จิรอาจ สมิงชัย(36)


วันนี้ช่วงเช้าตัดต่อ ช่วงบ่ายถ่ายวีดีโอ

วันพุธที่ 20  ธันวาคม  2549

          วันนี้ช่วงเช้ามีตัดต่องานมุทิตาจิตที่พี่ทวิได้มอบหมายไว้ให้ทำครับ   ก่อนที่จะตัดต่อก็ต้องCapture ภาพจากม้วนMini DV (การCapture ก็คือการทำให้ภาพที่เราถ่ายด้วยกล้องวีดีโอแปลงให้เป็นไฟล์avi. เพื่อที่จะได้นำไปตัดต่อในลำดับต่อไป หรือถ้าCapture จากม้วนเทปจะเรียกกันว่าแปลงจากAnalog ให้เป็น Digital ครับ)  การตัดต่องงานมุทิตานั้นถ้าเกิดคนถ่ายวีดีโอถ่ายมาดี  การถ่ายดีที่ว่านี้ก็คือการลำดับเหตุการณ์ก่อนหลังครับเช่นเริ่มด้วยภาพของสถานที่จัดงานก่อนในหลายๆมุม  แล้วึงจะเข้าสู่เนื้อหาของงานครับอย่างนี้ถึงจะเรียกว่าถ่ายดีครับ  บางคนถ่ายดีเหมือนกันมุมกล้องดีหมดทุกอย่างแต่ไม่มีการลำดับเรื่องราวก็ถือว่าสักแต่ว่าถ่ายอย่างเดียวครับอย่างนี้เรียกว่าถ่ายไม่เป็นครับ(ผมไม่อยากให้หลายๆ คนเป็นแบบคนประเภทหลังที่ผมกล่าวมานะครับ)  ถ้าถ่ายเป็นลำดับเรื่องราวแล้วจะสะดวกต่อการตัดต่ออย่างมากถึงแม้ว่าผู้ตัดต่อจะไม่ใช่คนที่ถ่ายวีดีโอเองก็ตามครับ  การตัดต่อนั้นผมใช้เอฟเฟคClose Dissove เป็นหลักเลยครับ  ผมว่าเอฟเฟคนี้เป็นเอฟเฟคที่ธรรมดาแต่ว่างานออกมาแล้วดูดีครับและผมว่าเหมาะกับงานตัดต่อประเภทงานพิธีต่างๆ มากที่สุดครับ 

          นั่งตัดต่อไปได้สักพัก  ก็มีงานเข้ามาใหม่ครับนั่นก็คือพี่สัญชัยให้ผมนำแผ่นDVD ที่ทำเสร็จแล้วไปส่งที่มูลนิธิโรคไต  จากนั้นพี่สัญชัยก็ให้ไปเอากำหนดการประชุมของภาควิชาอายุรศาสตร์  เพราะว่าต้องเอากำหนดการมาทำไตเติ้ลครับตอนแรกก็คิดว่าเป็นกำหนดการของวันอื่น  แต่จริงๆ แล้วเป็นกำหนดการของวันนี้ครับ  คือว่าจะมีการประชุมในวันนี้ก็เท่ากับว่าผมต้องทำไตเติ้ลทันทีหลังจากได้รับกำหนดการครับ  เมื่อกลับมาถึงห้องตัดต่อก็ลงมือทำไตเติ้ลทันที่ครับ  มีเวลาให้ทำ 1 ชั่วโมงครับต้องทำให้เสร็จเพราะจะเริ่มประชุมตอน 13.00 น.ครับ  ถือว่างานนี้เป็นงานด่วนมากครับ  การทำไตเติ้ลนี้ดูจะคล่องมากครับเพราะว่าช่วง 1 เดือนแรกที่ฝึกงาน งานของผมจะหนักไปทางทำไตเติ้ลเป็นหลักครับ  ก็เรียกได้ว่ามีประสบการณ์มากพอสมควรแล้วครับ  ทำให้การทำไตเติ้ลเสร็จในเวลาที่กำหนดครับ  พอทำไตเติ้ลเสร็จก็นำไตเติ้ลที่ทำนั้นลงแผ่นDVD และนำกลับไปส่งให้พี่สัญชัยทันทีครับ จากนั้นก็ได้ลงไปทานข้าวกลางวันครับ

          ช่วงบ่ายนั้นมีเวลาให้กลับมานั่งตัดต่องานมุฑิตาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง  ก็ต้องลงไปถ่ายวีดีโอกับพี่ศิริพงษ์ที่ตึกอดุลยเดชวิกรมต่อครับ  การถ่ายเป็นการถ่ายบรรยายประกอบสไลด์เหมือนเดิมครับ  กล้องจะจับภาพที่หน้าจอโปรเจคเตอร์เป็นหลักครับ  เมื่อถ่ายวีดีโอเสร็จก็เดินทางกลับมาที่หน่วยโทรทัศน์เวลาก็ 16.30 น. พอดีครับนั่งเล่นแป๊ปนึงก็เดินทางกลับบ้านครับ

          ประสบการณ์ในวันนี้ที่ได้คืองานจะมาเมื่อไหร่เราไม่รู้ครับ  ก็คือว่าเราต้องคอยอยู่ประจำที่หน่วยไว้ตลอดเวลาถึงแม้ไม่มีงานก็ต้องอยู่ครับห้ามไปไหนเด็ดขาด  และเมื่อมีงานด่วนเข้ามาเราต้องหยุดงานอื่นไว้เลยครับแล้วทำงานนั้นให้เสร็จทันเวลาที่พี่เค้าต้องการ  และเราก็จะเป็นที่รักและได้รับความไว้วางใจจากคนในหน่วยงานครับ

                                                    จิรอาจ  สมิงชัย

หมายเลขบันทึก: 68301เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2006 08:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท