“อนาคตการศึกษาของโลก” ในงาน “Forum for World Education” จัดโดย OECD ที่กรุงปารีส โดย แจ็คหม่า


“อนาคตการศึกษาของโลก” ในงาน “Forum for World Education” จัดโดย OECD ที่กรุงปารีส โดย แจ็คหม่า

..

สรุป “5 แนวทางปฏิรูปการศึกษา”

..

1.”Everybody" should be like a "Child”

"ทุกคน" ควรที่จะเป็นเหมือน “เด็ก" ที่เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ในยุคใหม่งานเดิม ๆ ของคนเคยทำกันมาจะหายไป 15-20 % และจะเกิดงานใหม่ที่เราคาดไม่ถึง อย่าหยุดการเรียนรู้ไว้แค่ที่มหาวิทยาลัย จงเรียนรู้โลกนี้ไปเรื่อย ๆ เพราะ "Society is The Best University”

..

2.”Every School" should be like a “Zoo"

"ทุกโรงเรียน" ควรเป็นเหมือน “สวนสัตว์” ที่รวมสัตว์หลากหลายชนืดไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนและเคารพความแตกต่าง เช่นเดียวกับในบริษัทไม่ต้องการให้เป็นแค่ฟาร์มที่มีแค่ไก่หรือเป็ด แต่เราต้องมีสัตว์ทุกชนิดในบริษัท ในโลกตอนนี้คนต้องแตกต่างกัน ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ในสิ่งที่เขาต้องการและดีที่สุดในแบบของตัวเอง “Be The Best of Yourself”

..

3."KPI" should be not only a “Test”

“การวัดผล” ต้องไม่ได้มีแค่ “การสอบ” เพราะตอนนี้เด็กส่วนมากไม่รู้เหตุผลการเรียน? ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร? อนาคตจะทำอะไร? รู้แค่ว่าต้องเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ เพื่อเป็นเครื่องการันตีว่าจะมีงานที่มั่นคง แต่แจ็คหม่าบอกเลยว่าไม่จริง! แจ็คหม่าต้องเทรนคนใหม่เกือบทั้งหมดในอาลีบาบา เขาจ้างคนที่จบ Harvard, MIT ไม่ใช่เพราะชื่อมหาวิทยาลัย แต่เป็นเพราะความพร้อมที่จะเรียนรู้ เปลี่ยนแปลง สร้างสรรค์ให้กับโลกใบนี้

..

..

4.”Teacher” should be “Respected”

“ครู” เป็นอาชีพที่ควรได้รับ “การเคารพ” และควรมีรายได้ที่สูง เมื่อเราทุกคนเคารพครู ครูก็จะเคารพอาชีพของตน และเคารพนักเรียน แจ็คหม่าบอกว่าการที่จะแก้ไขปัญหาการศึกษาในชนบทต้องเริ่มต้นที่ครูเป็นสำคัญ เพราะครูหนึ่งคน สามารถที่จะสร้างนักเรียนที่ดีได้อีกหลายร้อยคน ถ้าคนเก่งคนดีไม่อยากเป็นครูการศึกษาจะพัฒนาได้อย่างไร

..

..

5.”Student" should have “LQ” (Q of Love)

แจ็คหม่าบอกว่าถ้าเราต้องการที่จะประสบความสำเร็จ คุณต้องมี EQ ที่สูง เพื่อที่จะดึงดูดคนให้มาสนับสนุนคุณ ถ้าไม่อยากแพ้คนอื่นคุณต้องมี IQ ที่สูง แต่ถ้าคุณอยากให้คน “เคารพ” คุณต้องมี “LQ” (Q of Love) ซึ่งมาจากหัวใจไม่ใช่สมอง หุ่นยนต์อาจจะทดแทนสมองคุณได้ แต่มันไม่สามารถทดแทน "หัวใจ” คุณได้ ซึ่งเป็นจุดกำเนิด “ปัญญา” ของมนุษย์

..

..

ความแตกต่างของการศึกษา ใน “อดีต" และ "อนาคต” ไว้ดังนี้

อดีต : ครูเป็นคนให้ความรู้นักเรียน
อนาคต : ครูและนักเรียนต้องช่วยกันเรียนรู้

.
อดีต : ครูมีความรู้เยอะกว่านักเรียน
อนาคต : นักเรียนอาจจะมีความรู้มากกว่าครู

.
อดีต : สอนนักเรียนว่า “ตอบที่ถูกคืออะไร"
อนาคต : จะไม่มีคำตอบ ไม่มีใครรู้ "ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกัน”

.
อดีต : การเรียนรู้เกิดขึ้นใน “ห้องเรียน"
อนาคต : การเรียนรู้เกิดขึ้นใน “โลกความเป็นจริง”

.
อดีต : สอนการแก้ปัญหาในอดีต และปัจจุบัน
อนาคต : สอนให้แก้ปัญหาของอนาคต


แจ็คหม่า กล่าวทิ้งท้ายว่า

“งานแรกของผมคือการเป็นครู และงานสุดท้ายผมหวังว่าจะได้ร่วมงานกับคุณ ในการพัฒนาการศึกษา ผมเป็นมือใหม่ที่พร้อมเรียนรู้กับคุณ โต้เถียงกับคุณ และเราจะช่วยกันหา Final Solutions for The Future ไปพร้อม ๆ กัน”

หวังว่าการสรุปในครั้งนี้จะช่วยพัฒนาการศึกษาไทยให้ดีขึ้นนะ

........................................................................

บันทึกไว้สำหรับการทบทวนการศึกษาในศตวรรษใหม่

........................................................................

แหล่งอ้างอิง

https://www.blockdit.com/artic...

ภาพจาก mrgonline.com

หมายเลขบันทึก: 673761เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2019 22:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม 2019 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท