การเฝ้ารอ ”บิกแบง” ทางระบบนิเวศ


เราจะได้เตรียมตัวรองรับสถานการณ์และปัญหาได้อย่างถูกต้อง

 จากงานเขียนของคุณจตุพรที่อ้างถึงหลุมดำทางความคิดในการพัฒนาประเทศที่มีต้นคิดโดยนายแพทย์ ประเวศ วสี ราษฎรอาวุโส ว่า ทฤษฎีหลุมดำ นั้นผูกพันกับการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ (Big Bang) อย่างตรงกันข้าม แต่ต่อเนื่องกัน 

เพราะ เมื่อมีการรวบรวมปัญหาหรือพลังงานมากๆเข้า ก็จะทำให้เกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ คือการ ระเบิดออก

 ยิ่งสะสมมาก ยิ่งระเบิดอย่างรุนแรง  

หลุมดำ (Black hole) นั้นเป็นข้อสรุปของนักวิทยาศาสตร์ที่เฝ้าสังเกตว่า มีศูนย์กลางของจักรวาลอยู่จุดหนึ่งที่มองไม่เห็นอะไร เพราะเมื่อสิ่งใดๆ ผ่านเข้าไป จะถูกดูดเข้าไปรวมกัน จนไม่สามารถจะมีอะไรสะท้อนออกมาให้เห็นได้ จนทำให้มองเห็นเป็นหลุมดำ 

ในทางระบบนิเวศของโลกนั้นก็มีการสะสมปัญหา ในรูปแบบเดียวกับหลุมดำ มีการเกาะเกี่ยวกันของปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม

ทำให้มองไม่ออกว่า จะมีทางออกไปในทางใด เพราะ มืดแปดด้าน

พอๆกับหลุมดำ

 

ผู้มีศักยภาพระดับ คุณภาพคับแก้ว ที่คัดสรร กลั่นกรองกันเข้าไปทำงานในการแก้ไขปัญหาทุกระดับของประเทศ และของโลก ก็ไม่สนใจที่จะแก้ หรือแม้แต่จะพยายามจะถอดสายชนวนระเบิดนี้

มีแต่สั่งสมปัญหาให้มากขึ้น ทุกๆวัน  

การแก้ ก็มักมองเฉพาะปัญหาแคบๆ หน้าบ้านของตนเอง

และทุกคนดูเหมือนจะมีข้อจำกัดไปหมด ไม่มีใครมีเวลา และทรัพยากรมากพอ ที่จะคิดเพื่อการแก้ไขปัญหาในระยะยาว 

เป็นผลให้มีการสะสมปัญหาทุกๆด้านอย่างต่อเนื่อง ทางสังคม เศรษฐกิจ ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม 

จนน่ากลัวว่าจะต้องเกิดการระเบิดแบบ บิกแบง จนทำให้เกิด กลุ่มดาวใหญ่น้อยไปทั่วทั้งจักรวาล 

การระเบิดของศูนย์กลางจักรวาลทำให้เกิดดาว และกลุ่มดาวเป็นหมื่นๆ กลุ่ม เป็นล้านๆ ดวง รวมทั้งทางช้างเผือกและสุริยจักรวาลที่เราอาศัยอยู่นี้ 

เมื่อมองกลับมาในปัญหาของโลก ตามที่ท่านราษฎรอาวุโสได้สาธยายไว้แล้วนั้น  อาจจะเกิดการระเบิดจากการสะสมปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ และระบบนิเวศ

 แบบเดียวกับการเกิด "บิกแบง" ในดาว "คริพตัน" ที่เป็นที่เกิดของ "ซูเปอร์แมน" ก่อนจะหนีมาอยู่ในโลก 

หนังเรื่องซุเปอร์แมนนั้น ได้พยายามสอนคนในโลก โดยถ่ายแนวคิดมาจากท่า อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในเรื่อง ทฤษฎีสัมพันธภาพ ของสะสาร และพลังงาน

