วัฒนไทย...


เพราะเราเชื่อว่า"สถาบันครอบครัว"เป็นสถาบันแรกที่จะช่วยหล่อหลอมและส่งต่อ"วิชาชีวิต"ต่างๆ ให้กับเด็กๆ อย่างเต็มที่ ดังนั้นเราจึงพร้อมที่จะแบ่งปันพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ให้เป็นห้องเรียนสำหรับเพิ่มประสบการณ์ชีวิตให้กับผู้ที่ก้าวเข้ามาเรียนรู้กับเราแบบ"วัฒนไทย"ครับ....บ้านฉันก็บ้านเธอ Hi Hug House Farm School......

                                                   -"ถอดรหัสความเป็นไทย" พร้อมกับเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ กันไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับเด็กๆ ที่มาร่วมทำกิจกรรม ณ บ้านไร่ ของเราเมื่อวันหยุดที่ผ่านมาครับ และเพื่อเป็นการส่งต่อ"ความสุข"และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น วันนี้ขอเปิดหน้าสมุดออนไลน์มาบันทึกความทรงจำดี ดี กันสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ..ว่าแต่จะมีอะไรน่าสนใจและน่าตื่นเต้นสำหรับเด็กๆ บ้างนั้น พร้อมแล้วตามไปชมพร้อมๆ กันได้เลยคร้าบ!!!!

  1. ได้รับการประสานงานจาก"แม่นก"เมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะพาเด็กๆ มาทำกิจกรรมที่บ้านไร่ของเราครับ และหลังจากได้กำหนดวันพร้อมกับวางแผนกิจกรรมต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เราก็เตรียมพร้อมต้อนรับเด็กๆ ในเช้าของวันเสาร์(14/12/62)นี้ครับ

2.ยินดีต้อนรับแขกคนแรกของเราวันนี้ ก็คือ"เจ้าแสน"ครับ ซึ่ง"เจ้าแสน"ถือเป็นแขกขาประจำของบ้านไร่ ที่มาสัมผัสวิถีแบบพื้นบ้านแบบนี้บ่อยๆ และวันนี้"แม่โน๊ต"บอกกับเราว่าคนที่จะมาทำกิจกรรม ณ บ้านไร่ ของเราเป็นเพื่อนกัน ดังนั้นจึงพา"เจ้าแสน"มาทำกิจกรรมด้วย เอาเป็นว่ามาถึงก่อนใครๆ ก็ปล่อยให้"เจ้าแสน"เพลินกับวิถีแบบไทยๆ กันไปก่อนก็แล้วกันนะคร้าบ!!!!!

3.เมื่อได้เวลาเราก็ได้ต้อนรับ"น้องลิตา/น้องดาริน/น้องอันนา/น้องพีท"และเราก็ชวนเด็กๆ ไปเริ่มเรียนรู้"วิชาชีวิต"วิชาแรกกันทันทีครับ"พิซซ่าเตาถ่าน"ก็ยังถือเป็นกิจกรรมแรกที่เราใช้ต้อนรับเด็กๆ อีกเช่นเคยครับ...

4.ใช้เวลาในการทำพิซซ่าพักใหญ่ๆ เราก็ชวนเด็กๆ ไปเรียนรู้"วิชาการทำไข่เค็มศิลา"กันต่อครับ สำหรับกิจกรรมนี้ เด็กๆ จะได้สัมผัสกับ"ดินเหนียวนุ่มๆ"พร้อมกับเรียนรู้การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมาเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรด้วยการ"ถนอมอาหาร"ครับ ที่สำคัญเด็กๆ จะได้นำเอา"ไข่เค็ม"กลับบ้านไปลิ้มลองตามวันที่กำหนดอีกด้วย กิจกรรมนี้ปั้นดินกันเพลินเลยครับ...

5.หลังจาก"ปั้นไข่เค็มศิลา"กันเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ได้เวลาที่เด็กๆ จะได้ลิ้มลอง"พิซซ่าเตาถ่าน"ฝีมือของตัวเองแล้วล่ะครับ และเพิ่มพลังก่อนที่จะออกไปสัมผัสประสบการณ์ชีวิตนอกสถานที่กันต่อกับกิจกรรม"อีต๊อกพาทัวร์"ครับ..สำหรับจะอร่อยถูกใจเด็กๆ รึเปล่านั้น คงต้องขอฟ้องด้วยภาพก็แล้วกันนะครับ555

6.เมื่ออิ่มท้องแล้ว ต่อไปก็ชวนเด็กๆ ไปนั่งรถอีต๊อกออกไปสัมผัสประสบการณ์ชีวิตแบบพื้นถิ่นกันดีกว่าครับ สำหรับวันนี้เส้นทางที่เราพาเด็กๆ ไปชมโครงการ"แก้มลิง"ที่ตอนนี้ก็ดำเนินการจนใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้ได้ชมบรรยากาศต่างๆ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้แหล่งน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ก็จะใช้เป็นแหล่งน้ำสำรองและแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมทั้งใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอพรานกระต่ายต่อไปครับ...

7.ใช้เวลากับกิจกรรม"อีต๊อกพาทัวร์"ประมาณ 45 นาที เด็กๆก็เดินทางกลับมาถึงบ้านไร่แล้วล่ะครับ และเมื่อมาถึงแล้วอากาศค่อนข้างจะร้อนขึ้นมาสักหน่อย ซึ่งก็เหมาะกับกิจกรรมที่เด็กๆ จะได้ลงเล่นน้ำ/ลุยโคลน กันอย่างเต็มที่ครับ กิจกรรมทางน้ำแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นเด็กๆ กลุ่มไหนก็จะไม่พลาดที่จะลงไปสัมผัสครับ และวันนี้มีคุณแม่คอยดูแลเด็กๆ และชวนเด็กๆ เล่นน้ำอย่างสนุกสนานครับ...เล่นกันจนเหนื่อยแล้วก็ได้เวลาที่จะพาเด็ก ๆ ไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมรับประทานอาหารกลางวันแล้วล่ะครับ...

8.และวันนี้เราได้จัดเมนูอาหารแบบสดๆ จากสวนเอาไว้ให้ด้วย ดังนั้นจึงชวน"หนุ่มน้อย"ไปเก็บผักกันก่อน "กะหล่ำปลี"คือผักสวนครัวที่จะใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารในมื้อกลางวันนี้ครับ และนี่ก็คือผลผลิตแบบ From Farm to table คร้าบ!!!!

9.ได้เวลาพักรับประทานอาหารกันแล้วล่ะครับ กิจกรรมต่างๆ ที่ได้เรียนรู้ค่อนข้างจะได้พลังงานมากไปสักหน่อย ดังนั้นมื้อกลางวันนี้จึงรับประทานกันอย่างเต็มอิ่ม ณ ร่มไผ่ ครับ สำหรับเมนูต่างๆ ที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัตถุดิบที่ได้จากสวนของเราเอง และ"แม่นก"ก็ได้เลือกและสรุปเมนูพร้อมกับให้เราได้จัดเตรียมเอาไว้ต้อนรับครับ...

10.อิ่มท้องกันเรียบร้อยแล้ว ในช่วงบ่ายๆ ก็ชวนเด็กๆ เข้าสวนไปเก็บดอกไม้สีต่างๆ มาทำ"กระเป๋าผ้ารักษ์โลก"กันต่อครับ สำหรับกิจกรรมนี้เด็ก ๆ จะได้ออกไปเก็บดอกไม้และเรียนรู้เรื่องการใช้สีจากธรรมชาติ และสามารถแสดงออกความถนัดด้านศิลปะอย่างเต็มที่ โดยมีผู้ปกครองคอยดูแลและช่วยเหลือเด็กๆ ครับ ใช้เวลากับกิจกรรมนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็ได้ชื่นชมผลงานจากฝีมือของเด็กๆ อย่างน่าประทับใจคร้าบ!!!!

11.และนี่ก็คือ กิจกรรม"ถอดรหัสความเป็นไทย"ที่ได้ก่อเกิดขึ้นบนพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ครับ เวลาของการเรียนรู้อาจจะไม่มากนัก หากแต่เชื่อว่าสิ่งต่างๆ ที่เด็ก ๆ ได้สัมผัสคงจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ให้กับเด็กๆ อย่างเต็มอิ่ม และหวังว่าหากมีโอกาสบ้านไร่ของเราคงได้มีโอกาสต้อนรับการกลับมาเรียนรู้และเพิ่มทักษะชีวิตกับครอบครัวเล็กๆ ของเราอีกครั้งหนึ่งนะครับ...

                                          สำหรับวันนี้ "โชคดีที่ได้พบกัน"และ"มิตรภาพสวยงามเสมอ"ครับ...

                                                                             สวัสดีครับ

                                                                             เพชรน้ำหนึ่ง+มดตะนอย

                                                                               Hi Hug House

                                                                              16/12/62



ความเห็น (4)

ผมมีความคิดว่า เราต้องสร้างโรงเรียนพิเศษเสริมทักษะชีวิตแบบนี้ให้มีทุก ๆ เมืองเลยครับ ตอนนี้มีแต่ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ สอนดนตรี สอนเทควันโด้ สอนยูโด สอนเทนนิส สอนว่ายน้ำ ….ฯลฯ ไม่มีเลยที่จะสอน ทักษะชีวิตและธรรมชาติแบบนี้ …… ผมฝันว่า ถึงเวลาวันเสา พ่อแม่ต่างเอาลูกหลานมาส่ง ลงทะเบียนแล้วกลับไป ปล่อยเด็ก ๆ ไว้ให้เล่น โรงเรียนสอนทักษะชีวิต ถึงเวลา พ่อแม่ก็มารับกลับ …..

-สวัสดีครับอาจารย์ต๋อย-เป็นกิจกรรมที่ได้ก่อเกิดบนพื้นที่เล็กๆ ครับ-ผมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันครับ..-หากมีโอกาสบ้านไร่คงจะพัฒนาไปอย่างที่ฝันไว้ครับ-ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมและให้กำลังใจเด็กๆ ด้วยนะครับ

การที่เด็กๆ มีพื้นที่เรียนรู้เช่นนี้ ไม่ต่างจากในวันหยุด แล้วเด็กๆ มีสวนหย่อมกลางใจเมืองให้ได้เดินเล่น นอนเล่น ปราศจากมลภาวะ หรือการไถลเข้าห้างสรรพสินค้า

ชื่นชมครับ

-สวัสดีครับอาจารย์แผ่นดิน-บนพื้นที่ไม่มากนักหากแต่ตั้งใจที่จะแบ่งปันให้เด็กๆ มาทำกิจกรรมแบบเรียนรู้”วิชาชีวิต”ครับ-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ด้วยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท