ยอมเป็นหนี้เพื่อสร้างภาพ


ทุกครั้งที่ผมได้ไปอบรมนักส่งเสริมการเกษตร ผมรู้สึกดี เพราะอาชีพนี้ คล้ายกับสิ่งที่พ่อหลวงท่านทำในอดีต คือช่วยเกษตรกร ค้นคว้าหาทางทำให้การเพาะปลูก และเลี้ยงสัตว์ ให้ได้ผลดี ผมได้คุยกับนักส่งเสริมท่านหนึ่งค่อนข้างมีอายุแล้ว ใกล้เกษียญ คุยแล้วสะดุดใจมากครับ

"พ่อผมเป็นเกษตรกร ไม่ได้เรียนหนังสือ ท่านก็ใช้ชีวิตได้ดี ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีหนี้สิน ผมเองเรียนหนังสือ มาทำงานที่ดูดี แต่สุดท้ายมีแต่หนี้ !! "  ฟังแล้วรู้สึกเหมือนผมไหม เกิดอะไรขึ้นกับเมืองไทยที่กล่าวว่า "อดีตเคยรุ่งเรือง อดีตเคยเป็นแผ่นดินทอง สุวรรณภูมิ" 

ผมคิดถึง 2 เรื่องนะ เรื่องแรก การศึกษา สอนอะไรเราบ้าง คิดดีๆ นะครับ มีแต่วิชาทำมาหากิน คือเรียนเพื่อจะเอาใบประกาศไปสมัครงาน  แต่ไม่มีวิชาชีวิตเลย ไม่มีวิชาที่บอกว่าเราควรใช้ชีวิตยังไง ไม่มีวิชาสอนให้คิด ว่าควรใช้เหตุผลในการดำรงชีวิตอย่างไร เด็กทุกคนมุ่งจะสอบให้ได้เกรดสูงๆ เกรดที่บอกอะไรเราไม่ได้เลยว่า ชีวิตเราจะมีความสุขหรือไม่ การศึกษาไม่เคยพูดถึงความสุขเลย ตกลงเราเรียนไปเพื่ออะไรครับ...

เรื่องที่ 2 การเกษตรบ้านเราเป็นอะไรไป เมืองไทยคือแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก ผมพูดไม่ผิดหรอกครับ ไม่มีที่ไหนที่ดินน้ำฟ้าอากาศอุดมสมบูรณ์ เท่าละแวกเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้อีกแล้ว ผลผลิตการเกษตรของเราถ้าเอาไปวิจัยก็พบสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดในโลก มันควรจะเป็นสินค้าที่มีค่าดั่งทอง แต่เกิดอะไรขึ้นกับเกษตรกรไทย ยิ่งทำยิ่งจน ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้ ส่งลูกเรียนก็กลายเป็นดั่งข้อหนึ่งไปอีก

ผมเคยถามนักวิชากการเกษตร และนักส่งเสริมการเกษตรนะครับว่า เกษตรไทยปลูกไม่เก่งหรือขายไม่เก่ง?  ที่สำคัญกว่านั้นคือ ไม่มีใครสอนให้เขาคิด ผมเคยไปคุยกับเกษตร เขาบอกว่าปีนี้ขายไม่ดีเลยราคาตก เงินไม่พอใช้ ผมถามเขาว่ามีกี่ไร่ เขาบอกว่ามี 30 ไร่ โห ตั้ง 30 ผมถามว่าทำไมไม่ปลูกกินเอง ถ้าปลูกกินเองเหลือเผือ มีกินท้องอิ่มแล้วต้องใช้เงินไหม ถ้าต้องใช้ ปลูกเหลือแล้วค่อยไปขาย ไม่ดีกว่าหรือ .... บอกขนาดนี้ เขาก็คิดไม่ออกอีก เห็นไหมครับ เศรษฐกิจพอเพียงที่พ่อหลวงสอนไว้มากมาย กลับไม่ค่อยมีใครเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ และไอ้นายทุนก็พยายามกดหัวเอาไว้ เพื่อจะได้ทำนาบนหลังคนต่อไป คุณคิดนะ กล้วยขายในห้างลูกละเท่าไหร่...  9 บาท ขอโทษนะ ถ้าไปซื้อที่สวน 9 บาทเกษตรกรยกให้ทั้งหวีเลย แถมยิ้มให้ด้วย... นี่มันเอากำไรเป็น 10 เท่าเลย เห็นยังครับ

ทั้ง 2 เรื่อง มันเสียหายที่ ค่านิยมครับ ผมบอกเลย ค่านิยมคนไทยถูกปั่นหัวให้เชื่อว่าจะต้องเรียนสูงๆ จะต้องมีหน้ามีตาใช้ของดีๆ มีแบรนด์ อวดร่ำอวดรวยกัน ยอมเป็นหนี้เพื่อสร้างภาพ โดยขาดสามัญสำนึกว่า เฮ้ย ชีวิตก็ต้องการแค่ปัจจัย 4 และความสุข ซึ่งหลายๆ อย่างไม่ต้องเอาเงินไปซื้อก็ได้ สุดท้ายก็มีแต่ความว่างเปล่า ดูดีแต่กินไม่ได้ โถ สงสารตัวเองไหม... คนบ้านนอก เค้ามีอะไรก็แบ่งกันกิน ทำอาหารก็เอาไปให้ข้างบ้าน เจ็บป่วยก็ช่วยดูแลกันในหมู่บ้าน เราไปดูถูกว่าบ้านนอกๆ  ระวังเหอะคนบ้านนอกจะมาดูถูกความโง่เขลาเห็นแก่ตัวของเราคนเมืองบ้างจะหน้าซีด

ค่านิยมอีกเรื่อง เห็นได้จากที่เรามาวิจารณ์อย่างรุนแรงไม่มียั้งไอ้เรื่องการเมืองนี่ล่ะ ไม่จบไม่สิ้น กี่ปี ก็วิจารณ์กันไม่หยุด แล้วอะไรดีขึ้นบ้าง ?  เพราะเราเอาชีวิตความหวังไปฝากไว้กับผู้นำเหมือนกบเลือกนายไง ผมถามนะครับว่าทำไมไม่ทำชีวิตเราให้ดีที่สุดก่อน อย่างน้อยๆ ก็เลิกบ่น เลิกด่า เลิกทำสิ่งที่ไม่มีประโยชน์  ตั้งใจทำมาหากิน และใช้ชีวิตให้ดี ให้สมดุลย์ อย่าให้เครียด อย่าให้น้อยไป อย่าให้มากไป  สมัยนี้ไม่ต้องพึ่งผู้นำสักเท่าไหร่แล้ว เรามีออนไลน์ ทำมาหากินบนนั้นได้อย่างอิสระ หมดยุคที่ต้องรอรัฐบาลมาโปรด มีขาก็ยืนบนขาตัวเอง มีมือถือก็หาทางหาเงินเข้าซิ   แล้วอย่ารีบสร้างหนี้ล่ะ หนี้ครัวเรือนบา่นตะไทแล้ว ไม่อยากพูดถึงตัวเลขเลย ใบ้ให้ว่าสูงกว่า 10 ปีก่อนถึง 2 เท่ากว่า คนไทยไม่กล้วหนี้ครับ กลัวเสียหน้ามากกว่า ฟองสบู่แตกอีกเมื่อไหร่ก็ฉิบหายเมื่อนั้น  สร้างภาพน่ะสร้างได้ เอาแค่พองาม จบนะครับ

หมายเลขบันทึก: 662002เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2019 08:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2019 08:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เห็นด้วยกับอาจารย์ทั้งสองประเด็นครับ ผมตกผลึกจากอายุครึ่งชีวิตว่า การศึกษาเราผิดที่ “สอนให้คนอย่างรวย” และ เรามองการเกษตรเป็นอาชีพเพื่อหารายได้ แท้จริงการเกษตรคือการผลิตอาหาร อาหารคือชีวิต “การเกษตรคือชีวิต” และผู้ผลิตอยู่มีหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในใจ ก็จะเป็น “ชีวิตที่ปลอดภัย” ด้วย

-สวัสดีครับอาจารย์-ดีใจและยินดีที่ได้เห็นอาจารย์ไปกระตุกต่อมความคิดให้กับนักส่งเสริมการเกษตร-เพื่อนร่วมอาชีพของผม-ตัวผมเองก็ไม่ได้ยังน้อยประสบการณ์ด้านการส่งเสริมการเกษตร-หากแต่มีโอกาสได้นำเอากลับมาใช้ในชีวิตจริงแล้วได้ผลเกินคาดหมาย-พยามสอนตัวเองก่อน ก่อนที่จะสอนคนอื่นๆ น่ะครับ-ทำให้เห็นว่าบนโลกใบนี้ยังมีอะไรที่น่าค้นหาอีกมากมายครับอาจารย์-ด้วยความระลึกถึงอาจารย์ครับ-เราจะต้องมี”ปิ๊งแว๊บ”ในทุกๆ วัน 5555

จบค่ะ! แหม๋ อ.กล้วยหายไปนานเลยนะค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามกัน ช่วงนี้งานยุ่งประกอบกับสุขภาพไม่ค่อยดี เลยไม่ค่อยได้ทำงานเขียนเท่าไหร่ครับ อาชีพเกษตร ในประเทศไทยควรได้รับการยกย่องมากกว่านี้ มากๆ … เราให้ค่านิยมกับหมอเป็นวิชาชีพที่รักษาคน วิศวกร-สร้างบ้าน นิเทศน์-สร้างภาพ ฯลฯ แล้วทำไมคนที่ผลิตอาหาร ซึ่งเป็น 1 ในปัจจัย 4 เราถึงไม่ยกย่อง….

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท