ประมาณ 1 ชั่วโมงให้หลัง เรา หมายถึง ฉัน พี่ปู น้องแอ้ อยู่ที่แม่แจ่ม แม่แจ่มวันนี้ไม่เหงาเหมือน 3 วันก่อนที่ฉันเที่ยวแม่แจ่มอยู่คนเดียว
ฉันตามหาซื้อสายชาร์จของหัวเหว่ย...มันเหมือนเป็นอัมพาตยังงัยไม่รู้เมื่อไม่มีมือถือใช้...คืนความสุขให้ตนเอง
ได้สายชาร์จโทรศัพท์แล้วก็ดี๊ด๊า
เวลายังได้ วันก่อนฉันไปหมู่บ้านหัตถกรรมบ้านท้องฝาย หมู่บ้านแห่งทอผ้าของแม่แจ่ม จึงชวนสองสาวไปใช้จ่ายเงิน เห็นผลแฮะ ...ได้ของติดมือมาเยอะ
เสื้อคลุมผ้าฝ้าย ย้อมสีธรรมชาติ ปักลายสวย ดูความละเอียดและดีไซน์แล้วราคาไม่แพงเลย...แต่เสียดายไม่มีไซส์ของอิป้า
อิป้าได้ตุ้มหูมา 1 คู่...ทำมาจากฝ้ายประกอบจก...ปกติของอิป้าจะมีตุ้มหูเป็นพู่ไหมจีนเยอะ... Texture ที่แตกต่าง ให้สัมผัสและเสน่ห์ที่แตกต่าง
พี่ปูอยากกินขนมจีนน้ำเงี้ยว...ฉันพาไปร้านยายจันทร์เจ้าเก่า...พลาดอีกแระ ร้านปิดวันอาทิตย์ค่ะ
มิให้เสียเที่ยวจึงได้แวะวัดกราบพระธาตุช้างเคิ่งอีกครั้งเพราะอยู่ตรงข้ามกับร้านยายจันทร์เลย แม้ฉันจะแวะแล้วเมื่อวันก่อน แต่สองคนนี้ยังไม่ได้แวะ
เราเลือกกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณชมสวนผัก บรรยากาศดี (เป็นก๋วยเตี๋ยวสาขา รับประกันความอร่อย) ร้านสะอาดดี มีที่ให้ถ่ายรูป ร้านหาง่ายค่ะ ลงดอยอินทนนท์มาจะเข้าอ.แม่แจ่ม...จะมองเห็นร้านเลย
แล้วไปชมวัดป่าแดด ที่มีภาพวาดโบราณ ว่ากันว่าอายุ 200 กว่าปี วันที่ฉันเช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยว ฉันไม่ได้ไปทางฝั่งตำบลวังผาเลย...เวลาไม่พอ ดีแระวันนี้ถือโอกาสมาเที่ยวพร้อมเพื่อน
ภาพจิตรกรรมค่อนข้างสมบูรณ์ ทางอีสานคงเรียกว่า ฮูปแต้ม เป็นภาพพุทธประวัติ แถวนี้ยังมีวัดยางหลวงเสียดายไม่ได้แวะไป
ภาพจิตรกรรมสีน้ำตาลที่ฉันเห็นเป็นรูปสับปะรด อยู่ที่รอบนอกวิหารหลังหนึ่ง คิดอีกทีหรือเป็นเต่า คงไม่มั้ง
ส่วนภาพพุทธประวัติอยู่ภายในของโบสถ์ วันนี้แดดร้อน ฉันจึงไม่ค่อยปลื้มกับบรรยากาศ Outdoor เท่าไหร่ งุดๆ จะกลับรถท่าเดียว
บริเวณติดกับวัดเป็นทุ่งข้าว ในหน้านาคงจะเป็นสีเขียว สดชื่น ช่วงฉันไปนอกฤดูทำนา ชาวบ้านใช้บางส่วนปลูกผัก
มีเจดีย์สีขาวตั้งตระหง่าน มุมนี้ วิวนี้จะแจ่มมาก เมื่อมาหน้านา เจดีย์สีขาวตัดกับทุ่งข้าวสีเขียว
ระหว่างนั้นก็ตัดสินใจว่าจะไปดูสวนดอกไฮเดรนเยียที่โครงการหลวงขุนแปะ ซึ่งต้องกลับทางอำเภอฮอด...การขับรถไม่ต้องขึ้นเขา หรือกลับทางจอมทอง ที่ต้องผ่านดอยอินทนนท์ ...สรุปกลับทางเดิม เพราะต้องการเซฟเวลาให้ถึงขอนแก่นโดยเร็ว ทุกคนมีภารกิจ บอกแล้วแผนของเรา คือ การค้นข้อมูลวันต่อวัน
คราวนี้มีรถของตัวเองแล้ว แวะเลยค่ะ ถนนสายซากุระที่ผาตั้ง...สวยงามมาก พิกัดดอยอินทนนท์
