อ่านบทความที่ชื่อว่า System thinking กับ Systematic thinking ลิ้งค์ ของ อ.ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ชอบใจข้อความที่ว่า Systematic thinking คือ คิดแบบ system + automatic ทำจนเป็นสันดานไปแล้ว มีข้อเสีย คือ เกิดเป็น Loop ที่อาจจะ นำไปสู่ ปัญหาใหม่ วนหลงในปัญหาเดิมๆ หรือถ้าโชคดี ก็หลุดออกไปได้ แต่ก็ยาก เพราะ คิดในกรอบเป็นอัตโนมัติไปแล้ว
ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ราชการเราพอสิ้นปีงบประมาณ 30 ก.ย. และทำแผนงานโครงการสำหรับใช้ในปีงบประมาณใหม่ ที่เริ่ม 1 ต.ค. ก็มักจะซ้ำอยู่ร่องเดิมจริงๆ ไม่ค่อยจะเปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไร มันวนหลงในปัญหาเดิมๆ ที่หลุดออกไปได้มันมีน้อยจริงๆ
ผมจึงคิดว่าในองค์กรราชการ หรือไม่ใช่องค์กรราชการก็ตามแต่เถอะ จะต้องให้มีบุคลากรกลุ่มหนึ่งที่จะต้องคิดหรือทำอะไรนอกกรอบออกไปบ้าง สร้างพวก สร้างทีมทำงาน คนคอเดียวกัน เคลื่อนไหวในองค์กร คิด หรือทำอะไรแบบกล้าและท้าทายที่จะไม่ทำอะไรให้ซ้ำร่องการกระทำเก่าๆที่ทำแล้วไม่เกิดผลดีอะไรขึ้นมาเลย
ผมอ่านบทความอาจารย์ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ แล้ว ผมคิดว่าในการทำงานให้องค์กรราชการไปสู่เป้าหมายองค์กรเรียนรู้ได้นั้น เราเองจะต้องทำตัวอย่างไรไม่ให้ตกร่องการกระทำเดิมให้ได้ ต้องไม่ทำตัวเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ที่ทำไปนานแค่ไหนก็ไม่อาจเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้ แต่งบประมาณนั้นเล่าก็หมดไม่มีเหลือทุกปี บุคลากรจึงต้องกล้าที่จะขบถเล็กๆ(หรือใหญ่ๆ)ต่อตนเองให้ได้เสียก่อนเพื่อพิสูจน์คุณภาพตนเอง แล้วชักชวนเพื่อนฝูงมาร่วมทำ เพื่อจะได้ร่วมกันนำพาองค์กรไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่า
ฉะนั้นถ้าคุณเอื้อ คุณอำนวย คุณกิจ คุณ...ในองค์กร หรือในโครงการใดก็แล้วแต่ ถ้าไม่กล้าขบถต่อการกระทำอะไรแบบเดิมๆของตนเอง ในกลุ่มของตนเอง ในส่วนงานของตนเองให้ได้เสียก่อน ก็คงจะได้ชื่อว่าทำงานอะไรในแนว KM ได้ยากเต็มที
หรือท่านทั้งหลายจะมีความคิดเห็นเป็นประการใด เชิญแลกเปลี่ยนกันนะครับ
อ.ปภังกร ครับ
ขอบคุณ อ.ปภังกร ครับ...แต่การที่จะให้เขาขบถต่อร่องการกระทำเดิมที่มันเป็นกระบวนทัศน์เก่านี่ซิอาจารย์ ไม่รู้ว่าจะทำและเริ่มต้นอย่างไร อาจารย์มีความเห็นว่าไงครับ
คุณหมอปารมี ครับ
ขอบพระคุณมากครับที่เข้ามาเยี่ยมเยือน และบ่งบอกถึงว่ามีความคิดเป็นอย่างเดียวกัน
น้อง บอย สหเวช ครับ
ขอบคุณสำหรับข้อแนะนำเทคนิคการเขียนโครงการแบบหลวมๆ ให้กิจกรรมย่อยๆสามารถยืดหยุ่นได้
ผอ.ดิศกุล ครับ ขอบคุณที่ยกเรื่องกระบวนทัศน์เก่ามาประกอบ ทำให้เข้าใจเรื่องราวได้ดีขึ้นครับ
อ.ปภังกร
ขอบคุณที่เอาประสบการณ์มาแบ่งปันครับ ดีใจที่ผมไม่โดดเดี่ยวครับ ผมจะพยายามทำตามที่ชี้แนะ ในบริบทของผมตัวเล็กๆในองค์กรเท่าที่จะทำได้ครับ.....ขอบคุณสำหรับประสบกาณ์ดีๆอีกครั้งหนึ่งครับ
จะต้องให้มีบุคลากรกลุ่มหนึ่งที่จะต้องคิดหรือทำอะไรนอกกรอบออกไปบ้าง สร้างพวก สร้างทีมทำงาน คนคอเดียวกัน เคลื่อนไหวในองค์กร คิด หรือทำอะไรแบบกล้าและท้าทายที่จะไม่ทำอะไรให้ซ้ำร่องการกระทำเก่าๆที่ทำแล้วไม่เกิดผลดีอะไรขึ้นมาเลย
ดิฉันชอบมากเลยค่ะ...
น้องสิงห์ป่าสัก ครับ
ใช่เลยครับ ! ที่ว่า " ปลาที่ตายแล้วเท่านั้นที่ลอยตามน้ำ...ไร้คุณค่า...อยู่ไปวันๆก กินบุญเก่าแต่ลืมไปว่ากำลังสร้างกรรม...ขึ้นมาใหม่ (พวกตราช้าง) " เห็นด้วยอย่างยิ่งเห็นด้วย
อ.กฤษณา ครับ
ขออนุญาตเรียกว่าอาจารย์นะครับ ผมว่าผู้บริหารนั่นแหละครับจะได้ประโยชน์มากกว่าคนอื่นนะครับ ถ้าทำงานกันในแนวจัดการความรู้ เพราะทุกคนทำให้องค์กร ผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาลังเลอะไรกันอยู่ อันนี้ผมพูดทั่วๆไปนะครับ ไม่ได้ว่าของหน่วยงานใด และการทำไม่หลุดออกไปจากกรอบเดิมมีขึ้นได้กับทุกคนครับ ที่ไม่ใช่ผู้บริหารองค์กรก็เป็นครับ ทุกคนจึงต้องขบถต่อตนเองให้ได้เสียก่อนครับ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยียนและร่วมแลกเปลี่ยนครับ