มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยท่านอธิการบดี รองศาสตราจารย์ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ได้ชี้แจงผ่าน WEBSITE ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ดังนี้
มุมมองมหาวิทยาลัยนเรศวร
กรณีเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ที่ไม่เป็นส่วนราชการ
(มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ)
เดิม |
กรณีเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการ (มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ) | |
1. | สถานภาพของมหาวิทยาลัย |
|
เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่เป็นส่วนราชการ | เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการ | |
การบริหารจัดการใช้ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน | ระเบียบบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยกำหนดโดยสภามหาวิทยาลัย | |
การบริหารการเงินใช้ระเบียบการเงินของกระทรวงการคลัง และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี | ระเบียบการเงินของมหาวิทยาลัยกำหนดโดยสภามหาวิทยาลัย โดยมีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี การเงินทุกประเภททุกรอบปีบัญชี | |
การได้มาซึ่งงบประมาณจะเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย งบประมาณรายได้ และงบประมาณแผ่นดิน โดยมีการจัดสรรแยกเป็นรายการตามแผนงาน | ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ดังนั้นรัฐจะต้องจัดสรรงบประมาณแผ่นดินสนับสนุนเหมือนเดิมแต่จัดสรรให้เป็นเงินอุดหนุนทั่วไปไม่น้อยกว่าเดิม | |
2 | สถานภาพของบุคลากร : ข้าราชการและลูกจ้างประจำ | |
ปัจจุบัน ม.นเรศวร มีข้าราชการจำนวน 685 คน คิดเป็นร้อยละ 30 และมีลูกจ้างประจำ 102 คน | (1) ข้าราชการที่ไม่ประสงค์จะเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ก็สามารถเลือกเป็นข้าราชการต่อไปได้จนเกษียณอายุราชการ สิทธิต่างๆ ยังคงได้รับเหมือนข้าราชการทั่วไป | |
* ข้อมูล ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2549 จากงบประมาณปี 2550 ซึ่งจะมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ * | (2) ข้าราชการที่มีความประสงค์จะเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย | |
- ถ้าเดิมเป็นสมาชิก กบข. สามารถเป็นสมาชิก กบข. ตามเดิมต่อไปจนเกษียณอายุราชการ | ||
- สามารถเบิกค่าเล่าเรียนบุตร และเบิกค่ารักษาพยาบาลให้บิดา-มารดา สามีหรือภรรยา และบุตรได้เหมือนเดิม | ||
- ใช้สิทธิการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่อไป เช่นเดียวกับการเป็นข้าราชการ | ||
- ได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณแผ่นดินเพิ่มสูงกว่าเดิมไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 | ||
- มีตำแหน่ง ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ และอาจารย์ เช่นเดิม | ||
- สิทธิการรับบำเหน็จบำนาญมีสิทธิดังนี้ | ||
· ข้าราชการที่ไม่ได้เข้ากองทุน กบข.จะได้รับบำเหน็จบำนาญตาม พ.ร.บ. บำเหน็จบำนาญ | ||
· ข้าราชการที่เป็นสมาชิกกองทุน กบข. อยู่แล้ว จะมีสถานภาพเป็นสมาชิก กบข. ต่อเนื่องจนเกษียณอายุราชการ | ||
· กรณีที่เป็นข้าราชการบำนาญสามารถเลือกใช้สิทธิ ของข้าราชการบำนาญในการเบิกค่ารักษาพยาบาลและสิทธิอื่น ๆ ของข้าราชการบำนาญ ได้อีกทางหนึ่ง | ||
- สิทธิการเบิกค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะ และค่าที่พักของพนักงานมหาวิทยาลัยจะทำบัญชีอัตราการเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าที่พักให้พนักงานมหาวิทยาลัยในอัตราที่สูงกว่าอัตราของข้าราชการประมาณร้อยละ 50 ส่วนค่าพาหนะเบิกจ่ายตามจริงโดยขึ้นอยู่กับอัตราเงินเดือนและตำแหน่งของแต่ละบุคคลด้วย | ||
(3) ลูกจ้างประจำที่มีความประสงค์จะเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย จะได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณแผ่นดินเพิ่มสูง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และมีสิทธิไม่ต่ำกว่าเดิม | ||
หมายเหตุ | ||
