ดูทีวีแล้วมีอะไรเกิดขึ้น ( บ้าง )


และ ถ้าลองเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในความอ้างว้างและโดดเดี่ยว เปรียบโรงเรียนเป็นทีวีสักหนึ่งช่องที่ไม่มีผู้ชมมาเยี่ยมมอง เพื่อนพ้องน้องพี่ไม่สนใจใยดี โรงเรียนเช่นนี้น่าจะตั้งคำถามและมีคำตอบว่าอย่างไร
                                   เครื่องใช้ประจำบ้านที่ไม่ต้องอธิบายสรรพคุณ  ทุกคนคุ้นเคยดีสิ่งนี้มีชื่อว่า  ทีวีหรือโทรทัศน์ ตัวผมเองยังไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของโทรทัศน์ว่ามีที่มาและที่ไปอย่างไร ทำไมได้กลายมาเป็นเครื่องใช้ที่มีอิทธิพลมากล้นในทุกชุมชนทุกหย่อมหญ้า ไม่เว้นแม้คนอยู่ภูเขาสูงเสียดฟ้า  ถึงคนหาปลาในทะเล                                 

                       สำหรับผมโทรทัศน์มีประโยชน์หลักสองเรื่อง  คือ 
                       

                                1.  เป็นห้องสมุดที่ทันสมัยพอสมควร   ให้ความรู้   แนวคิด ข่าวคราวความเคลื่อนไหวทั้งในและต่างประเทศ   
                             

                                
2.  เป็นแหล่ง ที่ให้สิ่งผ่อนคลายความเครียดหรือความเหนื่อยล้าที่ต่อกรมาตลอดวัน                                 
                         คิดเรื่องเบาๆ บางครั้งในการแวะเวียนไปเยี่ยมบ้านนักเรียนหรือแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมเพื่อนพ้องน้องพี่ในชุมชน ก็ได้นิยายจากโทรทัศน์นี่แหละเป็นตัวเดินเรื่อง ชวนพี่ชวนน้องคุยกันถามข่าวคราวสารทุกข์สุกดิบแล้วค่อยๆหยิบเอาสิ่งที่เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาคุยกัน 
                              

                       ส่วนในกระบวนการเรียนการสอนของครูนั้น หากท่านรู้จักหยิบ  รู้จักยก รู้จักค้นหาคุณค่าจากบทโทรทัศน์ มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สร้างสีสัน การแบ่งปันจากครูสู่เด็ก น่าจะมีสีสันตามไปด้วย  อีกทั้งน่าจะช่วยให้เด็กๆได้มีทักษะในการเลือกเฟ้นและเห็นคุณค่าของสิ่งใกล้ตัว 
                             

                      ในฝ่ายเพื่อนพ้องน้องพี่ในชุมชน  ทุกคนล้วนมีภารกิจหล่อเลี้ยงชีวิต  เช้าถึงค่ำ ตรากกรำความเหนื่อยยาก ตกเย็นกินข้าวล้อมวงพ่อแม่ลูก แนะนำสิ่งผิดสิ่งถูกให้ลูกหลานผ่านจอโทรทัศน์ ทุกวันคืนใช้เป็นจุดนัดพบประจำครอบครัว  ดีไหม   ให้เวลาและใช้เวลาบ้างพอสมควร ก่อนที่จะด่วนสรุปว่าลูกหลานทำตัวไม่ดี  
                       

                      ช่วงนี้มีโอกาสได้แวะเวียนไปร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครู  นักเรียน   ชุมชน ที่เป็นพื้นที่เครือข่ายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น  ของชุดโครงการประสานงานวิจัยการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น   มีโอกาสได้ยิน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้   ได้แอบดีใจเงียบๆว่าสิ่งที่พวกเราฝัน  วิถีแบ่งปัน  ผูกพัน บ้าน  วัด  โรงเรียน  กำลังคืนภาพให้เห็นในทุกพื้นที่แต่ แตกต่างกันดังทีวีคนละช่อง คนละ มุมมอง  การกระทำย่อมมีทั้งความเหมือนและความต่าง  
                     

 
                              และ ถ้าลองเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในความอ้างว้างและโดดเดี่ยว   เปรียบโรงเรียนเป็นทีวีสักหนึ่งช่องที่ไม่มีผู้ชมมาเยี่ยมมอง   เพื่อนพ้องน้องพี่ไม่สนใจใยดี   โรงเรียนเช่นนี้น่าจะตั้งคำถามและมีคำตอบว่าอย่างไร                                                           

                    
แล้วท่านละครับ    ดูทีวีแล้วมีอะไรเกิดขึ้น ( บ้าง )                                                                                                                                                          
หมายเลขบันทึก: 73389เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2007 08:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 22:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอร่วมวงสนทนากับอาจารย์ศักดิ์พงศ์ ด้วยนะครับ

ผมมองว่า ทีวี ดีตามที่อาจารย์บอกทั้ง 2 ข้อครับ

แต่มันมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า  "เนื้อหา"  ในรายการทีวีทุกวันนี้   เกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์  (สำหรับผม)  เป็นเนื้อหาที่หมิ่นแหม่ไปทางมอมเมา  ยั่วยุ  โดยเฉพาะต่อกลุ่มเยาวชน   มากกว่าช่วยสร้างสรรค์กระบวนการเรียนรู้   และที่สำคัญ หนังละครหลังข่าวภาคค่ำ   ที่ผมเห็นนานๆถึงจะมีละครดีๆออกมาซักทีหนึ่ง    

ซ้ำร้ายหลายครอบครัวเป็นไปโดยไม่รู้ตัว    คืออาการเฝ้าหน้าทีวี   ดูไปเรื่อยๆ   ซึ่งตรงนี้ใช้เวลาไปกับสิ่งเหล่านี้มากเกินไป    บางครอบครัวไม่มีเวลาให้กับลูกหลาน  ปล่อยให้เด็กอยู่กับทีวีวันละหลายชั่วโมง   ก้อมีให้เห็นเยอะเหมือนกัน  

แต่ผมเชื่อว่า  ในสภาพความเป็นจริง   ต้องมีครอบครัวที่ดูทีวีเป็น     เหมือนที่อาจารย์กล่าวมาแล้ว   ดูไปพร้อมกับลูกหลาน  ดูแล้วชวนสะท้อนชีวิตจริง   ดูแล้วเก็บเอาสิ่งดีๆมาลองใช้กับชีวิตตัวเอง       ครอบครัวแบบนี้  ถือว่า มีความรู้ในการดูทีวี        ตรงนี้แหละครับน่าหยิบขึ้นมาเล่ากันฟังบ้างเนาะ   ว่าครอบครัวที่ว่านี้เขามีวิธีการใช้ประโยชน์จากการดูทีวีอย่างไร?   ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเขามีอะไรบ้าง?   อันนี้น่าสนใจเรียนรู้จริงๆครับ

 

เรียน อาจารย์เม็กดำ1...

  • เราคงจะทราบข้อเสียของ TV ดี เช่น มีละครน้ำเน่า อิจฉาริษยา ฯลฯ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการพัฒนาประเทศ

ทว่า... เมืองไทยก็มี TV ดีๆ เช่น

  • "ข่าวต่างประเทศ" ผ่านดาวเทียมที่ติดตามข่าวได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
  • "กบนอกกะลา" สารคดีที่ทุ่มเทอย่างน่าทึ่ง

ถ้า... เมืองไทยมี

  • สถานีที่นำเรื่อง "ข่าวคนทำดี" หรือ "goodnews" มาเล่าให้มาก
  • ต่อไปคนคงจะแย่งกันทำดีทีเดียว

ขออธิบายเพิ่มเติม...

  • ไต้หวันมีสถานีต้าอ้ายนำข่าวคนทำดีครับ...
  • แต่สำหรับผม...ทุกวันนี้คุยโทรสัพท์น้อยลง..ดูทีวีน้อยลง  เพื่อให้มีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้น

ผมกำลังทำวิจัย การดูทัวีมีผมต่อการเรียนอะคับ

กำลังศึกษาว่าปริมาณไหนดีที่ทำให้ น.ร.

ไม่เรียนตกต่ำแต่ยังมีผลให้ น.ร. เรียนดีขึ้น

ผมคิดว่าการดูทีวีในปริมาณที่พอเหมาะน่าจะส่งผมทำให้ น.ร.

ได้ผ่อนคลายจากความตึงเครียด

และเป็นผลให้ น.ร. เรียนดีขึ้น

ผู้ที่ได้อ่าน ช่วยแนะนำหน่อยงับ

ข้างบน แนะนำมาที่ [email protected]

สวัสดีครับท่าน ผอ.เม็กดำ1

  • ไม่ได้ทักทายกันนานเลยครับ
  • ส่วนตัวผม ทีวี จะดูเฉพาะข่าวหรือสารคดี ละครน้ำคลองแสนแสบไม่ต้องพูดถึงเปิดหนีเลยครับ
  • ทุกวันนี้ทีวีเน้นธุรกิจค้ากำไรมากเกินไป เรื่องไร้สาระมีมาก เหมาะสำหรับหรือเอาใจคนใช้แรงงานหรือแม่ค้าเสียส่วนใหญ่
  • ขนาดนักข่าวการเมือง ก็เหมือนที่ท่านนายกฯสมัคร ด่าเมื่อเช้านี้ละครับ

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท