รวยกระจุก จนกระจาย
แผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ -๒๕๘๐) ระบุเป้าหมายว่า เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์“มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ....” ซึ่งผมตีความว่าเพื่อประเทศไทยพัฒนาเป็นประเทศรายได้สูง สังคมดี
รัฐบาลปล่อยเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ระลอกแล้วระลอกเล่า แต่ทำไมคนระดับรากหญ้าบ่นกันเหลือเกินว่าชีวิตของเขายากลำบากขึ้น เศรษฐกิจไม่ดี
ผมไม่มีความรู้เรื่องระบบเศรษฐกิจ แต่สงสัยว่าระบบที่เราใช้อยู่ในประเทศไทยเป็นระบบที่เอื้อคนรวย รีดคนจน จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า ในการทำธุรกิจระบบเอื้อให้คนรวยแข่งกับคนจนอย่างไม่มีแต้มต่อ คนรวยจึงเอาไปกินหมด อย่างกรณีธุรกิจขายปลีก
จึงขอตั้งข้อสังเกตไว้ ว่าน่าจะมีการวิจัยระบบเศรษฐกิจไทย ว่าเป็นระบบกระจายความมั่งคั่ง หรือกระจุก สถาบันวิจัยที่น่าจะดำเนินการเรื่องนี้ คือสถาบันนโยบายสาธารณะและการพัฒนา ซึ่งเป็นสถาบันภายใต้สภาพัฒน์ฯ หลักฐานแจ้งชัดว่าระบบของเราเป็นระบบกระจุกความมั่งคั่งคือประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความไม่เท่าเทียมกันหรือมีช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนสูงที่สุดในโลก
ผมได้อ่านหนังสือ ที่วิจัยภาพใหญ่ของประเทศ และของโลก ที่บอกว่า เมื่อไรความมั่งคั่งกระจุก(concentrationof wealth) กลียุคจะตามมา และไม่อยากให้สังคมไทยเดินสู่สภาพนั้น
จึงควรมีการวิจัยลงลึกเพื่อทำความเข้าใจจุดอ่อนเชิงระบบของเศรษฐกิจไทย ว่าด้วยกลไกกระจายความมั่งคั่ง สำหรับออกแบบ และพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่เอื้อต่อสภาพเศรษฐกิจที่กระจายความมั่งคั่งเพื่อ “ความยั่งยืน” ทางสังคม
ผมทำนายว่าหากเราใช้ระบบเศรษฐกิจ อย่างในปัจจุบัน จะนำไปสู่กลียุคในระยะยาว คนจนจะลุกฮือ
วิจารณ์ พานิช
๒๒ ม.ค. ๖๓
ไม่มีความเห็น