1. หลักเกณฑ์การขอเปลี่ยนสถานภาพ จะระบุภายในพระราชบัญญัติโดยยึดหลักเกณฑ์ คือ | ||
- หากขอเปลี่ยนสถานภาพภายใน 30 วันที่พระราชบัญญัติมีผลบังคับใช้ ไม่ต้องประเมิน | ||
- หากขอเปลี่ยนสถานภาพภายหลัง ต้องผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด | ||
2. กรณีที่เป็นข้าราชการและไม่ประสงค์จะเปลี่ยนสถานภาพยังคงเป็นข้าราชการตามเดิม | ||
สถานภาพของบุคลากร : พนักงานมหาวิทยาลัย | ||
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยนเรศวรมีพนักงาน จำนวน 1,618 คน คิดเป็นร้อยละ 70 | ||
**ข้อมูล ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2549 จากงบประมาณปี 2550 ซึ่งจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ** | ||
ไม่มีกฎหมายรองรับ | มีกฎหมายรองรับ มีความมั่นคง (พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ) | |
ไม่ได้รับสวัสดิการด้านการครองชีพมีแต่ประกันสังคมเหมือนลูกจ้างชั่วคราว | มหาวิทยาลัยจัดให้มีระเบียบว่าด้วยสวัสดิการพนักงานประเภทต่าง ๆ ที่ไม่ต่ำกว่าข้าราชการได้รับ เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร , ค่ารักษาพยาบาลของบิดา – มารดา สามีหรือภรรยา และบุตร ฯลฯ | |
3 | ด้านกิจการนิสิต | |
3.1 | การกำหนดค่าธรรมเนียมการศึกษาระดับปริญญาตรีภาคปกติ | |
เหมาจ่ายตามประกาศ (ใช้ประกาศค่าธรรมเนียม ปี พ.ศ.2549) | ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นนโยบายของสภามหาวิทยาลัย หากมหาวิทยาลัยออกนอกระบบแล้ว จะไม่ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษาเป็นระยะเวลา 10 ปี ถึงปีการศึกษา 2560 | |
3.2 | กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และแนวปฏิบัติ | |
ใช้ระเบียบข้อบังคับของมหาวิทยาลัย | ไม่เปลี่ยนแปลงใช้ระเบียบข้อบังคับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นส่วนใหญ่ | |
3 .3 | การกู้ยืมเงินส่วนใหญ่ของนิสิต | |
นิสิตมีสิทธิในการกู้ยืมเงินจากกองทุนของรัฐบาล ( กยศ. , กรอ.) | ไม่เปลี่ยนแปลงนิสิตสามารถกู้ยืมเงินจาก กยศ. และ กรอ. ได้เหมือนเดิม | |
3.4 | ด้านทุนการศึกษา | |
มหาวิทยาลัยจัดทุนการศึกษาร้อยละ 5 ของนิสิต(ปีละ 30,000 บาท / ทุน)และจัดหาทุนอื่นจากภายนอก ทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติมให้นิสิต | ไม่เปลี่ยนแปลงมหาวิทยาลัยจัดสรรทุนการศึกษาและหาแหล่งทุนอื่นเพิ่มเติมให้นิสิตเหมือนเดิม | |
4. | กลไกในการตรวจสอบของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการ | |
4.1 | ด้านระบบบริหารราชการ ตรวจสอบโดยกรรมการสภามหาวิทยาลัยและผู้ประเมินอิสระ | |
4.2 | ด้านระบบการเงิน ตรวจสอบโดยหน่วยตรวจสอบภายใน สภามหาวิทยาลัย และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน | |
4.3 | ด้านระบบการบริหารงานบุคคล หากไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ สภามหาวิทยาลัย ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาและศาลปกครอง | |
4.4 | อธิการบดีต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช. ก่อนเข้ารับตำแหน่งและหลังจากหมดวาระด้วย | |
5 | กรณีมหาวิทยาลัยเป็นส่วนราชการเหมือนเดิม จะส่งผลกระทบต่อพนักงาน ดังนี้ | |
5.1 | พนักงานที่มีอยู่ ร้อยละ70 ขาดความมั่นคง เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ | |
5.2 | งบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้จะเป็นระบบราชการ ซึ่งส่งผลต่อเงินเดือน สวัสดิการ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับพนักงานของมหาวิทยาลัย ไม่สามารถกำหนดให้ทัดเทียมกับข้าราชการได้ | |
5.3 | ไม่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการ ค่าเลี้ยงดูบุตร และค่ารักษาพยาบาลเหมือนข้าราชการต่อไป เนื่องมาจากไม่สามารถจะหางบประมาณกำหนดเป็นระเบียบให้เบิกจ่ายได้อย่างคล่องตัวเหมือนการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ | |
5.4 | การขออัตราใหม่จะไม่ได้รับการพิจารณากรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่ ทั้งข้าราชการและอัตราพนักงาน มหาวิทยาลัยอาจจะได้เฉพาะพนักงานราชการ ซึ่ |
ไม่มีความเห็น