E =m.Cกำลังสอง

แต่คนส่วนใหญ่ก็คงไม่กลัว และไม่คิดต่อ ว่าควรจะเอาบทเรียนจากหนังเรื่องนี้มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาความคิดด้านใดบ้าง

ผมจึงขอเดินตามความคิดของท่านหมอประเวศ ครับ

แล้วถ้าเกิด "บิกแบง" จริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง สิ่งเหล่านี้เกินกว่าระดับสมองเต่า ปัญญาหางอึ่งอย่างผมจะคิดออก

วานท่านผู้รู้ ผู้ทรงคุณวุฒิช่วยตอบให้ด้วยครับ

 เผื่อเราจะได้เตรียมตัวรองรับสถานการณ์และปัญหาได้อย่างถูกต้อง

และอาจมีความหวังดีๆ   ที่อาจรอได้วันดีๆที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการระเบิดของหลุมดำทางความคิด อย่างต่อเนื่องกับระบบอื่นๆ ไปพร้อมๆกัน 

เราจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้างครับ

ผมจะพยายามทำบุญไว้รอเกิดดูผลในชาติหน้า ที่ไม่ทราบอีกสักกี่ชาติจึงจะเห็นผล 

ขอให้ประเทศชาติ และโลกจงเจริญครับ



ความเห็น (4)

เรียนท่านเล่าฮู 

หลุมดำไม่รู้จัก

รู้แต่ใจดำ อะไรที่ลงท้ายดำๆ..มักจะไม่ค่อยดี

ดำดี คือ ดำเนินการ ราชดำเนิน ดำริ ดำรัส

สรุป  หลุมดำอยู่ไกลตัว  ในระบบสุริยะจักวาล

        ใจดำ อยู่ในตัว ใกล้ตัว เงาตามตัว

 

ครูบาครับ

ยังมีหลุมดำKM อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลดว้ยนะครับ

เดินๆต้องระวัง

โดยเฉพาะหลุม"ปลาทูหมื่นปีตีแปลง"

นี่ลึก และน่าถลัวที่สุด ทำให้งาน KM สะดุดไปหมด

ผมกำลังพยายามช่วยกลบด้วย KM ธรรมชาติอยู่ ก็ยังไม่ค่อยเต็มดี

ตอนนี้ท่านอรหันต์ KM ก็มาช่วยสะกิดเติมเชื้อให้กับ KM ธรรมชาติ จนเกือบจะพอเติมหลุมดำนี้ไม่ให้เป็นกับดักคนหลงทางอีกต่อไป

เมื่อวานอาจารย์ภีม จาก ม. วลัยลักษณ์ ก็มาช่วยเติมให้หลุมนี้เต็มเร็วยิ่งขึ้น

ถ้าเราใช้หลักบูรณาการเมื่อไหร่ ภาพการแก้ไขในทุกเรื่อง จะชัดขึ้นทันทีครับ ถ้าหนีเมื่อไหร่ จะเกิดหลุมดำทันทีครับ

ตอนนี้ต้องพูดว่า

หัวใจมหาชีวาลัย คือ หัวใจบูรณาการ ครับ

หลุมดำ  ฟังแล้วหน้ากลัวไม่อยากเข้าใกล้  แตถ้าปัญหาสะสมมากๆมากเราก็ต้องเจอหลุมดำมากๆๆเข้าก็อาจระเบิดได้  อันตรายมากๆๆๆ   ถ้าไม่อายกเจอก็ควรช่วนกันร่วมมือ ร่วมใจกัน

 

 

      หลุมดำ หมัดดำ น่าจะอันตรายพอพอกันนะคะ เอ ชักไม่แน่ใจ หลุมดำน่ากลัวตอนมันจะระเบิด แต่วิ่งกระเจิงแน่ถ้าเจอหมัดดำ (คันคะคันมากด้วย) หรือป๋าแหวงว่าไงคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท