ข้าวต้มใส่เครื่อง


ค่ำคืนนี้ผมรู้สึกนึกถึงพ่อ

“แป๊ะ ลูกช่วยขับรถมอเตอร์ไซค์ไปซื้อข้าวต้มมากินกันหน่อยได้ไหม ของพ่อเอากระเพาะหมูนะ ใส่หมูหวานเพิ่มเติมมาด้วย” พ่อบอก



หมูหวานที่พ่อพูดถึงนั้น มันคือหมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆขนาดราว ๑-๒ เซนติเมตร เค้าคงผัดกับซีอิ๊วและน้ำตาลแดงจนเนื้อมันเป็นสีน้ำตาลเข้มมีรสหวาน และเนื้อนุ่มลงจนเคี้ยวง่ายๆ



ส่วนผม กะไอ้การขับรถไปซื้อข้าวต้มน่ะ มันก็แค่เรื่องขี้ขี้ แต่คำร้องขอพิเศษเรื่องเพิ่มหมูหวานเข้ามานี่น่ะสิ มันโคตรจะเป็นภาระเลย

“ทำไมต้องสั่งแบบเพิ่มเติม” ผมไม่เข้าใจ

“มันอร่อยนะลูก” พ่อบอก

“แต่มันเป็นภาระนะพ่อ” ผมยังคงต่อรอง

“เอาเหอะ ลูกบอกเขาไปอย่างนั้น หน้าที่ของคนขายเขาก็จะจัดการเอง” พ่อยังคงใช้น้ำเสียงปกติ แล้วผมก็ต้องควบมอเตอร์ไซค์ออกไป หันรถไปทางสี่แยกโรงแรมเมืองทองใจกลางเมืองบ้านดอนเพื่อซื้อข้าวต้ม



ผมคิดถึงร้านนั้นขึ้นมาจริงๆ



จะว่าไป ตั้งแต่ออกจากบ้านมาในปี ๒๕๓๓ ก็ไม่เคยได้กินข้าวต้มจากร้านนั้นอีกเลย

.......................



ผมคงมีเชื้อจีนอยู่เยอะครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มแบบไหนก็ล้วนเป็นอาหารโปรด



โจ๊ก ผมกินได้ทุกชนิด เพียงแค่เหยาะซีอิ๊วขาวสักนิดก็พากันอร่อยเหาะแล้ว นี่ถ้ายิ่งได้เพิ่มขิงซอยมาด้วยแล้วล่ะก็ ลืมเรื่องท้องอืดไปได้เลย

ข้าวต้มกุ๊ย ซึ่งผมไม่เคยรู้เลย ว่ามันจะเกี่ยวกับไอ้พวกกุ๊ยเกเรอย่างไร แต่เชื่อเถิด ถ้าเป็นข้าวต้มกุ๊ย ข้าวต้มพุ้ย ชนิดที่ต้องยกชามขึ้นมาประกบริมฝีปาก ใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวเข้าเข้าปาก ส่งเสียง “พรูดๆ” สักหน่อย ตักกับข้าวป้อนตามเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นผักกาดดอง ซีเช๊กฉ่าย ไข่เค็ม ไข่เจียว เลือดพะโล้ หมูต้ม ผัดผักบุ้ง ยำปลาอินทรีย์เค็ม หมูสับผัดหนำเลี๊ยบ หรือจะอะไรก็ตามแต่ มันคืออาหารที่โคตรจะโปรดปราน



หรือไม่ก็ข้าวต้มแบบที่พ่อชอบกิน

จะเรียกว่าอะไรดี “ข้าวต้มใส่เครื่อง?” อันนี้ก็ไม่รู้



ข้าวต้มขาวๆ เม็ดร่วนๆเนื้อไม่เละ ตักขึ้นมาแต่ข้าวก่อน จากนั้นก็ใส่เครื่องตามที่ลูกค้าต้องการ ปลากระพง กระเพาะหมู เลือดพะโล้ หมูพะโล้ หมูหวาน จากนั้นก็ราดน้ำข้าวต้มตามมา โรยต้นหอมซอย พริกไทย และเสิร์ฟ ซด จะส่งเสียง “พรูด” หรือไม่ ก็คงไม่ต้องสนใจกันแล้ว



สมัยเป็นนักเรียนแพทย์ ผมและเพื่อนสนิทกลุ่มหนึ่งมีร้านข้าวต้มเครื่องเป็นร้านประจำอยู่ร้านหนึ่ง เป็นร้านริมถนนบนรถเข็น เขาขายอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงพยาบาลเซียงตึ๊ง

รสอร่อยมาก ผมชอบข้าวต้มปลากระพงและลูกสาวคนขาย



นั่นไง ผมกำลังหมายถึงข้าวต้มปลานะครับ ไม่ใช่ข้าวต้มลูกสาวคนขาย ฮ่าฮ่า เอ๊ะ หรือว่ามี (บร้าาาา)



และจนบัดนี้ ก็ยังคงนึกไม่ออก ว่าที่ไปกินข้าวต้มร้านนั้นก็เพราะมันอร่อย หรือลูกสาวเค้าสวยกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ผมยังจำน้องซีได้จนบัดนี้



มันไม่มีแล้ว และน้องซีก็คงจะลืมพวกผมไปแล้วเช่นกัน ฮ่าฮ่า

......................



