วันที่ ๑๒ ธ.ค. ๔๙ สภามหาวิทยาลัยมหิดลไปเยี่ยมชื่นชม ๕ หน่วยงาน ได้แก่ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ สำนักสัตว์ทดลองแห่งชาติ และสถาบันวิจัยประชากรและสังคม
คณะสังคมฯ ประกอบด้วย ๓ ศาสตร์ คือ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ ตั้งเป็นคณะมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๑ ให้มีลักษณะจำเพาะ คือ เป็นศาสตร์เชิงประยุกต์ ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าสวนกระแสและมีคนไม่เห็นด้วยมาก แต่เวลานี้พิสูจน์แล้วว่ากลายเป็นข้อได้เปรียบในการทำงานสร้างสรรค์เชิงวิชาการ
คณบดีคณะสังคมฯ รศ.ดร.สุรีย์ กาญจนวงศ์ บอกว่าแปลกใจที่ผลการจัดอันดับของ สกอ. คณะฯ ได้อันดับ 2 ทั้งด้านการสอนและด้านการวิจัย สำหรับสาขาสังคมศาสตร์ ไม่เคยคิดว่าจะเด่นถึงขนาดนั้น ท่านไม่ได้นำเสนอลึกลงไปในสาระหรือเนื้อวิชาการที่คณาจารย์ในคณะฯ มีความเด่น แต่ผมเองนับถือทีมด้านศึกษาศาสตร์ที่นำโดย รศ.ดร.เนาวรัตน์ พลายน้อยมาก สคส. เรามอบให้ทีมนี้จัดทำ proceedings ของมหกรรมจัดการความรู้แห่งชาติครั้งที่ ๒ เมื่อปี ๒๕๔๘ และติดใจฝีมือ จึงมอบให้ทำของมหกรรมฯ ครั้งที่ ๓ ในปีนี้ด้วย
ผมทราบว่า รศ.ดร.วริยา ชินวรรโณ จับงานวิจัยด้านจริยธรรมในวิชาชีพอย่างจริงจังต่อเนื่อง เป็นที่น่าชื่นชม แต่ไม่ได้มีการนำเสนอ
คณะศิลปศาสตร์ เป็นคณะใหม่ มีจุดเน้นด้านภาษา เพื่อประโยชน์ในการที่สังคมเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ เป็นคณะสัตวแพทยศาสตร์น้องใหม่ที่สุดของประเทศ มีจุดเน้นที่แตกต่าง คือ การดูแลสัตว์ป่า ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเกิดปัญหาโรคไข้หวัดนกระบาด จึงฉีกแนวไปทำวิจัยเฝ้าระวังหาเชื้อไวรัสหวัดนกในนกป่าร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ ทำให้เกิดความใกล้ชิดและเชื่อถือกัน นำไปสู่การของบประมาณแผ่นดินติดตั้งห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อไวรัสระดับ P3
คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ รศ.นสพ.ปานเทพ รัตนากร ผู้มีเสียงหัวเราะที่ปลุกเร้าความสุข ได้ชี้ให้เห็นความสำคัญของการมี "พันธมิตร" ในการทำงานวิชาการ และยุทธศาสตร์การใช้พันธมิตรเป็นแหล่งสร้างชื่อเสียงและเป็นลู่ทางสู่ทรัพยากร
สำนักสัตว์ทดลองแห่งชาติ ได้ก้าวหน้าจากการให้บริการสัตว์ทดลองธรรมดาไปสู่สัตว์ทดลองที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ได้คุณภาพสายพันธุ์ และคุณภาพสุขภาพ ตามมาตรฐานสากล เป็นการให้บริการแก่ 200 หน่วยงาน ทั่วประเทศในภาครัฐ & เอกชน
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม เป็นสถาบันวิจัยด้านประชากรหนึ่งในสองแห่งของประเทศ อีกแห่งหนึ่ง คือ วิทยาลัยประชากรศาสตร์ ของจุฬาฯ ทำงานวิชาการด้านประชากร มีคุณภาพเด่นมากทั้งคู่ แต่ของ ม.มหิดล ชื่อต่อท้ายด้วย "สังคม" และโปรแกรมทำนายแนวโน้มเชิงประชากรเขียนขึ้นเอง จึงสามารถดัดแปลงเพื่อตอบโจทย์ตามที่ต้องการได้ดี สถาบันฯ ได้อันดับ 1 ด้านการวิจัยสาขาสังคมศาสตร์ จากการจัดอันดับของ สกอ. และได้รับทุน คปก. ของ สกว. สูงสุดในสาขาสังคมศาสตร์เช่นเดียวกัน
ที่จริงถ้าเจาะลึกลงไปพูดเรื่องความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจก็จะพูดกันได้มาก แต่วงเสวนาวันนี้ถูกจูงใจไปพูดเรื่อง "คนไร้สัญชาติ" ว่า บางคณะ/หน่วยงาน ในมหาวิทยาลัยมหิดลไม่ได้รับความเอาใจใส่จากผู้บริหาร เป็นคล้ายคนไร้สัญชาติ แสดงว่ามีความน้อยเนื้อต่ำใจในความไม่เท่าเทียมกัน ไม่เห็นความสำคัญ
แต่ รศ.นสพ.ปานเทพ รัตนากร ก็ได้ช่วยชี้ให้เห็นว่า หน่วยงานที่ไม่ดัง ต้องอาศัยพันธมิตรที่ดัง ช่วยทำให้ได้รับความเอาใจใส่ทั้งจากผู้บริหารและจากสังคมทั่วไป
วันนี้ผมได้เรียนรู้ "ยุทธศาสตร์พันธมิตร"
วิจารณ์ พานิช
๑๓ ธ.ค. ๔๙
1. บรรยากาศในห้องเสวนาชื่นชม
2. อีกมุมหนึ่งของห้องเสวนา
ไม่มีความเห็น