เมื่อเราได้ยินคำว่า "ประวัติศาสตร์" ความคิดของเรามักจะหันไปหาหนังสือเรียนที่เต็มไปด้วยวันที่ ชื่อ และเหตุการณ์ต่างๆ การต่อสู้ที่ชนะและแพ้ของอาณาจักรต่างๆ จักรวรรดิที่รุ่งเรืองและล่มสลาย และบุคคลผู้มีอิทธิพลที่หล่อหลอมความก้าวหน้าของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์เป็นมากกว่าบันทึกเหตุการณ์ในอดีต เป็นพรมผืนใหญ่ที่ถักทอจากประสบการณ์ของมนุษยชาติ
ประวัติศาสตร์ หมายถึง ความพยายามที่จะศึกษาทำความเข้าใจความซับซ้อนของการดำรงอยู่ของมนุษยชาติในอดีตผ่านเลนส์ของเวลา เป็นเรื่องเล่าที่เชื่อมโยงเรากับบรรพบุรุษ ช่วยให้เราเข้าใจปัจจุบันของเรา และช่วยให้เรากำหนดอนาคตของเราได้
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ หมายถึง ร่องรอยของอดีตทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ที่ยังหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันช่วยให้เกิดจินตนาการของภาพสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนเวลาของเรา ซึ่งหมายรวมถึงเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร ประวัติศาสตร์ปากเปล่า การค้นพบทางโบราณคดี ภาพถ่าย ภาพวาด และแม้แต่สิ่งของต่างๆ เช่น เสื้อผ้าหรือของใช้ในครัวเรือน โดยพื้นฐานแล้วหากอะไรที่สามารถบอกเราเกี่ยวกับอดีตได้ก็นับเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์
เหตุใดหลักฐานทางประวัติศาสตร์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการศึกษาประวัติศาสตร์ เป็นเพราะหัวใจของประวัติศาสตร์คือการตีความอันเกี่ยวกับการปะติดปะต่อเรื่องราวจากอดีต ทำความเข้าใจกับเรื่องราวเหล่านั้น และพยายามทำความเข้าใจประสบการณ์ของมนุษย์ผ่านกาลเวลา สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้หากไม่มีหลักฐาน เพราะหากไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ความเข้าใจในประวัติศาสตร์ของเราจะเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานและการคาดเดาเท่านั้น
ซากปรักหักพังของปอมเปอีซึ่งถูกฝังอยู่ใต้เถ้าภูเขาไฟจากการปะทุของภูเขาไฟวิสุเวียสในปี ค.ศ. 79 ทำให้เราได้ภาพชีวิตของชาวโรมันที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างไม่น่าเชื่อ บ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ไม่บุบสลาย ศิลปวัตถุ และแม้แต่กลุ่มคนที่ไม่รอดจากการปะทุ ล้วนเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่า หากไม่มีหลักฐานเหล่านี้ เราก็ยังอาจจะไม่เข้าใจการใช้ในชีวิตประจำวันของชาวโรมันในอดีตได้อย่างสมบูรณ์
หุบเขากษัตริย์ในอิยีปต์ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพของตุตันคาเมน ซึ่งค้นพบโดยนักโบราณคดี Howard Carter ในปี 1922 ความมั่งคั่งของโบราณวัตถุ เครื่องประดับ และมัมมี่ของฟาโรห์ ทำให้เห็นถึงประเพณีการฝังศพของชาวอียิปต์ ความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย และงานศิลปะ งานฝีมือ เรียกได้ว่าสุสานตุตันคาเมนเป็นเสมือนขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ของชนชาวอิยิปต์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย คือ ศิลาจารึกรามคำแหง ศิลาจารึกนี้สันนิษฐานว่าเขียนขึ้นในปี พ.ศ. 1835 โดยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย ถือเป็นตัวอย่างแรกของอักษรไทย และทำให้เห็นลักษณะของอาณาจักรสุโขทัยอย่างมีชีวิตชีวาและเจริญรุ่งเรืองด้วยพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาและความยุติธรรมต่อพสกนิกรในอดีต
อยุธยา เมืองแห่งประวัติศาสตร์ เมืองหลวงของประเทศไทยตั้งแต่ปี 1350 ถึง 1767 เป็นแหล่งขุมทรัพย์ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ซากปรักหักพังของโบราณสถานและโบราณวัถตุทั่วเมืองทำให้เห็นการออกแบบสถาปัตยกรรมของวัดและงานศิลปะ ทั้งรูปปั้น งานแกะสลัก และภาพเขียน เผยให้เห็นอิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างๆ เช่น เขมร มอญ และชาติยุโรป หลักฐานทางโบราณคดีจากอยุธยามีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจว่าวัฒนธรรมไทยได้รับการหล่อหลอมจากอิทธิพลของชาวไทยพื้นเมืองและต่างประเทศอย่างไร
ไม่มีความเห็น