ถนนสายซากุระ นอกจากชมซากุระหรือดอกนางพญาเสือโคร่งบานแล้ว ของซื้อก็เยอะส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์การเกษตร ผาตั้งมีจุดบริการกางเต๊นท์ด้วย...คิดถึงความเป็นวัยรุ่นขึ้นมาทันที
ลงจากดอยอินทนนท์ ร่างกายต้องการคาเฟอีน เราจอดแวะร้าน Papa's Home & Rabbit Cafe' ที่ออกมากจากอ.จอมทองสัก 5 กิโลเมตร มีที่พักด้วย...ขอบอกร้านนี้ขนมอร่อย ระหว่างนั่งกินกาแฟก็อดคิดถึงน้องต้อม และที่พักนอกชานมีนาไม่ได้
ระหว่างที่กาแฟร้อนจะหมดแก้ว ฉันก็เล่าเรื่องที่พักที่น่ารักที่มาพักมื่อ 3 วันก่อน และน้องที่น่ารักจากสัมพันธภาพใน G2K ในเพื่อนร่วมทริปฟัง
บ่าย 2 กว่าที่ร้านกาแฟ เราคุยกันว่าจะพักที่ไหน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง หรือลากยาวลงพิษณุโลก...ถามใจเธอดู
สรุปเราเลือกพักที่ลำปาง ระหว่างที่รถอีกคันส่งข่าวมาถามไถ่ว่าการเดินทางไปไหน
ฉันเองก็ทำหน้าที่หาที่พัก จากรีวิวและ Google เราเลือก Karpenter ที่พลขับของเราเลี้ยวเข้าไปจอดแล้วทำหน้างงๆ ใช่ที่พักเราไหม เกาะ-พัน-ตา (kar-pen-tar) 555 ขับรถมากจนเพี้ยน
เย็นของวันเดินทางเราเลือกที่พักที่ลำปางในสไตล์สไตล์มินิลอฟท์เก๋ๆ ห้องกว้าง สะอาด เงียบ บริการดี ที่จอดรถกว้างขวาง ไม่พลุกพล่าน แต่หมอนนิ่มไปหน่อยคนแก่อย่างอิป้านอนไม่สบาย
น้องเจ้าของร้านน่ารัก หมาเจ้าของร้านก็น่ารัก
พี่ปูกับแอ้ไปนวดที่สปาใกล้ที่พัก ฉันขออาบน้ำอุ่นแบบสบายๆ สะอาดๆๆ อดคิดถึงแม่หลุไม่ได้...รู้สึกถึงความผ่อนคลายจากสายน้ำ แฉันจึงใช้เวลาอาบน้ำนานเป็นพิเศษ
ไม่ใช่แม่หลุจะลำบากอะไรนัก สบายกว่าที่คิดเย๊อะ แต่ก็นะ... น้ำมันเย็น ห้องน้ำห้องเดียวผลัดกันใช้ 10 คน...ปรากฏการณ์วิ่งผ่านน้ำจึงเกิดขึ้นเสมอ ขอบคุณประสบการณ์ที่แตกต่าง
ค่ำนี้ฉันตั้งใจเอาผ้าถุงปกากะเญอมานุ่งไปกินข้าวเย็น...อยู่ในพื้นที่ไม่มีเวลาใส่เลย จริงๆ ใส่ก็ได้ แต่กลัวหลุด เพราะเดินขึ้นเขาเยอะ กางเกงทหารอ่ะเหมาะสมแล้ว
เรายังอยู่ในอารมณ์อาหารพื้นเมือง...ที่พักแนะนำร้านของกิ๋นบ้านเฮา เป็นร้านสำหรับนักท่องเที่ยวมั้ง อยู่ตรงข้ามสถานีตำรวจ...อาหารอร่อยค่ะ ราคาสูงนิด ตักมาถ้วยหย่อมๆ แต่ก็คงเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ พนักงานดีมาก ฉันลืมกระเป๋าตังค์ไว้ รีบวิ่งเอามาคืน
ฉันรู้สึกว่า อาหารมื้อนี้เรามีความสุขแบบว่า เป็นอาหารมื้อใหญ่มื้อแรกที่มีคนทำอาหารให้ทานหลังจากออกจากค่าย ทุกวันต้องง่วนอยู่ในครัว...ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก แต่เรื่องปากท้องเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ
วันนี้ลำปางหนาวมาก ที่นั่ง Outdoor ชมความสวยของโคมไฟ เรื่องเล่า และดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น...ทำเอาฉันต้องจอดซื้อยากินก่อนนอนเลยที่เดียว
อาหารเช้าของ Karpenter รวมไว้กับค่าที่พัก เราว่างจัด จึงพนันกันว่าน้องเจ้าของซึ่งยังเป็นวัยรุ่นอยู่จบสาขาอะไรถึงได้มาทำที่พัก 555
สรุปพี่ปูตอบถูก ฉันเนียน สาวนน้องแอ้เสียพนัน ต้องเลี้ยงข้าวเที่ยง
สองสาวยังติดการตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่จากแม่หลุ แอบแซวกันว่า จะตื่นมาต้มข้าวต้มเหรอ 555
ก็นะ นกที่ตื่นเช้าย่อมจับหนอนได้มากกว่า สองสาวจึงได้ใช้พื้นที่เก๋ๆ ของที่พักทำงานวิชการและงบเงินก่อนเวลาอาหารเช้า
ฉันชอบ Karpenter ที่มีเมนูอาหารเช้าให้เลือก 3 SET ฉันเลือกข้าวเหนียวหมูปิ้ง เสิร์ฟมาหน้าตาดีทีเดียว
ก่อนถึงเมนูกินฟรีขอไปช้อปปิ้งจานชาม มาลำปางต้องเซรามิก จุดช้อปปิ้งที่ทุกคนรู้จักคือ ตลาดทุ่งเกวียน และ Ceramic Outlet เราแวะอินทรา เอ้าท์เลท...ได้ชุดถ้วยจานมาเป็นซีซั่นใหม่ของครัวตุ๊กก้า...เฮ้อ...หมดไปหลายบาทเหมือนกัน
อารมณ์น้ำเงี้ยวยังไม่ได้รับการตอบสนอง...เราฝากท้องไว้ที่ครัวมุกดา มีทั้งน้ำเงี้ยว น้ำพริก น้ำยาป่า...และเมนูอีกหลายอย่างให้เลือก ร้านนี้คนท้องถิ่นแนะนำอีกแระ ตาม GPS ไปจนหัวเราะ เอ็งจากพาพวกตรูอ้อมเมืองไปถึงไหน...แค่เข้าเมือง
จัดไปสำหรับเมนูกินฟรี
ประมาณเที่ยงเราก็ออกจากลำปาง เพื่อกลับขอนแก่นบ้านเรา...ก็ลากยาวกันมา ได้พูดได้คุยกันถึงบรรยากาศของทริป
ฉันคิดว่าทุกคนลุ้นๆกับการขับรถของฉัน...น่ากลัวตรงไหน...แค่รถขนมาเยอะเต็มคันรถ (ไม่มีแม้พื้นที่จะใส่ไม้กวาด) พวกมาลัยหนักอึ้ง ขับลงเขา และเลี้ยงเบรกตอนติดด่าน เท่านั้น ...การตั้งด่านบนเขาห่างกัน 2 จุด ในเวลา 20 นาที เพื่อ เพื่อ เพื่อ (ไหน นศ.ป.เอก ลองวิเคราะห์โดยใช้หลักสังคมวิทยา 6 dimentions ซิ) 555+ เรียนเล่นเป็นเรื่องสนุก
ดังนั้นก่อนจะขึ้นเขาค้อ น้องแอ้บอก ป้าลงมา...แอ้จะขับ...มันหมายความว่า....
พักรถอีกครั้งตอน 5 โมงเย็นเพื่ออัดคาเฟอีนแถวๆ เขาค้อ
...ไม่อัดกาแฟเปล่าๆ แถมด้วยหมั่นโถวร้อนๆ รองท้อง...คงอีกหลาย ชม.กว่าจะถึงขอนแก่น
กินชา กาแฟร้านขายชา อาจต้องทำใจกับคราบชาที่แก้วด้วย...คราบชานี่พอเข้าใจ ระวังอย่าเป็นคราบกาแฟแล้วกัน
และเราก็เดินทางถึงขอนแก่นโดยสวัสดิภาพ
ปีหน้ารู้สึกว่าทางหลักสูตรจะมีแผนเข้าแม่หลุในช่วงเดือนมกราคม...เคลียร์คิวไว้รอเลย...หรือเราจะไปแม่แจ่มในหน้าข้าวกันดี ซึ่งแต่ละฤดูกาลสีสันก็แตกต่าง...มิน่าที่บางที่หลายๆคนถึงไปซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่เบื่อ...ฉันว่าคงอยู่กับคนที่ไปด้วย...ถ้าอิน...ยังงัยก็ไม่เบื่อ
...แล้วก็อยากนึกฮัมเพลง "ฤดูที่แตกต่าง" ของบอย โกสิยพงษ์ขึ้นมาซะอย่างนั้น
ปิดทริป แม่หลุมินิมอล ด้วยดีคร่า
แม่แจ่ม งาม ก็ไม่เท่าความงามจากการบรรยาย มีความสุขจัง