ในเวทีการสัมมนาผู้นำองค์กรนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปีการศึกษา 2561 ระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2561 ณ วารีวัลเลย์ จังหวัดขอนแก่น ผมให้แนวทางแก่เจ้าหน้าที่ผู้เป็นทีมวิทยากรไปหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นก็คือการทำ “ป้ายชื่อ” หรือ “ไอดีการ์ด”
อันที่จริงในระยะหลังๆ หรือแม้แต่หลายๆ กิจกรรมในหลายปีที่ผ่านมา เท่าที่ผมสังเกตเห็นในเวทีต่างๆ มีทั้งที่ทำป้ายชื่อและไม่ทำป้ายชื่อ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมให้ความสำคัญกับเรื่องของป้ายชื่อมาก เพราะนั่นคือกระบวนการหนึ่งของการ “เปิดเปลือยตัวตน” ต่อสาธารณะ
ใช่ครับ- การแขวนป้ายชื่อตนเอง ก็ไม่ต่างอะไรจากการแสดงเจตนารมณ์ต่อสาธารณะว่า “ชื่ออะไร” รวมถึงมีนัยสำคัญว่า “ทักได้นะ” หรือ “พร้อมที่จะเรียนรู้กับเพื่อนใหม่นะ”
ด้วยเหตุนี้ ในมุมมองส่วนตัวของผม – ผมมองว่า “ป้ายชื่อ-ไอดีการ์ด” จึงมีสถานะเป็นหนึ่งในเครื่องมือของกระบวนการ “รู้จักฉันรู้จักเธอ” หรือ “ละลายพฤติกรรม” ในแบบ "บันเทิงเริงปัญญา" ไปในตัวด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะออกแบบในเชิงกระบวนการที่ว่านั้นอย่างไรเท่านั้นเอง
กระนั้นก็เป็นที่น่าสังเกตว่าในระยะหลังๆ หลายเวที “ไม่มี” ป้ายชื่อของกลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรมเลยก็มี
หรือแม้แต่ “ถ้ามี” ก็มักจะออกแบบเลิศหรูมีราคา ควรค่าต่อการจัดเก็บไว้นานๆ ควรค่าต่อการสะสมเป็นโปรไฟล์ชีวิต แต่ก็ดูเหมือนว่ายิ่งเลิศหรูมากเท่าไหร่ ต้นทุนการผลิตก็ยิ่งมากขึ้น แถมบางทีก็กลายเป็นความสิ้นเปลืองในด้านงบประมาณและเพิ่มมลภาวะให้กับโลกและชีวิตไปโดยปริยาย
ฉะนี้แล้วในเวทีการสัมมนาครั้งนี้ ผมจึงแนะนำให้ทีมวิทยากรได้จัดทำป้ายชื่อแบบง่ายๆ ไม่เน้นเทคโนโลยีเลิศหรู ไม่เน้นพลาสติก หรือพูดตรงๆ ก็คือประหยัดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเป็นไปได้ก็คือให้ใช้กระดาษชาร์ทสีแข็งๆ มาทำ –
ใช่ครับ – ผมแนะนำเช่นนั้นจริงๆ พร้อมๆ กับการแนะนำว่าหากเป็นไปได้พยายามอย่าให้แต่ละคนเขียนชื่อตัวเอง แต่สร้างกระบวนการให้แต่ละคนได้เขียนชื่อให้กันและกัน ตลอดจนการคล้องป้ายชื่อให้กันและให้ถือว่าบุคคลนั้นๆ เป็น “บัดดี้-บัดเดอร์” กันและกัน
เอาจริงๆ ก็คือ ผมให้เพียงหลักการเท่านั้น ขึ้นอยู่กับทีมจะออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่ว่านี้อย่างไร ซึ่งครั้งนี้ทีมงานก็นำไปหารือร่วมกันและจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อนำเข้าสู่การเรียนรู้ร่วมกัน กล่าวคือใช้กระดาษชาร์ทสีมาทำป้ายชื่อ โดยใช้สีเหล่านี้เป็นสีประจำกลุ่มในการที่จะทำกิจกรรมตลอดการสัมมนาไปในตัวอย่างเสร็จสรรพ
ในทางกระบวนการนั้น ทีมงานยูกโยงผ่าน “ปมเชือก” โดยให้จับคู่แล้วผูกโยงเชือกเข้าด้วยกันเพื่อนำไปสู่การให้ร่วมคิดร่วมถอดปมเชือกร่วมกัน พอถอดปมเชือกออกจากกันได้แล้วก็ถามทักชื่อเสียงเรียงนามกันให้มากขึ้น พร้อมๆ กับการเขียนชื่อลงในป้ายชื่อแล้วคล้องให้กับเพื่อน
ครั้นเสร็จสิ้นกระบวนการนี้ ผมก็เข้าไปทักทาย รวมถึงการสื่อสารประมาณว่าป้ายชื่อเหล่านี้ ผมและทีมงานคิดบนฐานของความ “ง่าย-งาม” เหมือนพาทุกคนย้อนยุคไปสู่อดีตที่ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เหมือนชีวิตยังไม่รีบเร่ง เหมือนชีวิตยังคงเดินช้าอย่างมีสติ ไม่วิ่งตามกระแสบริโภคนิยม
เช่นเดียวกับการสื่อให้เห็นว่า ป้ายชื่อธรรมดาๆ เช่นนี้ มีคุณค่าและความหมายมากมิใช่ย่อย เพราะแต่ละคนสร้างมันด้วยมือของตนเอง เป็นการสร้างมากับมือแล้วส่งมอบให้เพื่อน โดยมิใช่การไปจับจ่ายซื้อสำเร็จรูปมาจากห้างร้านภายนอก เสมอเหมือนทำมันขึ้นจากใจเพื่อส่งมอบให้ใครสักคนที่สำคัญกับเรา
ใช่ครับ - จะว่าไปแล้วก็เหมือนของขวัญที่นิสิตได้ส่งมอบให้กันในเวทีสัมมนาฯ นั่นแหละ
ใช่ครับ - ของบางอย่างคุณค่าไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่ว่า "ใครทำให้เรา - เราได้มาอย่างไร" ฯลฯ
ก็ไม่รู้นะ ผมคิดแบบนี้ และโชคดีที่ทีมงานก็มองไม่ต่างกันมากนัก จึงตัดสินใจออกแบบกระบวนการเรียนรู้ในทำนองนี้ ส่วนนิสิตจะเปิดใจยอมรับและทำความเข้าใจต่อนัยสำคัญต่างๆ ที่ผมพยายามสื่อสารหรือไม่ ผมยังไม่รีบร้อนที่จะเอาคำตอบใดๆ จากพวกเขาหรอก
ผมรอได้ !
แต่ที่แน่ๆ สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ได้สื่อสารมากนักก็คือ "ปมเชือก" ที่ว่านี้ ผมพยายามสื่อสารว่า คนทุกคนมีปมชีวิต ขึ้นอยู่กับว่าจะเหมือนหรือต่างกัน การแก้ปัญหาเรื่องบางเรื่องเราต้องแก้ด้วยตัวเองเอง ขณะที่บางเรื่องเราก็จำต้องเปิดใจที่จะให้คนอื่นมาช่วยแก้ไข-บำบัด-เยียวยาตัวเราด้วยเหมือนกัน
หมายเหตุ
เขียน : ศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม 2561
ภาพ : พนัส ปรีวาสนา / นิสิตจิตอาสา
ป้ายชื่อ ปมเชือกเรายังนำมาเรียนรู้ได้ขอบคุณมากๆนะคะ ที่เขียนให้พี่ๆอ่านและนำไปใช้ได้เสมอ
สวัสดีครับ พี่แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช
ตอนออกแบบกระบวนการ ก็คิดเหมือนที่เขียนครับ หวนกลับไปยังความ่ายงามของชีวิต ทวนกระแสหลักของยุคสมัยที่ทำป้ายชื่อไอดีการ์ดอย่างสวยสดงดงาม แต่มีราคาค่างวด
เพราะต้องการชะลอฝีเท้าของนิสิตให้เดินช้าลง บ่มความสมถะพอเพียงแบบเงียบๆ เนียนๆ จึงมอบให้ทีมงานได้ใช้กระบวนการนี้ไปในตัว
จากนั้นก็ย้ำให้เขาเห็นคุณค่า-มูลค่า และเท่าที่สังเกตดู นิสิตก็รักษาป้ายชื่อเป็นอย่างดี บางคนทำด้านหลังมาเป็นพื้นที่จะบันทึกเลยก็มี ครับ