โอ...ดีจังเลยค่ะ ขอบคุณที่คุณดอกแก้วทำสิ่งดี ๆ อย่างนี้ให้สังคมไทย และขอบคุณที่นำสิ่งนี้มาแบ่งปันให้ทุกคนทราบ ขออนุโมทนาใจกุศลเจตนาและคุณงามความดีที่ได้ทำทุก ๆ วันด้วยนะคะ
และขอบคุณมากด้วยค่ะที่กรุณาแวะไปเยี่ยมบล๊อก เมื่อเทียบกับสิ่งอันมีค่าที่คุณดอกแก้วกำลังทำอยู่แล้ว ถือว่ากิ๊กก๊อกมากค่ะ (แหะ ๆ) สักวันหนึ่งหวังว่าคงได้มีโอกาสทำอะไรดี ๆ ให้สังคมอย่างเต็มที่ เหมือนที่คุณดอกแก้วทำ
ขอส่งกำลังใจมาให้นะคะ คนดี ๆ อยู่ที่ไหน ก็ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ค่ะ
สวัสดีค่ะ,
อ๋อ...โยโยกิ หรือคะ เขามีสวนสาธารณะใหญ่อยู่ตรงนั้น เคยไปเดินเล่นถ่ายรูปมาเหมือนกัน เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะเอามาแปะให้ที่นี่นะคะ
ใช่ค่ะ คนญี่ปุ่นรักธรรมชาติมาก และเด็ก ๆ ญี่ปุ่นก็เลยพลอยได้อานิสงส์เรียนรู้ที่จะรักธรรมชาติและอนุรักษ์ไปด้วยตั้งแต่เด็กเลย อีกอย่างที่เห็นชัดตั้งแต่ไปเลยก็คือ เขาจะมีจิตสำนึกเรื่องการ "แยกขยะ" มากเลยน่ะค่ะ
กล่าวคือ ทุก ๆ ที่นั้น แม้นในบ้านตัวเอง ต้องแยกขยะอย่างน้อย ๕ ประเภทใหญ่แล้ว โอ้โฮ...เราไปจากประเทศที่ยังไม่พัฒนาขนาดนั้น ตอนแรกตั้งหลักไม่ถูกเหมือนกันนะคะ ยิ่งอ่านภาษาญี่ปุ่นยังไม่แตกฉานเท่าไหร่ด้วย ต้องตั้งใจมาก ๆ ค่ะว่าตกลงฉันทิ้งถูกถังไหมเนี่ย
แม้แต่ในร้านอย่างแมคโดนัลด์ ทานเสร็จแล้วจะทิ้งขยะให้เขาก็ต้องแยกละเอียดยิบค่ะ คือ ของทานเหลือก็ถังนึง กล่อง แก้ว กระดาษก็ถังนึง ฝาครอบแก้ว และหลอด ก็อีกถังนึง
ภาษาเด็กวัดก็ต้องบอกว่า ต้องไปค่อย ๆ ยืนกำหนด พิจารณาทิ้งไปทีละถัง ทีละถัง อย่างนั้นเลยค่ะ
กลับมาแล้ว อยากให้บ้านเราทำอย่างนั้นบ้างจัง
เพราะอย่างที่ตัวเองได้ชัด ๆ เลย ก็คือ เวลาอยู่อพาร์ตเม้นท์แล้วได้แยกขยะเอง จะเห็นว่า วัน ๆ เราสร้างขยะประเภทไหนมากน้อยเพียงใด มันจะเห็นภาพแล้วมีจิตสำนึกขึ้นมาเองน่ะค่ะ
แม้นแต่การท่องเที่ยวญี่ปุ่น ทำแผ่นพับให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ยังบอกว่า ท่านปีนภูเขาฟูจิเสร็จแล้ว กรุณานำขยะของท่านกลับไปทิ้งที่บ้านให้หมดด้วย โอ้โห.....
