จากบันทึกที่แล้ว ที่นี่ ถือโอกาสขยายความต่อเนื่องสู่หัวใจห้องที่ 4 (คำถามข้อที่ 4) ในหัวข้อ “คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของครูรักษ์ถิ่น”
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมให้นักศึกษาวาดภาพเพื่อนร่วมรุ่นที่แต่ละคนรู้สึกรัก –ชื่นชอบ-ศรัทธา โดยให้นักศึกษามองในมิติที่ว่าเพื่อนคนนี้มีคุณลักษณะที่สอดคล้องและเหมาะสมต่อการเป็นครูรักษ์ถิ่น ซึ่งการวาดที่ว่านี้ มีกติกาง่ายๆ คือ ห้ามมิเพื่อนคนนั้นรู้ตัวว่ากำลังถูกมองว่าเป็นต้นแบบ
พูดง่ายๆ ก็คือ ฝึกการสังเกตแบบเงียบๆ ฝึกวิเคราะห์ ฝึกการถ่ายทอดข้อมูลผ่านงานศิลปะ (ภาพวาด) หรือแม้แต่การฝึกสมาธิ รวมถึงฝึกการค้นหาสิ่งดีๆ รอบตัว และการชื่นชมสิ่งดีงามรายรอบตัว -
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เสร็จจากการวาดภาพ ผมชวนให้นักศึกษาออกเดินไปหาเพื่อนที่ตัวเองวาดภาพให้ จากนั้นให้นั่งล้อมวงเป็นกลุ่มๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความชื่นชอบผ่านภาพวาดสู่กันฟัง รวมถึงการเปิดโอกาสให้แต่ละคนแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ไปพร้อมๆ กัน เพียงแต่มีกติกาง่ายๆ คือ “มีคนพูด-มีคนฟัง”
เมื่อเสร็จสิ้นการบอกเล่า ผมให้นักศึกษาแต่ละคนนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพแล้วโพสลงในสังคมออนไลน์ แต่ไม่ได้บังคับว่า “ทุกคนต้องโพส” เรียกได้ว่าเชิญชวนตามความสมัครใจ โดยมีกติกาเพิ่มขึ้นมาเล็กๆ น้อยๆ คือ มีวาทกรรม (แฮชแทก) ร่วมกัน หรือแม้แต่ให้แทกไปยังเพื่อนที่ปรากฏในภาพ
ความจริงมีอยู่ว่า ผมมีเจตนาที่ชัดเจนที่จะฝึกทักษะการสื่อสารสร้างสรรค์แก่นักศึกษา เสมือนการสร้างสื่อ-ผลิตสื่อไปในตัว เป็นการสื่อสารสร้างสรรค์ผ่านการเล่าเรื่อง ผ่านภาพวาด ผ่านสังคมออนไลน์ ควบคู่ไปกับฝึกการฟัง การซักถาม ฝึกความกล้าที่จะ “บอกรัก” หรือ “ชื่นชม” กันและกันไปในตัว
เช่นเดียวกับการพยายามสื่อให้รู้ว่า รายรอบตัวของนักศึกษาล้วนมีข้อมูล-ความรู้ที่น่าสนใจอย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเปิดใจเบิ่งมองและค้นพบได้หรือไม่
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อกระบวนการกลุ่มย่อยปิดตัวลง ผมก็ขยับขึ้นสู่กระบวนการกลุ่มใหญ่ในทันที กล่าวคือแบ่งนักศึกษาออกเป็น 4 กลุ่มตามฐานคิดของ “สัตว์ 4 ทิศ” เพื่อให้แต่ละกลุ่มระดมสมอง-สังเคราะห์ข้อมูลจากภาพวาดแต่ละภาพว่าคุณลักษณะที่พึงประสงค์ หรือคุณลักษณะ (ในฝัน) ของครูรักษ์ถิ่นมีอะไรบ้าง
ผมเน้นย้ำหนักแน่นว่า แม้จะเป็นเพียงภาพฝัน หรือในฝัน แต่ก็ขอให้ยึดข้อมูลจากภาพวาดเป็นหัวใจหลัก เสมือนภาพวัดที่อยู่บนฐานข้อเท็จจริงนั่นเอง หากขาดตกบกพร่องอะไร ค่อยวิเคราะห์สังเคราะห์และชักลากจากแหล่งอื่นๆ เข้ามาสมทบ
กระบวนการนี้ก็ฝึกการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ถอดความรู้จากภาพ ฝึกการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกการทำงานแข่งกับเวลา ฝึกการทำงานเป็นทีม ฝึกการแก้ปัญหา หรือแก้สถานการณ์ร่วมกัน ฝึกการออกแบบสื่อ ฯลฯ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อนักศึกษาทั้ง 4 กลุ่มสังเคราะห์ข้อมูล หรือเรียกแบบยกระดับเป็นวิชาการสักหน่อยในทำนองว่า “บทสรุป” (Conclusion) หรือ“ชุดความรู้” เสร็จสิ้นแล้ว ก็เป็นกระบวนการนำเสนอข้อมูลในแบบที่นักศึกษาถนัด หรือที่ผมมักพูดติดปากเสมอมาว่า “จงนำเสนอ (Reporting) ด้วยวิธีการของเราเอง”
ภาพรวมอันเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของครูรักษ์ถิ่นที่นักศึกษาสะท้อน-นำเสนอออกมานั้น พบประเด็นที่มีความถี่ซ้ำกว่าประเด็นอื่นๆ ดังต่อไปนี้
นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆ ชวนขบคิดเพิ่มเติม เช่น การเป็นนักพัฒนาชุมชน และการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน ซึ่งผมมองว่าก็ไม่แปลก เนื่องจากครูรักษ์ถิ่น คือคนที่กลับไปสอนหนังสือที่บ้านเกิดของตนเอง บทบาทและหน้าที่จึงไม่ได้อยู่แค่การสอนหนังสือ ทว่าหมายถึงต้องสอนชีวิตและพัฒนาท้องถิ่นควบคู่กันไป
และเท่าที่ผมวิเคราะห์จากสิ่งที่นักศึกษากำลังถูกบ่มเพาะภายใต้โครงการดังกล่าว ผมค่อนข้างมั่นใจว่า จริงๆ แล้วครูรักษ์ถิ่นเป็นประหนึ่ง “วิศวกร-สถาปนิกชุมชน” เลยก็ว่าได้ เพราะทำหน้าที่หลากหลาย บางขณะอาจเป็นหมอชุมชน บางเหตุการณ์อาจเป็นนักวิชาการ นักวิจัยชุมชน เป็นโฆษกชุมชน เป็นทนาย (หมอความ) เป็นนักไอที เป็นนักสื่อสารชุมชน เป็นนักวัฒนธรรม ฯลฯ
ผมมองเช่นนั้น และให้กำลังใจต่อนักศึกษา เพราะเท่าที่มองเห็นตอนนี้ ยอมรับว่า ภารกิจ/พันธกิจของครูรักษ์ถิ่นยิ่งใหญ่จริงๆ
ชื่นชม และให้กำลังใจ นะครับ
เขียน : อังคาร 21 มีนาคม 2566
อาคารพัฒนานิสิต กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ตามต่อ … เสมือนผมนั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ผมอยู่ห่างจากห้องนั้นไปอีกปีกหนึ่งของอาคารเท่านั้น
ขอบคุณ อาจารย์แผ่นดินที่แวะมาเยี่ยมผมครับ 555
ครับ อาจารย์ Wasawat Deemarn
หมายถึง ผมเล่าให้เห็นภาพชัดเจน ทั้งกระบวนการ และผลลัพธ์ของกระบวนการเหรอครับ
หรือ เล่าว่า ผู้ช่วยวิทยากร โดดงาน 555