้ประสานงานที่ดี ทีมงานต้องช่วยกันทุกคนพี่ขอตบมือให้นะคนเก่ง
                   คุณธนิดา (น้องอ้วน) ปี 2549 ก็ไม่เบาตรวจมะเร็งปากมดลูกแบบVIA โดยใช้กรดนำส้มแบบอ่อนค้นหามะเร็งปากมดลูก รวมทั้งหมด 831 คนพบผิดปกติ 44 คนเกิดอุบัติการของโรคคิดเป็นร้อยละ 5.29 ช่วยเหลือและป้องกันสตรีที่จะเกิดเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกได้บุญจริงๆ ช่วยประหยัดงบประมาณในการรักษาพยาบาลให้กับประเทศชาติมหาศาลเลยที่เดียว
                   ส่วนเพชรก็สนุกกับงาน นำผู้พิการไปประกวดระดับจังหวัดได้รางวัลที่ 3 ของจังหวัดคือคุณสุนิสา นิลขลัง ได้รับเงินรางวัล 2,000 บาทพร้อมใบประกาศ และได้นำเสนอผลการพัฒนาระบบบริการคนพิการในโรงพยาบาลบ้านตากซึ่งตอนสมัครเข้าไปก็ไม่คิดอะไรมากเพียงต้องประชาสัมพันธ์งานกลุ่มเด็กพิเศษของน้องปิวราย์เท่านั้นตอนไปประกวดมีแต่โรงพยาบาลทั่วไปคือรพ แม่สอด กับรพ สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ มีโรงพยาบาลชุมชนแห่งเดียว พอนำเสนอผลงานแล้วคิดวิเคราะห์กับน้องคิดว่าเราน่าจะได้รางวัลนะ ก็ได้จริงๆ ได้อับดับที่ 2 รองจากรพ ตสม ดีใจด้วยสำหรับน้องป๊ปของเรา (ตบมือให้ กรรมการกระซิบว่าเราเป็นรพ ระดับอำเภอขยายผลได้น้อยเลยได้ที่ 2 แต่การปฏิบัติงานของเราดีจริงๆ)จึงนำมาเล่าให้พวกเราฟัง
                      ส่วนในชุมชนนั้นก็มีงานมากมายขอเล่าให้ฟังเพชร ได้นำโครงการหมู่บ้านสร้างเสริมสุขภาพแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัว ของบ สสส. ในหมู่ที่ 6 ต.ตากออก ได้ปฏิบัติงานในโครงการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549 ได้รับความร่วมมือจากประชาชน คณะกรรมการหมู่บ้านและ อสม เป็นอย่างดี ได้มีกฏกติการในชุมชนขึ้นมา 3 ข้อ คือ

1.ไม่ดื่มสุราในวัด

2. งานศพจะไม่เลี้ยงเหล้า

3. หน้าบ้านใครมีขยะช่วยกันดูแล

                         ปรากฏว่ามีงานศพเกิดขึ้น 1 งานในชุมชนแอบถามว่ามีการเลี้ยงเหล้าไหมปรากฏว่าชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ช่วยกันดูแลและไม่ให้ดื่มสุราในงานศพ(ดีใจจัง เนื่องจากมีชาวบ้านบ้านมาเล่าให้ฟังว่าจะมีคนมาดื่มเหล้าในงานแต่ชาวบ้านเตือนกันว่าเราจะไม่เลี้ยงเหล้าในงานศพ)ก็ถือว่าประสบความสำเร็จปด้วยดีขอขอบคุณชาวบ่านที่ช่วยกันดูแลชุมชนของตนเอง

                          และไปขยายผลในกลุ่มวัยรุ่นมีการแข่งกีฬาฟุตบอล คณะกรรมการของหมู่บ้านก็สนับสนุนในการแข่งกีฬาโดยใช้โลโก้ว่า แข่งกีฬาแบบไร้แอลกอฮอล์ แข่งไปได้ 2 ครั้งแล้วชนะด้วย และปรากฏว่าเกิดชมรมคนรักบอลขึ้นมา มีผู้พบเห็นชมรมของเราเกิดความประทับใจแล้วต้องการร่วมทีมกันเป็นจำนวนมากแล้วจะขยายผลไปกีฬาประเภทอื่นอีกด้วย (เป็นผลกำไลของ สสส และเป็นผลการทำงานเป็นทีมของชุมชน คณะกรรมการชุมชน เกิดความสามัคคี ร่วมมือกันทำงานในชุมชนอย่างต่อเนื่อง)

                         งานผู้พิการในชุมชนไปทำในชุมชนผู้พิการชอบเพราะพวกเค้าเดินทางสะดวกตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้ 100 คนมากัน 104 คนผู้พิการและญาตเกิดความพึงพอใจ เข้ารับการอบรมด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเองที่สำคัญผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้านหลายหมู่บ้านเข้าร่วมด้วยจะได้ทราบถึงปัญหาผู้พิการและผู้ดูแล เพื่อจะได้ช่วยเหลือกันในชุมชนเห็นอกเห็นใจกัน (ได้บุญนะช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส)

หมายเลขบันทึก: 73852เขียนเมื่อ 23 มกราคม 2007 07:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท