สายธารความรู้สู่การเลี้ยงโคอย่างพอเพียง ตอนที่ 19 การหย่านมลูกโค


ในกรณีที่ให้ลูกโคหย่านมโดยไม่แยกคอก ก็ใช้วิธีผูกไม้ปลายแหลมไว้ที่ปากของลูกโค เมื่อเวลาไปดูดนมแม่ ไม้ปลายแหลมก็จะทิ่มเต้านมแม่ให้เจ็บ แม่โคก็จะไม่ยอมให้ลูกโคดูดนมอีกต่อไป

       การหย่านม คือ การแยกลูกโคออกจากแม่เพื่อไม่ให้กินนมอีกต่อไป  เพราะถ้าหากหย่านมลูกโคได้เร็วเท่าไรก็จะทำให้แม่โคฟื้นฟูสุขภาพได้เร็วเท่านั้น

       โดยทั่วไปนิยมให้ลูกโคอย่านมเมื่ออายุได้ประมาณ 5-6 เดือน หรือย่างช้า  7 เดือน เพราะอายุโคขนาดนี้สามารถกินหญ้าได้อย่างเต็มที่แล้ว และเป็นการลดภาระของแม่โคในการใช้อาหารมาสร้างน้ำนมและเตรียมพร้อมสำหรับการผสมใหม่อีกครั้ง

       เทคนิคการหย่านมของคุณการัญญะภาคนั้น ใช้วิธีแยกลูกโคออกจากแม่โค โดยนำไปขังไว้ในคอกที่อยู่ใกล้กันต่างหากประมาณ 3-5 วัน ไม่ควรห่างกันมากเพราะจะทำให้แหกคอกกลับมากัน ควรขังไว้ในคอกที่แข็งแรงมั่นคง ป้องกันลูกโคหนี เพราะถ้าหากหนีได้จะกลายเป็นนิสัย

         ในกรณีที่ให้ลูกโคหย่านมโดยไม่แยกคอก  ก็ใช้วิธีผูกไม้ปลายแหลมไว้ที่ปากของลูกโค เมื่อเวลาไปดูดนมแม่ ไม้ปลายแหลมก็จะทิ่มเต้านมแม่ให้เจ็บ แม่โคก็จะไม่ยอมให้ลูกโคดูดนมอีกต่อไป

      เมื่อลูกโคอย่านมแล้ว ควรให้กินอาหารข้นและอาหารหยาบอย่างเต็มที่ในระยะ 7- 10  วัน เพื่อให้ลูกโคลืมแม่

หมายเลขบันทึก: 69044เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2006 23:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม 2012 14:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

การหย่านมลูกโค เป็นชุดความรู้ในท้องถิ่นที่มีคุณค่า

ลงทุนน้อย แต่ได้ผลดี เชื่อว่ายังมีอีกหลายวิธีที่เป็นของท้องถิ่นบุรีรัมย์ ศึกษาหลายๆวิธี เมื่อสรุปบทเรียนและถอดบทเรียนออกมา จะเป็นมุขสำคัญของพันดา

ขอบพระคุณค่ะ ท่าน ผอ. เทคนิคการหย่านมที่กล่าวมาคงเป็นมุขของบุรีรัมย์อีกวิธีหนึ่ง จะพยายามค้นหาวิธีการใหม่ ๆ จากเม็กดำเพิ่มเติมในอีกไม่ช้าค่ะ

 

  พวกเลี้ยงโคนม จะหย่าลูกโคเร็วมาก

  ถ้าเติมชุดความรู้เข้าไปอีก

  ขั้นตอนของการหย่านมจะสมบูรณ์ขึ้น

 กลวิธีจะนำไปดัดแปลงเพื่อแก้ไขปัญหา

 เช่น แม่โคตาย  ลูกโคจะทำอย่างไร

หัวนม น้ำนม มีปัญหา จะทำอย่างไร

นมที่เหลือจะเอาไปทำอะไร

หัวนมบอด หัวนมคัด ไม่ยอมให้ลูกดูดนม

น้ำนมแห้ง หัวนมอักเสบ

แสดงว่าขั้นตอนนี้ยังมีอีก

ข้อมูลที่หา ที่ค้น ที่ถาม หมายถึงข้อมูลแวดล้อม

อาจจะถาม ถาม เจ๊าะแจ๊ะ แต่ข้อมูลไม่แจ๊ะเจ๊าะแน่

แสดงว่ายังขาดนิดหน่อยตรงเจ๊าะแจ๊ะยังไม่พอ

เสน่ห์ของข้อมูลที่ได้ จะมาจากเกล็ดเล็กน้อย แต่ซ่อน

ความหมาย ความสำคัญไว้มาก ยังมีเรื่องนมๆรอหรือ

ซ่อนอยู่ตรงไหนอีก เช่นการฝากลูกเลี้ยง การผสมข้ามพันธุ์เพื่อให้แม่โคมัน้ำนมสมบูรณ์ขึ้น หมายความว่าข้อมูลที่โยงเชื่อมต่อกัน อาจจะไปจบเป็นตอนๆ ถ้าจำเป็นต้อมข้ามตอนก็ได้ เช่น กลอุบายการหย่านมที่น่าสนใจของสัตว์แต่ละประเภท แต่ละตัว อุปนิสัยของแม่โค ทำไมบางตัวดุ ทำไมบางตัวใจดี ก็เหมือนคนนั่นแหละ ทำไมบางคนถูกเรียกว่าแม่เสือ ทั้งๆที่เป็นแม่คน อนุญาตให้ขยายวงออกจากกรอบวิชาการได้ เพราะของเราพวกนอกระบบ พวกวิชาเกิน อ่านแล้วจะได้ความทึ่ง ความหมาย ความสนใจ อยากเห็นรายงานที่สดใส เช่น

ลูกโคที่ถูกหย่านม น่าสงสารไหม มันทำอย่างไร

แม่โคทำอย่างไร ลูกโค มีอาการ และแสดงออกอย่างไร

บางตัวนะ อ.พันดา เราแยกลูกแยกแม่ พอห่างตาเรา

..แม่โคจะเบียดตัวเองเข้ามาข้างรั้ว พยายามยื่นนมเหี่ยวqมาให้ลูกดูดจนได้

..ลูกโคบางตัวแยกกันไปเป็นเดือน เอามารวมฝูง ยังแอบไปชิมนมกันอีก

//ศิลปะแห่งชีวิตของวงจรโค หาให้เจอ..ถ้าอยากจบแบบทึ่ง&งึด!!!!

 

  อยากจะฝากบอกพวกเรา  บทความก็ดี ชุดความรู้ก็ดี

ควรจะมีกลิ่นอายของลูกทุ่ง เสน่ห์ของแง่มุมชีวิต

  อย่าเขียนทื่อๆรายงานทื่อๆแข็งกระโดกแบบวิชาการท่อนซุง เชื่อว่าพวกเรามีมุมคิดแง่มองอยู่แล้ว แต่นึกว่าไม่สำคัญไปบ้าตามวิชาการทั้งแท่ง เรื่องนี้แยกแท่งผ่าหมากได้ โดยเฉพาะ

   อ.ศิริพงษ์ เวลาพูดดูเหมือนจะมีจุดที่จะคลิ๊กอยู่เรื่อย แต่ไม่มั่นใจไม่งัดออกมา พยยามที่จะแปลงสาระของคนอื่น แต่ของตัวเองไม่แตกตัว ตรงนี้แหละที่พวกเราเฝ้ารอดูและอยากเห็น

   อย่าลืมว่า นี่เรื่องของชีวิตนะ เราต้องการเรียนวิธีที่มีวิญญาณชีวิต หรือชีวิตที่มีวิญาณ อาจจะแย้งว่าไม่ใช่เขียนนวนิยายละโว้ย! เออ..ตรงนี้มันมีเส้นใสๆกั้นอยู่

   ที่เล่ามา  โดยโปรดหัวว่า สายธาร..

เราควรสร้างสายธารแห่งความรู้นี้อย่างไร

น้ำใสไหนเย็นเห็นตัวปลา  หรือน้ำเน่า ไหลกระปริดกระปรอย ที่ติงในช่วงนี้ ไม่ชวนคิดแต่แรกเพราะเห็นว่าน่าจะกระแซะข้ออมูลออกมาได้ตามธรรมชาติ เพราะเชื่อลึกๆว่าคุณสมบัติที่ว่านี้มีพร้อมอยู่แล้ว แต่ติดเรื่อง..เอาแค่นี้แหละว่ะ..ไม่ถามตัวเองว่ายังมีอะไรอีก..อะไรอีก..

  เวลาเข้าป่าไปหาพระฤษี ถ้าไม่มีอะไรมาเสนอ มาถามแลกเปลี่ยน มันก็จะคิดเอาเองว่ามาทำไมวะ ไม่เห็นต้องมา มาแล้วไม่เห็นได้ทำอะไร

..นี่ยังคิดในเชิงรับ ทั้งเซ็ทเราเป็นเช่นนี้ ..แล้วยังไงอีกละ..

อ๋อ!ยังงี้ไง..ของเราจะต่างจากสำนักเม็กดำ..

ทุกครั้งที่เม็กดำมา จะมีประเด็นหารือ มีเรื่องเล่า เรื่องบอก เรื่องที่มันเต้นไปข้างหน้า..

นี่คือความแตกต่าง..ที่พวกเราแปลรหัส อ.แสวงไม่ออก ว่าทำไม ไม่ทำ ไม่เข้าเค้า ไม่เข้าลู่ ไม่มมมมม

มันไม่ง่าย ถ้าง่ายเราไม่เลือกพันดา ศิริพงษ์ หรือสำเนียง หรอก เลือกครูขี้ยาที่ไหนก็ได้

  แหม เช้านี้ตื่นขึ้นมาบ่นเฉพาะเลยนะนี่ อามิตรพุทธ

 

  อยากให้ทบทวน  ที่คนอื่นเขียน หรือเราเข้าไปอ่าน

เราไม่รู้สึกเลยหรือว่า  เราจะต่างจากเขาอย่างไร

เอกลักษณ์ของเรา เราต้องแทรกเข้ามา

อ.พันดา ..,มีมิติ แย้ง ไม่ยอม เด็ดขาด แต่พอไป

ค้น ไปตามข้อมูล กลับเดินตามเขาต้อยๆ 

แล้วเมื่อไหร่ความเป็นตัวตนของคนที่ชื่อพันดา

จะนำพาตัวหนังสือมากระโดดโลดเต้นอยู่หน้ากระดาษ 

 

  วิธีหย่านมที่เสนอก็ดี เข้าท่า แต่ไม่ครบกระบวนท่า

เพราะเชื่อว่ายังมีวิธีอื่นๆอีก การลงพื้นที่ต้องทำการบ้าน  ถามที่เดียว 10-100 ประเด็น บันทึกเทป ชวนคิด ชวนเขียน

เป้าใหญ่ของKM.ก็การจัดการความรู้ที่ตัวคน

  รวบรวมความรู้ในตัวคน ออกมาประมวลเป็นชุดความรู้ท้องถิ่น  เราจะต่างจากเขาตรงนี้..เน้นการสร้างชุดความรู้เพื่อท้องถิ่น ให้คนในท้องถิ่นนำไปใช้ ไม่ได้ไปให้นักวิชาการ หรือนักบ้าๆบอๆใช้

 อีกตัวหนึ่ง นะ..อ.พันดา ที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อเกิดสังคมแห่งการเรียนรู้

ชาวบ้านจะเรียกหาความรู้จากนักวิชาการ

ถ้าวันนั้นมาถึง ถามว่า นักวิชาการจะมีให้เขาไหม

ทุกคนบอกว่ามีแน่นอน..แต่มันเป็นวิชาที่ไม่เหมาะกับ

ชาวบ้าน เป็นวิชาการที่เหมาะกับวงกว้างทั่วไป

เราถึงแยกมาทำ..เพื่อเสนอว่า..

บูรณาการศาสตร์ คืออย่างนี้ เป็นอย่างนี้

ตรงจุดนี้อยากให้หารือและทำความเข้าใจในหมู่กันเอง

ถ้าจำได้..เคยทะลุกลางปล้องมาครั้งหนึ่ง

ที่พวกเราบอกว่าผมเขียนมาได้หลายบท เป็นปึ้ง!

แต่หารู้ไม่ว่าปึ้งนั้นมันน่าโยนทิ้ง!..

  ถ้าใช้วิธีทำให้ลูกอย่านม ของคน โดยใช้ เครือกอฮอ ทาที่ หัวนมของแม่วัว จะเป็นอย่างไรครับ

ผมไม่ค่อยเข้าใจที่นำเสนอมา

ถ้ารอขนาดนั้นคงเสียโอกาสมาก

เจ้าของวัวจะผสมใหม่ทันทีที่เป็นสัด ไม่เคยได้ยินว่าต้องหย่านมก่อน

และเขาว่าธรรมชาติของแม่วัวมันจะรู้ตัวเอง ให้ลูกหยุดกินตอนใกล้คลอดลูกตัวใหม่

ช่วยขยายความหน่อยครับ

ขอบพระคุณพ่อครูมากค่ะ ที่กรุณาชี้แนะ จะสืบค้นข้อมูลและนำเสนอเพิ่มเติมในประเนเกี่ยวกับการให้นมของแม่โคค่ะ

ขอบคุณค่ะพี่พงษ์  กรณีเครือกอฮอหรือบอระเพ็ดยังไม่เคยนำมาใช้กับโค  คงจะต้องพิสูจน์ค่ะว่าใช้ได้ผลหรือไม่

 อาจารย์แสวง ที่เคารพ

        จริงอย่างที่อาจารย์ว่าค่ะ ในเรื่องการหย่านมของลูกโคนั้น  ชาวบ้านที่เลี้ยงส่วนใหญ่จะไม่กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน  แต่ขึ้นอยู่กับการเป็นสัดของตัวแม่  บางตัวหลังคลอด 2-3 เดือนก็สามารถผสมได้แล้ว เพราะโดยธรรมชาติแล้วระยะการตั้งครรภ์ของโคในช่วง1- 4  เดือนแรกนั้น ลูกโคในครรภ์ยังไม่เจริญเติบโตมากนัก และไม่มีผลต่อการผลิตน้ำนม แม่โคจึงยังให้นมกับลูกโคตามปกติได้  แต่เมื่อลูกโคอายุถึง 7  เดือน ลูกโคที่อยู่ในครรภ์ก็จะแย่งอาหารการผลิตน้ำนมก็น้อยลง  แม่โคก็จะเลิกให้นมโดยปริยายได้ค่ะ

         ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท