การเสวนาภาคีเครือข่ายการจัดการความรู้ในมหาวิทยาลัย (UKM) ในงานมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติครั้งที่ เป็นภาคีเครือข่ายที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการจัดการความรู้ การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ระหว่างสถาบันอุดมศึกษา เพื่อพัฒนาให้เป็นสถาบันการศึกษาแห่งการเรียนรู้
สวัสดีครับ พี่น้องชาว GotoKnow จากผลการดำเนินงานการจัดมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติครั้งที่3 ที่ผ่านมานั้น UKM Forum นับว่าประสบผลสำเร็จด้วยดี ผมในฐานะคุณลิขิตมือใหม่ จึงใคร่นำเสนอเพื่อร่วมเรียนรู้ด้วยกันครับ วันนี้เป็นตอนที่ 3
มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้อะไรจากการเป็นสมาชิกเครือข่าย UKM
3.4 มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำเสนอโดย รศ.รังสรรค์ เนียมสนิท รองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เริ่มนำ KM เข้าไปใช้ในการพัฒนางานเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2547 โดยท่านอาจารย์จิตเจริญ ได้เริ่มขายแนวคิดให้กับทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัย และทีมผู้บริหารเห็นดีด้วยจึงได้มอบหมายให้ รศ.รังสรรค์ เป็น CKO ในการขับเคลื่อน KM ในมหาวิทยาลัย สำหรับประโยชน์ที่ได้จากการเป็นเครือข่ายของ UKM คือ
1) ได้เพื่อน โดยส่วนตัวแต่ละมหาวิทยาลัยนั้นเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว และหลังจากที่มาเป็นภาคี UKM ทำให้ได้เพื่อนร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการทำงานที่ดี
2) ได้ความรู้ สำหรับในด้านของการจัดการความรู้ (KM) นั้น เป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์ จึงเป็นเครื่องมือ (Tools) ที่ดีในการที่จะนำไปพัฒนาคน และองค์กรได้อย่างดี
3) ได้งาน สามารถเอาไปเพิ่มคุณค่าของงาน เพิ่มคุณค่าของบุคลากร โดยที่มหาวิทยาลัยจะให้ความสำคัญที่คนมาก เพราะคนเป็นกลไกลที่สำคัญในการทำงานสำหรับบุคลากรของหาวิทยาลัยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 43 ปี โครงสร้างของเงินเดือนเพิ่มขึ้น ปีละสองครั้ง และยังมีโบนัสอีกเมื่อสิ้นปี นอกจากนั้นยังมีระบบสองขั้น จึงมีคำถามว่าแล้วบุคลากร อาจารย์ มีคุณค่าสูงขึ้นตามหรือไม่ ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงพยายามที่จะทำทุกวิถีทางในการที่จะเพิ่มคุณค่าของบุคลากรให้สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงนำ KM เข้ามาในการพัฒนางาน โดยมีเทคนิคในการทำงานคือ
3.1) การกำหนดเป้าหมายในการทำ KM ต้องชัดเจน
3.2) การเริ่มกระบวนการจะเริ่มจากจุดที่เล็กๆ ก่อนเพื่อดูความสำเร็จขององค์กร แล้วค่อยๆ ขยาย เป็นวงกว้างออกไป อีกทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยงาน ระหว่างภาคีเครือข่าย แล้วนำผลสำเร็จของชุมชนต้นแบบเป็นแนวทางในการทำงานต่อไป
3.3) การทำจะทำให้ KM เนียนอยู่ในเนื้องาน KM Inside ให้ดูเหมือนว่าการทำ KM ไม่ได้ให้เป็นภาระงาน
3.4) ใช้เครื่องมือให้หลากหลาย ในกระบวนการขับเคลื่อน KM นั้นต้องมีเครื่องมือที่หลากหลาย และมีความยืดหยุ่นสูง รวมทั้งการใช้ Blog ที่เป็นเครื่องมือของตะวันตก และเราก็สามารถเลือกใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยขอนแก่นยังให้ความสำคัญอยู่ที่คน ต้องเข้าใจความเชื่อในคุณค่าของคน เนื่องจากคนเป็นกำลังหลักในการพัฒนา ดังนั้นจะต้องปรับความเข้าใจของคน และพัฒนาคน โดยใช้กระบวนการ KM เพื่อจะได้พัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ยากเกินไปเพราะเรามีเครือข่ายค่อนข้างมากทั้งหน่วยงานในมหาวิทยาลัย และภาคีเครือข่ายระหว่างมหาวิทยาลัยที่มีแบบอย่างแห่งความสำเร็จที่หลากหลายน่าจะเป็นแบบอย่างในการทำงานด้านการพัฒนาได้อย่างดี
ขอบคุณครับ
อุทัย อันพิมพ์
15 ธันวาคม 2549