เราๆ ท่านๆ คงทราบกันดีว่า การตัดไม้ทำลายป่าทำเงินมหาศาลให้กับรัฐบาล นักการเมือง นายทุน และผู้มีอิทธิพลหลายท่านในหลายๆ ประเทศ <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify"> เร็วๆ นี้ (6-17 พฤศจิกายน 49) มีการประชุมที่จัดโดยองค์การสหประชาชาติเรื่องอากาศเปลี่ยนแปลง (UN Climate Change) ที่เมืองไนโรบี ประเทศเคนยา </div></li></ul><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">ภาพที่ 1: แสดงกิจกรรมสำรวจนกในพม่า</p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent"></p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">ที่ประชุมมีข้อเสนอให้ประเทศอุตสาหกรรมลงขันกันจ้างประเทศเขตร้อนให้ช่วยกันรักษาป่าเขตร้อน กล่าวง่ายๆ คือ ไม่ตัดป่า อาจได้เงิน</p> <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify"> แก๊สเรือนกระจก (heat-trapping gases) ร้อยละ 20 มาจากการตัดไม้ทำลายป่า และภาวะป่าเสื่อมสภาพ </div></li></ul><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">อาจารย์อู โอน เลขาธิการสมาคมพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ (FREDA) ของพม่ากล่าวว่า ถ้าโครงการนี้ทำได้จริง… พม่าอาจได้เงินเพิ่มขึ้นถึง 25% ของรายได้ประชากรต่อปี</p> <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify"> องค์การสหประชาชาติรายงานว่า พม่าตัดไม้ทำลายป่ามากกว่า 450,000 เฮกตาร์ (hectares) ต่อปี ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 32-93 ล้านตันต่อปี </div></li></ul><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">พื้นที่ 1 เฮกตาร์มีค่าเท่ากับ 10,000 ตารางเมตร เท่ากับ 2,500 ตารางวา หรือ 6.25 ไร่</p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent"></p><ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify"> การทำลายป่า 1 เฮกตาร์ทำให้เกิดแก๊ซคาร์บอนไดออกไซด์ 80-200 ตัน ที่ประชุมจึงมีข้อเสนอว่า ประเทศที่มีป่าเขตร้อนควรได้รับค่าอนุรักษ์ป่าเขตร้อน 8-32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปีถ้ารักษาป่าได้ 1 เฮกตาร์ </div></li></ul><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">อาจารย์ท่านประมาณการณ์ว่า ถ้าพม่ารักษาป่าไม้ได้ 100% จะได้เงินสนับสนุนประมาณ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี</p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent"></p><ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify"> ถ้ารักษาป่าไม้ได้ 50% จะได้เงินสนับสนุนประมาณ 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี หรือจะมีรายได้ต่อหัวประชากร (per capita income) เพิ่มขึ้นประมาณ 25% </div></li></ul><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">อาจารย์วิลเลียม เอฟ. ลอเรนซ์ แห่งสถาบันวิจัยเขตร้อนสมิธโซเนียนในปานามาจัดตั้งเว็บไซต์ส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติ (www.mongabay.com) </p> <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify">อาจารย์ท่านประมาณว่า ถ้าข้อเสนอนี้มีผลบังคับใช้ และประเทศเขตร้อนช่วยกันรักษาป่าไม้จริง ประเทศที่ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในเอเชีย และอาฟริกา</div></li></ul><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">แผนภูมิที่ 1: แสดงประเทศที่มีโอกาสได้ค่าตอบแทนจากการรักษาป่า (คิดเป็นรายได้ประชากรต่อหัวต่อปีที่เพิ่มขึ้น) ข้อมูลจาก www.mengabay.com </p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent"></p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent">คลิกที่นี่: เพื่อชมกราฟพร้อมรายชื่อประเทศ(ภาพใหญ่) >>>>> [[[[[[ Click ]]]]] หรือที่นี่ >>>>> http://gotoknow.org/file/wullopporn/061220Forest2-L2.jpg</p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify" class="MsoBodyTextIndent"></p><ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify"> ประเทศที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากข้อเสนอนี้มากที่สุด คิดเป็นรายได้ต่อหัวประชากรต่อปีที่จะเพิ่มขึ้นคือ พม่า (25%) ซิมบับเว (19%) และกัมพูชา (18%) </div></li></ul> <ul><li><div class="MsoBodyTextIndent" style="text-justify: inter-cluster; margin: 12pt 0cm 0pt; text-indent: 0cm; text-align: justify">ถ้าทุกฝ่ายร่วมกันอนุรักษ์ป่าไม้เขตร้อน และพวกเราช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นทุกปี… น่าจะดีกับทุกฝ่ายครับ</div></li></ul> แหล่งข้อมูล: <ul>
</ul> เชิญอ่าน & ดาวน์โหลดที่นี่: <ul>
</ul>
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจมากครับ แต่น่าจะทำได้ยาก เพราะถ้าจะดูที่ผ่านมา ลำพังข้อเสนอลดการปล่อยกาซ คาร์บอนไดออกไซด์ ประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เหล่านั้น (ประเทศใหนบ้างเอ่ย :) นั่นแหละ ก็ยังไม่ยอมลดเลย
การที่จะมาจ่ายตังค์ให้ประเทศอื่นๆ (เสียประโยชน์ตนเอง) ไม่ให้ตัดไม้ แต่ผลประโยชน์ที่ได้ ได้กับทั้งโลก (ได้กับประเทศอื่นๆด้วย) ไม่ได้ประโยชน์กับประเทศตนเพียงแต่อย่างเดียว ผลที่ได้ น่าจะเหมือนกับข้อเสนอลดการปล่อย ซีโอทู น่ะแหละครับ :(
เห็นด้วยกับพี่ฉัตรชัยคะ..ขอตอบว่า อเมริกาไงคะ..ก็จากการขอร้องให้ประเทศอุตสาหกรรมช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด็ยังไม่ทำเลย ก็การลงนามสนธิสัญญาเกียวโต..ก็ยังไม่ยอมเซ็นเลย เพราะต้องเสียเงินหลายหมื่นล้านเหรียญจาการเป็นประเทศที่สร้างมลพิษสูงสุดของโลก.....แล้วเอาเงินมาหว่านให้ประเทศเขตร้อนช่วยกันรักษาต้นไม้...คิดว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่.... ลำพังประเทศเล็กๆ จะสู่ได้เหรอคะ...คนรณรงค์ก็ทำไป คนทำลายก็ยังเยอะอยู่...แต่ไม่ได้หมายความว่าปลูกต้นไม้ไม่ดีนะคะ..แต่ว่าถ้าเราลดมลพิษได้มากจากประเทศมหาอำนาจคงจะดีกว่าเป็นไหนๆ เห็นด้วยไหมคะ
ขอนำบทความที่เคยกล่าวไว้จากหนังที่ได้ดูมา จริงๆ แล้วเป็นสารคดีที่รวบรวมข้อเท็จจริงที่เหมาะสมและเป็นไปได้กับเหตุการณปัจจุบันคะ ชื่อ An Inconvenient Truth
ขอขอบคุณอาจารย์ฉัตรชัย และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
สิ่งที่เราๆ ท่านๆ ทำได้ตอนนี้คือ เริ่มต้นที่บ้านเรา ปลูกต้นไม้คนละต้นสองต้นเท่าที่ทำได้... น่าเสียดายจริงๆ
ขอขอบคุณอาจารย์จ๊ะจ๋า และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ขอขอบคุณสำหรับการทำแถบเชื่อมโยง (ลิ้งค์) ไปยังบันทึกที่น่าสนใจครับ...
ขอขอบคุณอาจารย์ขจิต และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
คุณงาม ความดีนี้... ขอน้อมแสดงความเคารพ และขอบพระคุณอาจารย์สืบ นาคะเสถียร ตลอดท่านผู้มีส่วนร่วม เช่น พนักงานรักษาป่าไม้ ฯลฯ ทุกท่าน
ขอขอบคุณครับ...