ขอบคุณที่เล่าสู่กันฟังเรื่องจัดค่ายให้เด็กญี่ปุ่นนะคะ
สวัสดีค่ะ,
ณัชร
มีเรื่องเช่นนี้บ่อยเหมือนกันครับเวลาที่ทำงาน
แต่ต้องปิดเป็นความลับ เพราะส่วนมากอาจารย์
เคยสอนว่าเวลาเป็นแพทย์อย่าให้อะไรคนป่วยโดยตรง ให้ฝากพยาบาลเอาให้
ที่พบบ่อยๆคือ
เป็นชาวบ้านที่ไม่มีค่ารถไป รพ จังหวัด หรือเชียงใหม่
เป็นชาวบ้านที่เขาเดือดร้อนจริงๆ อย่าง2 กรณี ล่าสุดคือ พ่อติดเหล้ามาก อาการไม่ดี เดินไม่ได้ ลูกชายคนเดียวอยู่ม2 ก็ต้องออกจาก รร.. ไปทำงานหลายที่ก็โดนให้ออก เลยให้สิ่งของ และ pocket money ไป และโชคดีมากครับ เจอสองตายายใจดีจากกรุงเทพ ที่มาทำบ้านเช่าที่ปาย มาตรวจและเป็นคนไข้ประจำ พอบอกเรื่องนี้แล้ว ท่านทั้งสองบอก ต้องการดูแลและรับไว้ จะให้กลับไปเรียนด้วย.. แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ติดต่อนะครับ งานยุ่งอยู่เลย
อีกรายเป็นคนต่างจังหวัดมาอยู่กับสามีที่นี่มีลูกชายหนึ่งคน 13 ขวบ ก็ไม่ค่อยเต็ม พัฒนาการผิดปกติ สามีก็ไม่รับผิดชอบดูแล อีกทั้งยังทำร้ายร่างกายเด็กและแม่อีก บ้างครั้งลูกก็โมโห ทำร้ายแม่ วันนี้แม่ก็มารพกับลูก แม่มีกระดูกร้าวเพราะตกเขาที่เท้า ใส่เฝือกอยู่ และก็ต้องเดินมารับยาตั้ง3 กิโลแนะ รายนี้ผม อนุเคราะหฺค่าใช้จ่ายตลอดเพราะว่าเขาไม่มีบัตรทองครับ ฟังเรื่องเขามาหลายครั้งก็เศร้าเหมือนกันเลยให้รถ จนท รพ ไปส่งและให้ตางค์ไปนิดหน่อย(ฝากพยาบาลให้)ครับ.....
ที่ให้ตางค์ไม่ใช่ว่าผมมีมากนะครับ แต่เพราะว่าจำนวนเท่านี้ถ้าสามารถช่วยเขาได้บ้างก็คงจะดีครับ
ขอ ลปรร ครับ น.พ.สุพัฒน์ ใจงาม
อาจารย์ครับ นับถืออาจารย์ + อิจฉาชีวิตของอาจารย์ที่ได้อยู่กับสังคมที่ดีมากเลยครับ อยากให้ส่วนใหญ่ของประเทศไทยเป็นสังคมที่มีการแบ่งปันและเข้าใจกันอย่างอาจารย์ครับ ขอบคุณมี่แวะไปเยี่ยม blog ครับ ขอ add เข้า planet นะครับ
ใช่ค่ะ คุณดอกแก้ว ทุกวันนี้ก็ยังมีคนมาออกกำลังกายค่ะ
และเห็นด้วยเลยค่ะว่า เขาชอบจะมาทักทายเราอย่างอบอุ่นเสมือนเป็นญาติจริง ๆ ในหมู่คนที่เราได้มีโอกาสรู้จักและข้องแวะด้วยนะคะ ถึงแม้จะพูดด้วยไม่รู้เรื่องมากเท่าไหร่ แต่ใจนั้นสัมผัสได้จริง ๆ ถึงความห่วงใย
พระพุทธเจ้าท่านถึงทรงตรัสไว้ว่า ความคุ้นเคย เป็นญาติอย่างยิ่ง ไงคะ
โห...อ่านที่คุณดอกแก้วบอกว่าเป็นไตวายแล้วก็อึ้งไปพักหนึ่งค่ะ นี่ถ้าไม่เคยปฏิบัติธรรมมาก็คงจะคิดไม่เป็น แล้วก็ถามตัวเองไปแล้วว่า ทำไมคนดี ๆ ขนาดนี้ถึงต้องเจออะไรหนักๆ อย่างนี้ด้วย แต่จากที่อ่านคุณดอกแก้วโพสต์แล้วเชื่อว่าคุณดอกแก้วเข้าใจเรื่องธรรมะมากกว่าตัวณัชรเองอีก เพราะฉะนั้นจึงวางใจได้ว่า คุณดอกแก้วสามารถพลิกทุกสิ่งในชีวิตรวมทั้งทุกข์ที่เผชิญ ให้กลายเป็นปัญญาทางธรรมได้อย่างลงตัวหมดจดงดงาม
การเขียนและเรื่องราวของคุณดอกแก้วมันฟ้องเช่นนั้นค่ะ :)
อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้ทางนี้ และหากมีอะไรให้ช่วยได้ก็ส่งข่าวกันบ้างนะคะ
ด้วยความเคารพ,
ณัชร