เมียและลูกสาวของผมชอบกิน “ข้าวต้มรถแดง”



รถแดงในตำนาน



เข้าใจว่าเขาคงขายมานานแล้ว แต่เนื่องจากผมไปติดใจข้าวต้มของแม่น้องซีอยู่เสียนาน จึงไม่รู้ว่าที่หน้าตลาดกิมหยงนั้น มีข้าวต้มเครื่องแสนอร่อยขายอยู่ มันคือ “ข้าวต้มรถแดง”



เวลาราวเกือบ ๒ ทุ่ม รถแดงจะมาจอดอยู่ริมฟุตบาท ข้าวต้มเรียงเม็ดสีขาวสวยถูกตักใส่ชาม จากนั้นเครื่องปรุงต่างๆก็ถูกจัดใส่มาตามแต่ที่ลูกค้าจะชอบ ตักน้ำพะโล้ราดลงใส่ และพร้อมนำส่ง



มันอร่อยมาก ผมยืนยัน



ข้าวต้มรถแดงอยากมีสาขากับเขาเหมือนกัน นานมาแล้ว เขาไปเปิดสาขาบนถนนหลังมหาวิทยาลัยของผม และขายอยู่ระยะหนึ่ง แล้วมันก็เลิกไปทั้งๆที่ยังมีลูกค้ามากินมากมาย

รถแดงยังคงมาขายอยู่ทุกคืนที่หน้าตลาดกิมหยง จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็มาเปิดสาขาอีกแห่ง เป็นสาขาที่ ๒ ครั้งที่ ๒ (เอ๊ะ ยังไง) มันตั้งอยู่บนถนนธรรมนูญวิถี เลยร้านทิพย์นรินทร์มาราว ๓๐ เมตรด้านขวามือ



แล้วมีหรือ ที่บ้านผมจะไม่มากิน

.....................

ค่ำวันนี้ที่หาดใหญ่ฝนตกพรำๆ เม็ดไม่หนา อากาศดีเป็นที่สุด ผมเดินข้ามถนนสาย ๒ เพื่อไปที่รถตัวเองเตรียมตัวกลับบ้าน

หาดใหญ่ยามค่ำคืนมันยังคงสวยงาม เวลาราว ๔ ทุ่ม รถราเริ่มบางตา ผมสูดหายใจรับความชื้นเข้าปอดรู้สึกสุขใจ



“พ่อจ๋า ขากลับพ่อช่วยซื้อข้าวต้มรถแดงกลับมาให้หน่อยนะ จะได้กินเป็นมื้อเช้าวันพรุ่งนี้” เสียงเมียบอกมาเสียหวานเจี๊ยว เอ๊ย..หวานเจี๊ยบ



เมื่อผมมาถึงร้าน ลูกค้ากลุ่มหนึ่งกำลังเรียกคิดเงิน

“สวัสดีครับพี่” พ่อเจ้าคนขายที่คุ้นเคยทักทายผมก่อน

“ครับ ผมจะซื้อกลับบ้านนะ” แล้วผมก็รู้สึกคิดถึงพ่อขึ้นมา



“ของพ่อใส่กระเพาะหมูนะ ขอหมูหวานเพิ่มเติมด้วย” เสียงของพ่อก้องอยู่ในหู

ผมรู้สึกเป็นสุข เพราะแม้พ่อจากผมไปนานแล้ว ผมก็ยังรู้สึกเข้าใกล้พ่อมาอีกนิดเมื่อตัวเองอยากกินข้าวต้มใส่เครื่องแบบนี้



แล้วผมก็บรรจงจดรายการข้าวต้มที่ต้องการลงไป



ข้าวต้ม

ใส่เลือดอย่างเดียว ๑ ถุง ถุงนี้ของพี่แป้ง

ใส่ซี่โครงหมูอย่างเดียว ๑ ถุง ถุงนี้ของน้องจ้า

ใส่ซี่โครงหมูและเลือด ๑ ถุง ถุงนี้ของเป็นเมีย ๒๐๑๘

ใส่ทุกอย่าง เพิ่มหมูหวาน ๑ ถุง



รู้ใช่ไหม ว่าผมคิดอย่างไรเมื่อเขียนรายการสุดท้าย



ธนพันธ์ ชูบุญแซ่ลิ้ม ณ ไหหลำ

๙ สค ๖๑

คำสำคัญ (Tags): #ข้าวต้ม#โจ๊ก
หมายเลขบันทึก: 649463เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2018 14:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม 2018 14:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท