เพราะอาจารย์มองอย่าง "คนทำงาน" ใน "วงการศึกษา" ถึงสื่อที่อาจารย์บอกเองว่าต้องการสื่อไปยัง "computer geeks" ไงคะ
คือถ้าเราเอาพวก label นั้นออกไป หรือเปลี่ยนมันใหม่ เราก็จะมองเห็นมันอีกแบบน่ะนะคะ คิดว่า
หรือแม้แต่เราเอาหมวกใบใหม่มาใส่เสียเองด้วยล่ะค่ะ
นี่พูดแบบภาษาพวก "นักคิด" ของวงการวิชาการตะวันตกน่ะนะคะ ที่เขานิยมมีหมวกกันคนละหลาย ๆ ใบ หลาย ๆ สี
อย่างนั้นมันก็เปลืองเนื้อที่ตู้เสื้อผ้าเหมือนกันน่ะนะคะ มีหมวกเยอะนี่ ฮิ ๆ
แต่ถ้าแบบตะวันออก เรามีเกราะกั้นใจไว้อย่างหนึ่ง ก็อาจมีสิทธิ์เฉย ๆ ได้เหมือนกันน่ะค่ะ
จะลองยกตัวอย่างแบบตะวันตกก่อนก็ได้ค่ะ
เช่น สมมติว่า ภาพนี้เป็นภาพ fashion ad ของ Spring Collection ของ Prada ที่อาจจะอยากเจาะกลุ่มคนทำงานด้านกราฟฟิคดีไซน์ผิวดำในทวีปอเมริกาเหนือ
ถ้านี่เป็นโฆษณารองเท้าแนวแฟชั่น ที่จุดขายมันอยู่ที่พื้นรองเท้าเป็นลายจุด ๆ อย่างนั้น และเจาะกลุ่ม demographic profile หรือ lifestyle อย่างนั้น ก็อาจจะกลายเป็นเหมาะเหม็งเลยก็ได้ใช่ไหมคะ สำหรับภาพเปิดหน้าเวบ
ส่วนถ้ามองอย่างตะวันออก พูดง่าย ๆ เลยก็คือมองอย่างการเจริญสติของพุทธเรานี่แหละ ภาพใด ๆ มันก็แค่แสงที่ไปตกกระทบวัตถุแล้วมันมากระทบประสาทในการรับรู้ทางตาเราอีกทีนึง
โดยต้องมีใจที่อยากรู้ อยากดู กำกับอยู่
มันจึงจะ "เห็น" เป็นรูปร่าง นั้น ๆ ขึ้นมาน่ะค่ะ
ถ้าเราสามารถฝึกให้ "เห็นสักแต่เพียงว่าเห็น" ให้มันเป็นเพียงรูปร่าง โครงร่าง ให้รู้ว่าเป็นรูปของมนุษย์กำลังนั่งทำคอมพ์อยู่ ก็พอแล้ว
คือพอที่จะรู้ว่านี่เป็นเวบประมาณว่าเกี่ยวกับคอมพ์นะจ๊ะตัวเอง ไม่ใช่เวบขายขนม
ไม่ต้องรู้ไปด้วยซ้ำว่าเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย สูงต่ำ ดำขาว ใส่เสื้อสีอะไร
จะว่าไปแล้ว สิ่งที่เราเห็น มันก็คือ จุดของแสงต่าง ๆ ที่มาเรียงตัวกันถี่ ๆ ให้เห็นเป็นรูปคุณผู้ชายท่านนั้นนั่งทำงานอยู่แค่นั้นน่ะค่ะ
จุดดำ ๆ เข้ม ๆ ด้านหน้า รวมตัวกันหนาแน่นหน่อย ประมาณได้ว่าน่าจะเป็นรูปรองเท้า
เวลาตาเราเห็นภาพ แล้ว "ใจ" เรานี่แหละ ค่ะ ที่ไปใส่ "ป้ายคำหลัก" ให้สิ่งต่าง ๆ ที่เราเห็น แล้วก็ดึงเอา "สัญญา" เก่า ที่เราผนวกควบคู่กับสิ่งเหล่านั้นไว้ด้วยออกมา โดยที่เรามักจะไม่ทันรู้ตัว
เช่น "การออกแบบหน้าตา interface จะ **ห้าม** นำอวัยวะต่าง ๆ มาประกอบ"
ถ้าอะไรผิดไปจากนั้น "ไม่เที่ยง" ไปจากนั้น เราจะใส่ป้ายคำหลักว่า "ผิด" ทันที
มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปน่ะนะคะ
เพราะถ้าเวบนั้นขายแผ่นที่ใส่ในรองเท้าคัทชู เพื่อให้เท้าคุณนุ่มเหมือนเดินบนปุยนุ่น หรือเย็นเหมือนติดแอร์ล่ะคะ
หรือถ้ามีรูป ลูกตา คน อยู่หน้าแรกของเวบที่ให้บริการผ่าเลสิกล่ะคะ? ไม่ได้หรือคะ?
ความจริงอาจารย์พิชัยเขียนเรื่องนี้ไว้ดีมากเลยค่ะ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับประสาทการรับรู้ด้านการได้ยิน
มีสไลด์ที่เกี่ยวกับคลื่นเสียงประกอบด้วยค่ะ
เข้าใจว่าอยู่ในบทความแรก ๆ ของบล๊อก
หาเจอเมื่อไหร่ จะนำมาแปะให้นะคะ
ส่วนหน้าเวบของ MSDN นี้ สามารถเอาไว้ใช้สอนอะไรเราได้หลายขั้นค่ะ เห็นด้วย
จะสอนกันในเชิงการออกแบบเวบเฉย ๆ ก็ได้ แต่นั่นมันก็ธรรมดาไปน่ะนะคะ แล้วก็อย่างที่บอก ไปบอกอย่างนี้กับผู้ออกแบบเวบขายรองเท้า Prada เขาก็คงเฉย ๆ น่ะค่ะ
แต่ถ้าเราอาศัยหน้าเวบนี้ เอาไว้ฝึกสติของเรา ในกระบวนการ "รับ" และ "รู้" ในการเจริญสติตามหลักสติปัฏฐาน ๔ แล้ว
ยิ่งฝึกดู ก็จะยิ่งมีวิทยายุทธแก่กล้าค่ะ คิดว่าอย่างนั้นนะคะ
เก็บไว้มาเปิดดูบ่อย ๆ ก็ดีค่ะ บางวันก็อาจแพ้ คือหงุดหงิด แต่ก็เชื่อว่า ต้องมีบางวัน ที่สามารถดูแล้วใจสงบนิ่งเหมือนทะเลยามเช้า ๆ ได้
ลองดูนะคะ
ถ้าสามารถยิ้มให้กับพื้นรองเท้าของคุณผู้ชายคนนี้ได้อย่างปลอดโปร่งสบายใจ ไม่รู้สึกมีอะไรมารบกวนใจเมื่อไหร่ล่ะก็ ข้าน้อยขอโขกหัวคารวะหนึงทีเลยค่ะ
ด้วยความเคารพ,
ณัชร