วิกฤตการณ์เงินโลกดีขึ้นในอนาคต


                            เศรษฐกิจโลกในอนาคต จะเติบโตสูงสุดนับตับแต่ฟื้นตัวหลังจาก 'วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์' โดยมีการขยายตัวของการค้าโลกเป็นปัจจัยสำคัญ ด้านเศรษฐกิจจีนจะชะลอต่อไปจากการควบคุมนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ของทางการ ส่งผลต่อการเติบโตของหลายชาติในเอเชียที่พึ่งการส่งออกไปจีน โดยมี 4 เหตุผลสำคัญที่จะทำให้ปีหน้าเป็นปีที่เศรษฐกิจโลกขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 2.9% ในปีนี้ไปเป็น 3.2% ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อปีที่สูงที่สุด หลังการฟื้นตัวจากวิกฤตที่เริ่มตั้งแต่ปี 2010 ได้แก่

การค้าโลกที่คึกคัก โดย จีนมีส่วนทั้งโดยตรงและโดยอ้อมต่อการเติบโตทางการค้าโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2016 และปี 2017 แต่เมื่อไม่นานนี้เริ่มมีสัญญาณว่าหลายประเทศและภูมิภาคมีสัดส่วนสนับสนุนการเติบโตของการค้าโลกเพิ่มขึ้น โดยปีนี้การส่งออกของเยอรมนีไปยังประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร และประเทศในยุโรปอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ส่วนการส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ อย่างในเอเชียลดลงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เป็นการสนับสนุนแนวคิดที่ว่า แม้ว่าจีนจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและการนำเข้าที่ลดลง แต่ไม่ได้ทำให้การค้าโลกชะลอตัวลงอย่างมาก 

การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำ แม้ว่าตามปกติแล้วอัตราเงินเฟ้อจะขยายตัวตามอัตราการเติบโตของเศรษกิจโลก แต่ปี 2018 จะไม่เป็นเช่นนั้น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อในปีหน้าอยู่ในระดับต่ำ คือค่าจ้างที่ไม่เพิ่มขึ้นมากนัก แม้ว่าอัตราการจ้างงานในหลายประเทศ เพิ่มขึ้นสู่ระดับก่อนวิกฤตการเงินโลกแล้ว แต่สัดส่วนของคนงานที่มีสภาพการจ้างชั่วคราวหรือไม่เต็มเวลามีเพิ่มขึ้น และจำนวนชั่วโมงทำงานเฉลี่ยลดลง

เศรษฐกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่ยังคงคึกคัก โดยปีนี้เศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ ได้รับผลดีจากการค้าโลกที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัว ของราคาโภคภัณฑ์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลดีต่องบดุลทางการเงิน ปัจจัยบวกจากภายนอกเหล่านี้จะมีผลน้อยลงในปีหน้า แต่ขอบเขตการลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าอุตสาหกรรมและการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์จะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของการค้าโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกด้วย

ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ไม่น่าจะผันผวนมาก จนส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ โดยความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ลดลงในช่วงปีที่ผ่านมา และตอนนี้โลกมีความผันผวนในระดับต่ำ ส่วนปีหน้าก็ดูเหมือนจะมีปัญหาน้อยกว่าในหลายปีที่ผ่านมา โดยการสำรวจรายไตรมาสของทางอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ระบุว่า ความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมือง (ที่น่ากังวลที่สุดคือเกาหลีเหนือ), ความผิดพลาดทางนโยบายของสหรัฐฯ และการชะลอตัวอย่างรุนแรงของจีน ถือเป็นความกังวลเรื่องใหญ่ 3 เรื่อง ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก โดยมีการพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง 3 อย่างดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนที่เชื่อว่าจะทำให้มีปัญหาขึ้น

เตรียมรับมือวิกฤติเศรษฐกิจในอนาคต

1. ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส

2. ต้องมีปัจจัยห้าอย่างเท่าที่จะพอดำรงชีวิตได้

3. เลือกที่จะประหยัดแค่พอเหมาะ

4. การประหยัดในระยะยาวได้ดีจะขึ้นกับทำเล อาศัยสภาพแวดล้อมช่วยอีกทาง

5. หมั่นติดตามข่าวสารแต่ไม่ตื่นตูม

หมายเลขบันทึก: 646844เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2018 14:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน 2018 14:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท